การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ การออกมาจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆบ้าง แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น แต่การออกไปเที่ยวก็เหมือนเติมไฟ เติมสีสันต์ให้ชีวิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และยังช่วยลดความเครียดอีกด้วย สถานที่ที่อยากจะแนะนำสำหรับใครที่มองหาทะเลสวยๆ คงไม่พลาดที่นี่ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูน ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของทะเลที่มีสีสันสดใสสวยงาม และปะการังที่สวยมาก ส่วนที่พักและทริปเราเลือกของ Good mood traver ในราคา 3,600 บาท/คน โดยมีอาหารเช้าให้ในวันที่ 2 และวันที่ 3 และมีอาหารกลางวันให้ในวันที่ 2 พร้อมกับทริปดำน้ำแบบเต็มวันอีกด้วย ซึ่งทาง Good mood traver ได้จัดส่งโปรแกรมมาให้ดูประมาณนี้ ก็ค่อนข้างถูกใจ จึงทำการจ่ายมัดจำไปก่อน 50% ส่วนที่เหลือก็รอจ่ายในวันเข้าพักได้เลย สวัสดีหลีเป๊ะ...! เมื่อถึงกำหนดวันเดินทาง ลองมาดูกันค่ะว่าทริปในแต่ละวันและค่าใช้จ่ายนั้นมีอะไรบ้าง Day 1 : ขอเริ่มที่การมาถึงท่าเรือปากบารา ในเวลา 11.00 น.เลยนะค่ะ วันนี้เราจะต้องนั่งเรือสปีดโบ๊ทเพื่อไปยังเกาะหลีเป๊ะ แต่ก่อนอื่นก็ต้องซื้อตั๋วกันก่อน ในราคา 60 บาท จากนั้นก็รอเรียกตามคิวเพื่อขึ้นเรือ พอเรือมาถึงก็แอบตกใจเล็กน้อยเพราะคนเยอะมาก ซึ่งต้องนั่งเบียดกันในเรือ และอีกเรื่องขอแนะนำนะค่ะใครที่ไม่เคยนั่งเรือสปีดโบ๊ทมาก่อนควรกินยาแก้เมาเรือ เพราะเราเองตอนแรกก็ไม่กินค่ะ สุดท้ายไปถึงกลางทางเริ่มมีอาการมองหาถุงพลาสติกและพยายามทำสมาธิขั้นสูงสุด แต่ก็พ่ายแพ้ค่ะขอยอมกินยาแต่โดยดี เพราะหากปล่อยไว้อาจเป็นภาระทางสายตาของคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆได้ พวกเราเริ่มขึ้นเรือสปีดโบ้ทเมื่อมุ่งหน้าไปเกาะหลีเป๊ะเวลาประมาณ 11.30 น. และระหว่างทางเจ้าหน้าที่จะจอดแวะให้ชมเกาะตรุเต่าและเกาะไข่ แต่ทำเวลาให้ไวนะค่ะ แวะให้ชมความงามและถ่ายรูปจุดละ 15 นาทีเท่านั้น เรียกว่าต้องวิ่งถ่ายรูปแข่งกับเวลากันเลยทีเดียว จากท่าเรือปากบารามายังเกาะหลีเป๊ะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อพวกเราถึงเกาะหลีเป๊ะแล้วสิ่งแรกที่วิ่งหาเลยคืออาหาร ซึ่งที่เกาะหลีเป๊ะมีแหละอาหารมากมายค่ะ สามารถไปเดินเลือกช๊อปกันได้เลย สถานที่ก็คือคือ Lipe Walking Street มีอาหารให้เลือกมากมาย ส่วนราคาอาหารนั้นก็มีตั้งแต่ราคา 40 บาท ไปจนถึงแพงสุด สามารถเลือกได้ตามความพอใจเลยค่ะ Day 2 : เป็นโปรแกรมของการดำน้ำดูปะการัง ต้องบอกก่อนนะค่ะว่าวายน้ำไม่เป็นแต่ก็ไม่ได้น่ากลัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยลากเราระหว่างดำน้ำ เพื่อช่วยให้เราได้ชมปะการังอันสวยงาม เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าจุดไฮไลท์ของหลีเป๊ะก็คือปะการังนั้นเองค่ะ แต่อาจจะต้องจ่ายค่าเหนื่อยให้พี่เค้าหน่อยค่ะราคาไม่แพง 60 บาทเองค่ะ และที่สำคัญมีชุดอุปกรณ์ดำน้ำมาให้ด้วยค่ะ เราแวะดำน้ำกันหลายจุดค่ะ และบางจุดก็แวะให้ถ่ายรูปตามเกาะ จริงๆเตรียมชุดสวยๆมาถ่ายด้วยก็จะดีมากๆค่ะ เพื่อให้ได้บรรยากาศและภาพที่สวยงาม แต่ของเรา คือเราไม่รู้จึงไม่ได้วางแผนเรื่องนี้มา นึกว่าไปดำน้ำอย่างเดียว เลยมีแต่ชุดดำๆชุดสำหรับดำน้ำทั้งทริปของ Day 2 เลยค่ะนี้คือเกาะหินงามเป็นเกาะที่ไม่มีทรายเลยค่ะ มีแต่หินล้วนๆ แต่สวยมากๆค่ะ และในช่วงเที่ยงก็จะแวะเกาะเพื่อให้ทานอาหารเที่ยง เล่นน้ำและถ่ายรูปค่ะ ทางเจ้างของทริปก็มีมีข้าวกล่องให้ค่ะ ส่วนใครอยากซื้อเพิ่มก็จะมีร้านอาหารประจำเกาะหนึ่งร้าน มีส้มตำด้วยนะค่ะ ราคาประมาณ 50-60 บาทแล้วแต่ว่าสั่งส้มตำอะไร รสชาติอร่อยอยู่นะค่ะ ย้ำอีกทีค่ะควรนำชุดมาเปลี่ยนเพื่อถ่ายรูป หากต้องการภาพสวยๆ ส่วนเราทั้งทริปของ day2 ก็จะเป็นชุดดำน้ำนี้แหละคะ เอาไว้ไปรอบหน้าจะหอบไปเป็นคอเลคชั่นเลยค่ะ ดำน้ำชมวิว ถ่ายรูปกันจนตัวเริ่มเกรียม เพราะก็ร่องเรือกันตั้งแต่ 10.00 น. จนถึง 15.30 น. จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอกลับที่พัก เพราะมีแพลนที่จะต้องไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่ Sunset Beach ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมารอชมพระอาทิตย์กันเยอะมากค่ะ Day 3 ก็มาถึง ชมพระอาทิตย์ตกไปแล้ว ก็ต้องมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันบ้าง มาดูกันค่ะว่าจะสวยขนาดไหนแล้วก็ถึงเวลาที่จะต้องโบกมือลาเกาะหลีเป๊ะ สถานที่สวยงามมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อน และชอบการดำน้ำดูปะการัง ขอแนะนำเป็นที่นี่เลยคะ รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง ส่วนทางเราจะกลับมาอีกแนะนอนคะชอบทะเลที่นี้มากๆ ***เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียนเอง