ช่วงปีที่ผ่านมา เจอมรสุมรุมเร้าชีวิตมากมาย ทำให้พบเจอกับความเครียดสะสม พอมีปัญหามักจะเกิดคำถามทำไม? ทำไม? นั่งพิจารณาก็แล้วถึงเหตุและผล ยังหาทางปลดปล่อยไม่หลุด จังหวะที่ดีมีผู้ใหญ่ใจดีเอาทะเลและโปรแกรมที่เราอยากไปมาหลอกล่อ นั่นคือ ไปเที่ยวทะเลหลีเป๊ะ ด้วยโปรแกรม 3 วัน 2 คืน ซึ่งหากตกลง ขอแค่เราแบกร่างเดินทางไปแค่นั้น ใครจะปฏิเสธ? เริ่มเก็บเสื้อผ้า ออกเดินทางจากเหนือสุดแห่งสยามพร้อมกับปัญหาที่ยังค้างคาใจ กันเลยจ้า แบกเอาปัญหาไปทิ้งลงทะเลให้หมด แต่เอ๊ะ! เดี่ยวก่อน... ปัญหาเก่ายังไม่ทันได้ทิ้ง ปัญหาใหม่โผล่มากลางทะเลเสียอย่างงั้นมรสุมชีวิตนี้ที่จะเอาไปทิ้งทะเล มาเจอมรสุมใหม่ จะเป็นอย่างไร ดูกัน วัน 1 มรสุมทะเล สู้กลับ มรสุมชีวิต เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง ถึงสนามบินหาดใหญ่ เวลา 07.40 น. มีรถตู้ที่มารับเราไปส่งท่าเรือสปีดโบ๊ทที่ปากบารา จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นบริการเหมารวมแพคเกจของทางรีสอร์ทที่เราไปพัก แพคเกจ 3 วัน 2 คืน เหมารวม ห้องพัก รถรับ-ส่ง เรือไป-กลับ ทริปดำน้ำ อาหาร 3 มื้อ ประกันภัยอุบัติเหตุ เหมาหมดจบในกระบวนการเดียว เราถึงปากบารา อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา 11.00 น. ไปเช็คอินตรงจุดบริการบริษัทเดินเรือ รับบัตรคิว รับสติกเกอร์ติดกระเป๋า (เราเอาติดทั้งตัวคนและกระเป๋า) จากนั้นเข้าไปบริเวณที่พักรอลงเรือ เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานนะคะ ไม่รวมในแพคเกจ ต้องรอเรียกคิวขึ้นสปีดโบ๊ท ขึ้นมาแล้วเลือกที่นั่งแถวริม ใส่ชูชีพ ออกเรือกันค่ะ ลำนี้จากที่ดูนั่งได้ประมาณ 70 คน นักท่องเที่ยวเต็มเรือ ทั้งไทยและต่างประเทศบรรยากาศตรงท่าขึ้นเรือสปีดโบ๊ท ตอนออกมาฟ้าแจ้งจางปาง พอเอาเราออกทะเลได้สักพัก คลื่นเริ่มสูง สังเกตจากเรือที่เริ่มเหมือนจะปะทะคลื่นเสียงดัง ใจคิดคงปกติธรรมดาของทะเล สักพักเจอคลื่นสูงมาก มากจนมีความรู้สึกเหมือนเรากำลังเหาะ ผู้โดยสารในเรือเริ่มหน้าเปลี่ยน เริ่มมีเสียงอาเจียนจากด้านหน้าเรือ ต่อด้วยกลางเรือ ท้ายเรือเอาตาม มีคนแรกและมีคนต่อๆ ไป ที่เห็นหนักสุดผู้โดยสารชายชาวต่างชาติอาเจียนจนน่าสงสารเอามรสุมชีวิตมาทิ้งทะเล แต่มรสุมทะเลสู้กลับ จากคลื่นสูง เหมือนเราเหาะ ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ฝนเริ่มมา เอาค่ะ!! เรามาร่วมชะตากรรม เอาไงเอากัน กำชูชีพแน่น น้องผู้ชายที่ไปด้วยเริ่มไม่ไหว บอกมันเสียว ไอ้เราก็เกร็ง เกร็งตั้งแต่ปลายเส้นผมยันปลายเท้า ปลอบใจน้องไป อย่าฝืนให้เราทำตัวโล้ไปกับคลื่น เวลาที่เรือขึ้นเราก็เหยียดตัวขึ้นตาม พยายามอย่าเกร็ง คลื่นแรงเอามาก มรสุมชีวิตคืออะไร? ตอนนี้คิดไม่ทันแล้วค่ะ ข้างหน้าเมฆดำมาทีเดียว ใช่ค่ะ ทั้งฝน ลม คลื่น มาหมด สาดเข้ามาไม่ยั้ง ตอนนี้ชีวิตเหมือนเล่นไวกิ้ง จะสวดมนต์ ก็เริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก ลืมบทสวดไปซะงั้น(เด็กที่สูงกลัวคลื่นคราวนี้แหละ) จะถ่ายรูปก็ใช่เวลา น้องมันเริ่มซบไหล่ พอเราขยับ ก็จะได้ยินเสียงบ่นว่า อย่าขยับ!!! ชีวิตนี้ไม่มีเวลาคิดถึงมรสุมของตัวเองที่พกมาอีกต่อไป มรสุมที่ซบไหล่กับพลังคลื่นซัดสาดตอนนี้มาอันดับ 1 มาต่อด้วย เรือแล่นสู้ทะเลไปสักพักดับเรือ?หรือเรือดับ? จอดกลางทะเล ท่ามกลางคลื่น สายฝน เราเริ่มวอกแวก แต่ขยับหัวไปมาได้อย่างเดียว ใจแอบเสีย กัปตันเรือ กับลูกเรือเริ่มส่งภาษากัน แต่ยังดีที่สักพักก็เริ่มออกเดินเรือต่อสู้คลื่นสู้ฝนจนเห็นฝั่งท้ายเรือตอนเจอคลื่น ฝน ลม แถวนั่งหลังสุดคนเคยเต็ม หนีขยับมาข้างในหมด โป๊ะแตก!! เรือจอดเทียบโป๊ะ สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นหาด ก่อนหน้านี้เจอคลื่น เจอลม เจอฝน เชือกโป๊ะขาดไป เวลานั้น มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งตัวเราลงจากเรือมายืนรอบนโป๊ะแล้ว เกือบ 10 กว่านาที คลื่นพัดเข้าฝั่งและฝนโปรยปราย สรุปต้องแก้ด้วยการให้ขึ้นเรือเหมือนเดิมแล้วขับไปลงอีกฝั่งค่ะภาพที่เราจำได้ ตอนเราขึ้นเรือแล้วมองกลับไปชายฝั่งที่มีโป๊ะลอยตามคลื่นซัดสาด สิ่งที่ผุดขึ้นมาในความคิดคือ ความเคว้งคว้าง การลาจาก ความคาดหวัง มรสุมทุกอย่าง มันถูกทิ้งไปกับภาพโป๊ะที่ลอยส่ายไปตามคลื่น หรือจริงๆ แล้วจะหายไปตั้งแต่กลางทะเล เรารอดแล้วววว! เมื่อเห็นป้ายที่พัก จากนั้นเช็คอินค่ะ ทางรีสอร์ทเอาน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ หวานชื่นใจมาบริการรับขวัญ สอบถามกันการเดินทาง สรุปคร่าวๆ ได้ว่า พายุเข้าช่วงที่เราล่องเรือกันมาเกาะนี่แหละ! เข้าห้องพัก จัดการตัวเอง มีอาการเมาคลื่นเล็กน้อย ส่วนน้องผู้ชายสลบตั้งแต่หัวถึงหมอน ฝนยังคงตกๆ หยุดๆ ตลอดทั้งวัน พอตั้งสติได้ ก็ออกมาพายเรือเล่น เล่นน้ำทะเลกันทั้งแบบฝนตกฝนหยุดนี่แหละค่ะ เข้าที่พัก แล้วค่ำๆ ก็ไปเดินถนนคนเดินของหลีเป๊ะ เดินหาของกินรอบค่ำเรียบร้อยกลับเข้าที่พัก พรุ่งนี้เตรียมตัวไปดำน้ำกันค่ะ วันที่ 2 เผชิญมรสุมทะเลกันต่อ มรสุมชีวิตหมดไปกับภาพโป๊ะแตกในความทรงจำ บรรยายด้วยภาพ วันนี้มีนัดไปดำน้ำ 8.30 น.แต่ว่าเรายังออกไม่ได้ เพราะสภาพอากาศ ฝนตกหนักสลับเบา เกือบครึ่งเช้า เจ้าหน้าที่รีสอร์ทบอกว่า 11 โมง เรามาเจอกันอีกที ฝนซาเล็กน้อย ได้เจอพี่ที่จะเป็นไกด์ขับเรือพาเราไปดำน้ำดูปะการัง ภาพทรงจำ สดใส ปะการังสีสันรอเราอยู่แน่นอน.....เปล่าเลย!! สงสัยบาปกรรมที่มีความคิดที่เราจะเอามรสุมชีวิต(ของเสีย) มาทิ้งทะเล แต่ดันมาเจอทะเลสู้กลับ ทั้งฝน คลื่น ลม ขนาดชูชีพยังแทบเอาไม่อยู่ สรุปพี่ที่เป็นไกด์ ก็เป็นคนพาพวกเราเกาะห่วงชูชีพ (อิจฉาพี่เค้าดำน้ำเก่งมาก) ลากพวกเราดำน้ำกัน คนอื่นดำน้ำดูปะการังสีสวยสดใสมาแล้ว มาเจอพวกเราปะการังน้ำขุ่น สนุก สดใส ไปแบบน้ำขุ่นๆ ประทับใจไปอีกแบบ ถือว่าได้มาเปลี่ยนสถานที่ทานข้าวบนเรือโคลงท่ามกลางสายฝนโปรย ดูปะการังที่สวยไม่เหมือนปกติ ลมแรงคลื่นแรง สังเกตธงสะบัดจนเกือบจับภาพไม่ได้ วันที่ 3 หมดทั้งมรสุมชีวิต และมรสุมทะเล แต่ต้องลาแล้วหลีเป๊ะชั้นรอดจากสภาพเด็กที่สูงตื่นคลื่นทะเลมาเหยียบพื้นเกาะได้ ทำไมชั้นจะรอดจากปัญหาต่างๆ ไม่ได้ วันกลับเหมือนฟ้ามาโปรด มรสุมชีวิตที่คิดไม่ตก มันหมดไปกับมรสุมทะเลวันแรก ด้วยคิดว่า วันนี้ท้องฟ้าสดใส ท้องทะเลสีสวย แต่วันนี้พวกเราต้องกลับแล้ว ทางรีสอร์ท จัดเรือไปเที่ยวชมเกาะหินงามให้ เนื่องจากว่าเมื่อวานทริปดำน้ำของเราขลุกขลักกับสภาพอากาศและได้ดำน้ำจุดที่ไม่สามารถเลือกได้ ระหว่างล่องเรือไปฟ้าสวย น้ำใส ได้แต่คิดออกมาดังๆ ทำไมเมื่อวานไม่เป็นแบบนี้ มองลงไปในน้ำเห็นแนวปะการังสวยงาม จนอยากกระโดดลงน้ำอีกสักรอบ แต่พอมาถึงเกาะหินงาม ฝนโปรยปรายเล็กน้อย เดินสำรวจรอบๆ หินงามจริงๆ ได้แต่คาดหวังในใจ คราวหน้าจะมาแบบจิตใส เจตนาดี เผื่อจะเจอความสดสวยของโลกใต้ท้องทะเลหลีเป๊ะที่แท้จริง (ความจริงต้องมาช่วงไม่มีมรสุม) มรสุมชีวิตต่างๆ เหือดหายไปตั้งแต่เจอคลื่นลมพายุกลางทะเล ไหลลงซึมผืนดินไปกับสายฝนระหว่างที่พักบนเกาะ กลับมาเพื่อก้าวต่อไปบทสรุปการเดินทาง มรสุมชีวิตไม่น่ากลัวเท่ามรสุมทะเลหลีเป๊ะ จะต้องมาอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เพราะขนาดมาเจอมรสุมยังประทับใจ มาตอนฟ้าใสคงหลงใหลน่าดู1.อาหารวันแรกที่มาถึง เราเลือกทานอาหารเย็นที่ร้านบังรูณนะคะ เสียงดนตรีเล่นสดที่บนเวทีมีนักดนตรีทั้งเด็กผู้ใหญ่ดึงดูดเรามาก ทานอาหารแบบง่ายๆ ฟังเพลงสบายสลับโยกย้าย ครึกครื้นดีเชียวค่ะ อาหารอร่อยมาก ในร้านแทบจะเป็นผู้ชายทั้งหมด แต่เอาใจใส่ดีมากค่ะ มื้อเช้าทานของรีสอร์ท มื้อสายทานบนเรือ รีสอร์ทเตรียมให้ระหว่างไปดำน้ำ อาหาร+น้ำเปล่า+ผลไม้ เลือกนั่งทานบนเกาะได้ แต่พวกเราเจอฝนเลยต้องมาทานบนเรือส่วนวันที่สองอาหารค่ำเราเลือกร้านที่นั่งริมหาด ของ Akira Lipe บรรยากาศดีมื้อเช้าวันที่ 3 ทานของรีสอร์ทค่ะ อาหารอร่อยค่ะถูกปากทีเดียว 2.การเดินทางเดินทางไป-กลับ เชียงราย-ดอนเมือง โดยสายการบินแอร์เอเชียเดินทางไป- กลับ ดอนเมือง-หาดใหญ่ โดย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ นั่งรถตู้รับจ้าง ไป-กลับ จากสนามบินหาดใหญ่ เข้าสู่จังหวัดสตูล ด้วยระยะทางประมาณ 97 กิโลเมตร ถึง ท่าเรือปากบารานั่งเรือสปีดโบ๊ท ไป-กลับ ออกจากท่าปากบารา มุ่งสู่เกาะหลีเป๊ะ3.ที่พัก (แพคเกจ 3 วัน 2 คืน)วาปีรีสอร์ท Wapee Resort ห้องพัก ดีลักซ์ อาหาร 3 มื้อ ,รถรับ-ส่ง,เรือไป-กลับ,พร้อมทริปดำน้ำ1 วัน ,ประกันอุบัติภัยราคาต้องติดต่อทางรีสอร์ทนะคะ ว่าช่วงเวลาที่ไปค่าใช้จ่ายรวมแพคเกจเท่าไหร่ ข้อมูล1.หาดซันไรซ์ เกาะหลีเป๊ะ ที่อยู่ : ตำบลเกาะตะรุเตา อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล พิกัด : https://goo.gl/maps/TK17xL4An7vj38Qw9เปิดให้เข้าชม : ตลอดเวลา2. Wapee Resort ที่อยู่ : ตำบลเกาะตะรุเตา อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล พิกัด: https://goo.gl/maps/EghyfxGSKzwnFdwaAเวลาให้บริการ : เวลาเช็คอิน: 14:00 ,เวลาเช็คเอาต์: 11:00เว็ปไซต์: www.wapiresortkohlipe.com เบอร์โทร: 089 464 5854 , 080 037 61503. BungRoon Restaurantที่อยู่ : เลขที่ 387 เกาะหลีเป๊ะ(อยู่ในถนนคนเดิน) อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลพิกัด: https://goo.gl/maps/sfhNYYzfRjosma156เวลาให้บริการ: -เว็ปไซต์: -เบอร์โทร: 08508055594. Akira Lipeที่อยู่: 370 หมู่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย หาดพัทยา อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลพิกัด: https://goo.gl/maps/teY2aN3jb4YG3MjT6เวลาให้บริการ: เวลาเช็คอิน: 14:00, เวลาเช็คเอาต์: 12:00เว็ปไซต์: http://www.akiralipe.com/เบอร์โทร: 09130130105. ท่าเรือปากบารา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่อยู่ :ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูลพิกัด: https://goo.gl/maps/uMtbcmomziCdmB2g6เวลาให้บริการ:-เว็ปไซต์:-เบอร์โทร:-ภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดจากผู้เขียน :Namplaแชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”