ในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ทำให้กระทบกับชีวิตของผู้คนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อาชีพการงานที่เปลี่ยนรูปแบบไป หรือความบันเทิงในชีวิต เช่นการดูหนัง ฟังเพลง แม้แต่การไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ในช่วงหลังเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นอันต้องหยุดกิจกรรมดังกล่าว บางท่านเป็นคนที่ออกกำลังกายในสถานออกกำลังกาย (Fitness Center) เป็นประจำ สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง หรือแทบทุกวัน เป็นอันต้องหยุดกิจกรรมนี้ เนื่องจากการหยุดให้บริการของสถานออกกำลังกาย เป็นหนึ่งในมาตรการการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคระบาดตามประกาศของรัฐบาล ปัญหาของผู้คนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ และต้องเปลี่ยนรูปแบบวิธีการออกกำลังกาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก เพราะการออกกำลังกายภายในสถานออกกำลังกาย จะแตกต่างเป็นอย่างมากกับการออกกำลังภายนอกอาคาร (Outdoor) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปกรณ์ในการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นตัวกำหนดวิธีการออกกำลังกายของนักกีฬา หรือแม้แต่เรื่องที่สำคัญ เช่นความปลอดภัยในการออกกำลังกาย ซึ่งแน่นอนว่าการออกกำลังกายพื้นที่ภายในตัวอาคาร จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น อุบัติเหตุทางถนน อุบัติเหตุระหว่างฝูงชนในการใช้พื้นที่ออกกำลังกายภายนอกร่วมกัน เป็นต้น และเมื่อทุกคนไม่สามารถเข้าใช้บริการสถานออกกำลังกายได้ หลาย ๆ ท่านจำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่ภายนอก ในการรักษาสภาพร่างกายเพื่อรอวันที่สถานออกกำลังกายกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง และกีฬาที่หลายท่านเลือกในการรักษาสภาพร่างกายคือการวิ่งตามถนนสาธารณะ เมื่อการออกกำลังกายพื้นที่ภายนอก เป็นสิ่งใหม่ที่หลายท่านอาจจะไม่คุ้นเคย จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่า การวิ่งบนถนนสาธารณะให้ปลอดภัยนั้น มีข้อควรพึงระลึกอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์ในการออกกำลังกายและเกิดความปลอดภัยแก่ตัวท่านเองอย่างมากที่สุด 1. เมื่อวิ่งบนถนนอย่าใส่หูฟัง นักวิ่งมักจะใส่หูฟังเมื่อวิ่งบนลู่วิ่งในฟิตเนส เพื่อฟังเพลงหรือ Podcast ที่ชอบ เป็นการให้ความเพลิดเพลินในการวิ่ง และไม่ให้การวิ่งน่าเบื่อเกินไปนัก แต่บนถนนแตกต่างกัน เพราะนักวิ่งต้องระมัดระวังยานพาหนะซึ่งกำลังสัญจรไปมาอยู่บนถนนรอบตัวของนักวิ่ง หากไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือนของยานพาหนะ บางครั้งอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิต เพียงเพราะว่าเพลงที่กำลังฟัง ทำให้นักวิ่งไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก 2. วิ่งสวนเลนกับรถ แปลว่า ให้วิ่งในเลนที่รถกำลังวิ่งสวนเลนมา เพราะนักวิ่งจะเห็นรถที่มาจากด้านหน้าเสมอ หากวิ่งไปทางเดียวกับรถที่มาจากด้านหลัง จะทำให้การวิ่งของนักวิ่งเสียสมาธิตลอดเวลา เพราะมัวแต่ระวังรถที่มาจากด้านหลัง และเวลาวิ่ง เราไม่ได้โฟกัสในการควบคุมลำตัวอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้นักวิ่งวิ่งออกไปกลางถนนเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว และอาจจะเกิดอันตรายจากรถที่วิ่งมาทางด้านหลังได้ 3. พกน้ำ เงิน และโทรศัพท์ ในการวิ่งบนถนนระยะทางไกล อย่าทำให้ร่างกายขาดน้ำเมื่อท่านวิ่งบนถนนสาธารณะ หากเป็นนักวิ่งสมัครเล่น หรือนักวิ่งมือใหม่ มักจะลืมนึกถึงเส้นทางการวิ่งที่เป็นเส้นทางยาว จำเป็นต้องบริหารพลังงานในร่างกาย ระดับน้ำในร่างกายอย่างจริงจัง เนื่องจากในการวิ่งบนถนน ต้องวิ่งกลับมายังจุดเริ่มต้น ซึ่งก็คือท่านจะต้องมีแรงเหลือเท่ากับตอนที่ท่านเริ่มออกวิ่ง เพื่อวิ่งกลับไป หากร่างกายขาดน้ำ อาจจะไม่มีแรงเหลือเพียงพอ ถ้าท่านวิ่งอยู่ในเขตเมือง อาจจะยังไม่รู้สึกน่ากลัวเท่าไหร่นัก แต่หากท่านไปวิ่งตามพื้นที่ห่างไกล ท่านอาจจะได้รับอันตรายจากการที่ไม่มีใครเข้าช่วยเหลือท่านได้ทันท่วงที ข้อควรระวังทั้ง 3 ข้อที่เขียนให้ทุกคนได้อ่านกันไปนั้น ผู้เขียนเองเป็นคนที่วิ่งบนถนนสาธารณะทุกวัน และคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรกเสมอ จึงทำให้การวิ่งในแต่ละวันนั้น เสร็จสิ้น และกลับบ้านด้วยความปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีข้อควรระวังในการวิ่งบนถนนอีกมาก ซึ่งนักวิ่งแต่ละท่านลองพิจารณาดูว่ายังมีการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยในรูปแบบอื่น ๆ อีกอย่างไรได้บ้าง ลองเขียนกันมาดู เพื่อประโยชน์ของวงการวิ่ง และนักวิ่งท่านอื่น ๆ อีกด้วย รูปภาพทั้งหมด ถ่ายโดยเจ้าของบทความเอง