บทกลอน ของไทยได้รับความนิยมในยุครัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งคือยุคของสุนทรภู่กวีเอกของไทยความหมายของบทกลอน คือ ลักษณะคำประพันธ์ที่เรียบเรียงเข้ากันเป็นคณะมีสัมผัสกันตามลักษณะบัญญัติเป็นชนิด ๆ แต่ไม่มีบังคับวรรณยุกต์เอก หรือวรรณยุกต์โท และครุ - ลหุ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือกลอนสุภาพกลอนลำนำกลอนตลาดกลอนสุภาพ ถือเป็นกลอนพื้นฐานของกลอนทุกชนิด หากเข้าใจกลอนสุภาพแล้วก็จะสามารถเข้าใจบทกลอนอื่น ๆ ได้อย่างง่าย กลอนสุภาพแบ่งย่อยได้ 4 ประเภทคือ กลอน 6 กลอน 7 กลอน 8 และกลอน 9 กลอนลำนำ คือ กลอนที่ใช้ ขับ ร้อง หรือ สวด ให้มีทำนองต่าง ๆ ซึ่งกลอนลำนำแบ่งออกได้ 5 ประเภท คือ กลอนละคร กลอนสักวา กลอนเสภากลอนดอกสร้อย และกลอนขับร้องกลอนตลาด คือ กลอนที่ผสมระหว่างกลอนหลาย ๆ แบบคละกัน ไม่กำหนดคำตายตัวเหมือนอย่างกลอนสุภาพ ในวรรคหนึ่ง ๆ ของบทกลอนอาจจะมีวรรคละ 7 คำบ้าง 8 คำบ้าง หรือ 9 คำบ้างก็ได้ คือเป็นการเอากลอนสุภาพหลาย ๆ ชนิดมาผสมกัน นิยมใช้ในการขับร้องแก้ (การร้องโต้ตอบกันไปมา) จึงเรียกว่า " กลอนตลาด " ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ กลอนเพลงยาว กลอนนิราศ กลอนนิยาย และกลอนเพลงปฏิพากย์บทดอกสร้อยสุภาษิต เป็นหนังสือที่ผู้เขียนใช้เป็นตัวช่วยในการให้เด็ก ๆ ได้ฝึกอ่าน ด้วยรูปเล่มบางกระทัดรัดมีจำนวนหน้าเพียง 32 หน้า มีภาพประกอบน่ารักเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ตัวอักษรมีขนาดใหญ่อ่านง่ายสบายตา ซึ่งจัดพิมพ์โดยบริษัท dream จัดจำหน่ายโดยบริษัทบุ๊ค พอยท์ จำกัด และผู้รวบรวม คือ คุณพชร ปิ่นสุวรรณคุณพชร ปิ่นสุวรรณ ได้เขียนในบทคำนำไว้ว่า บทดอกสร้อยสุภาษิต เป็นบทกลอนที่กวีในสมัยรัชกาลที่ 5 ร่วมกันแต่งขึ้น โดยประสงค์เพื่อให้เด็กในสมัยนั้นได้มีบทกลอนสำหรับเด็กไว้ร้องเล่น เนื้อหาที่นำมาแต่งนั้นส่วนใหญ่มาจากบทกล่อมเด็กและบทร้องเล่นของเด็กในท้องถิ่นต่าง ๆ เมื่อรวบรวมได้แล้ว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสั่งให้จัดพิมพ์เป็นหนังสือขึ้นบทดอกสร้อยสุภาษิต จึงเป็นบทกลอนง่าย ๆ ที่เหมาะให้เด็กท่องจำและได้รับประโยชน์จากสุภาษิตที่สอนไว้ในบทกลอน และผู้เรียบเรียงได้นำแผนผังกลอนดอกสร้อยมาใส่ไว้เพื่อให้เข้าใจลักษณะการแต่งและการลงสัมผัสอย่างถูกต้องด้วยแผนผังกลอนดอกสร้อยบทดอกสร้อยสุภาษิต มีบทกลอนทั้ง 26 บทกลอน ดังนี้กาดำเด็กน้อยนกเอี้ยงเลี้ยงควายเฒ่าแมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟันมดแดงตั้งไข่ล้มต้มไข่กินไก่แจ้จันทร์เจ้านกเขาแมงมุมจ้ำจี้นกกระจาบดุเหว่าจิงโจ้โล้สำเภานกขมิ้นเหลืองอ่อนนกกิ้งโครงเข้าโพรงนกเอี้ยงตุ๊ดตู่อยู่ในรูกระบอกกะเกยเรือเล่นสามเส้นสิบห้าวาช้างพลายกระต่ายลิงลมหนูหริ่งตุ๊กแกอิ่มก่อนจุ๊บแจงในแต่ละบทกลอนจะมีการเขียนสรุปสาระสำคัญของบทกลอนนั้น ๆ ด้วย ผู้เขียนขออนุญาตหยิบยกมาเป็นตัวอย่างให้ผู้อ่านได้อ่านกันนะคะสาระของบทกลอน กาดำ กา ถึงแม้จะเป็นสัตว์ที่ตัวดำ แต่ก็มีใจรักเพื่อนพ้อง มีของกินก็ร้องเรียกเพื่อน ๆ ให้มาร่วมกิน เราจึงควรรักเพื่อน ๆ เยี่ยงกาสาระของบทกลอน : ตุ๊กแก สิ่งใดที่เป็นความลับก็ควรรักษาความลับนั้นไว้กับตัว ไม่ควรแพร่งพรายให้ผู้ใดรู้ เพราะอาจจะเกิดโทษแก่ตนเองได้บทดอกสร้อยสุภาษิต หนังสือดีอีกเล่มที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำให้เด็ก ๆ ได้อ่านกันนอกจากจะได้ฝึกทักษะการอ่านแล้ว เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของบทกลอน ได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ การจับใจความสำคัญของบทกลอน และที่สำคัญเป็นการปลูกฝังในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก ๆ ด้วยนะคะ เครดิตภาพกาดำ : https://pixabay.com/th/photos/อีกา-นกกา-สีดำ-ธรรมชาติ-จะงอยปาก-3190511/เครดิตภาพตุ๊กแก : https://web.facebook.com/khanaroj.ritrojjanakul