จากการเกิดวิกฤติ การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส COVID-19 ขึ้นไป และการออกแถลงการณ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว หลังมีการลุกลามไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งทำให้ผู้คน ไม่เพียงแต่ในประเทศที่เป็นแหล่งของการแพร่เชื้อเท่านั้น ที่เกิดความวิตกกังวล ความกลัวที่เข้าแทรกซึมภายในทั้งร่างกายและจิตใจของผู้คนในพื้นที่ห่างไกลออกไปก็ตื่นตะหนกไม่แพ้กัน ส่งผลทำให้การบริโภคลดลง มีผลทำให้การใช้จ่ายลดลง เกิดภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก เมื่อผู้บริโภคไม่ซื้อสินค้า ผู้ขายก็ไม่สามารถที่จะสร้างรายได้ กระทบไปยังผู้ผลิตวัตถุดิบ ซึ่งเมื่อผลิตสินค้าและบริการออกมา ก็ไม่สามารถสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น ภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบไปแทบทุกวงการ กิจกรรมทุกอย่างถูกสั่งยกเลิกชั่วคราว หรือมีโอกาสยกเลิกถาวร กิจการห้างร้านไม่สามารถไปต่อได้ จำเป็นที่ต้องปิดตัวลง หาดใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ เนื่องด้วยมีลักษณะภูมิประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกับทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย และนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางมาเที่ยวยังหาดใหญ่ สามารถใช้ชีวิตอยู่ในหาดใหญ่อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากวัฒนธรรมของชาวหาดใหญ่มีลักษณะที่สอดคล้องกับชาวจีนมาเลย์เป็นทุนเดิม อีกทั้งหากนักท่องเที่ยวต้องการจะเดินทางไปภูมิภาคอื่น หากเดินทางโดยรถยนต์ จำเป็นที่จะต้องผ่านอำเภอหาดใหญ่ จึงถือว่าหาดใหญ่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของเศรษฐกิจ และเมื่อมีข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ชาวหาดใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ผู้เขียนได้สัมภาษณ์ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในหาดใหญ่ ถึงผลกระทบต่อการใช้ชีวิตช่วงวิกฤตินี้ คุณอนุพงศ์ ไหนเหมือน นักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในหาดใหญ่ บอกกับเราว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจ ใช้หลักการตระหนักแต่ไม่ตระหนกในการใช้ชีวิต ถ้าจะมีผลกระทบก็เป็นเรื่องเรียนเนื่องจากมหาวิทยาลัยที่ตนศึกษาอยู่นั้น งดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนชอบไปเรียนในห้องเรียนมากกว่า การเรียนผ่านระบบออนไลน์ คุณมารุต บินสุอะหวา พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า ยังไม่ได้รู้สึกรับผลกระทบอะไร ในทุก ๆ ด้าน แต่คิดว่า หากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ปกติเคยได้ไปนั่งร้านน้ำชา หรือไปมัสยิด ก็จำเป็นที่จะต้องทำที่บ้าน ซึ่งความรู้สึกก็จะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย คุณสฐิตา ฐิติปราโมทย์ เจ้าของกิจการวัสดุก่อสร้างและการเกษตร กล่าวว่า รู้สึกเสียขวัญและกำลังใจพอสมควร เพราะกลัวว่า สมาชิกในครอบครัวจะได้รับเชื้อ และเพราะเป็นครอบครัวใหญ่ หากมีใครได้รับเชื้อมา มีโอกาสที่จะติดต่อกันได้ง่าย และนำไปสู่เรื่องที่ยุ่งยากขึ้น เช่น การกักตัว หรือ ค่ารักษาพยาบาล ในส่วนของกิจการของทางร้าน ก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างปิดตัวลงชั่วคราว เนื่องด้วยแรงงานไม่มีใครกล้าที่จะมาทำงาน ทำให้อุปกรณ์ก่อสร้างขายไม่ดี แต่วัสดุการการเกษตรยังพอไปได้ คุณเสด็จ ใบหมาด ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ บอกกับเราว่า ในเรื่องงานไม่ค่อยกระทบมากนัก เพราะในส่วนที่รับผิดชอบ ไม่จำเป็นต้องไปติดต่อกับบุคคลหรือหน่วยงานจากภายนอกอยู่แล้ว เพียงแต่มีการปรับระบบการทำงานภายในองค์กรบ้างบางส่วน ที่กระทบจริงก็จะเป็นวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากฟิตเนส ถูกปิดชั่วคราวทำให้ช่วงเย็นของทุกวัน ยังไม่รู้จะทำกิจกรรมได้บ้าง คุณสุดารักษ์ จันทร์ชนะ นักธุรกิจประกันภัยรายใหญ่ของหาดใหญ่ กล่าวให้เราได้แปลกใจว่า ตอนนี้ทำงานแทบไม่ทัน เป็นช่วงที่งานเข้ามากมาย เนื่องจากงานเป็นการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส มีลูกค้าติดต่อมาทำกรมธรรม์เยอะมาก เลยกลายเป็นโชคดี แต่ชีวิตส่วนตัวกระทบมาก เนื่องจากเป็นคนออกกำลังที่ฟิตเนสทุกวัน พอฟิตเนสหยุดให้บริการ ตนเองก็ยังไม่รู้จะทำยังไง และทำงานที่บ้านก็ทำให้ตนเสียวินัยในการกินไปอีก จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นทำให้เราทราบว่า ทุกคนได้รับผลกระทบจากวิกฤติในครั้งนี้ โดยที่แต่ละคนก็มีวิธีการรับมือที่แตกต่างกัน แต่ผู้เขียนยังเชื่อเสมอว่า ในทุกวิกฤติ ย่อมมีแสงสว่าง เพื่อชี้นำไปสู่ทางออกเสมอ รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน ตอนเข้าสัมภาษณ์