สงขลามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในขณะนี้อยู่บริเวณหลังประตูเมืองสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยเป็น "ย่านเมืองเก่า" ที่มีการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนซึ่งตั้งอยู่ระหว่างถนนหลัก 3 สาย เลียบขนานกับทะเลสาบสงขลา คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม โดยมีถนนเล็ก ๆ เชื่อมต่อถนนหลักทั้งสามเป็นแนวขวางถึงกัน 6 สาย คือ ถนนพัทลุง ถนนยะลา ถนนปัตตานี ถนนหนองจิก ถนนยะหริ่ง และถนนสายบุรี ย่านเมืองเก่าน่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ชื่นชอบด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะ และวัฒนธรรม เพราะมีตึกรามบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 30 ปี จนถึงเกือบ 200 ปี มีภาพวาดตามผนังอาคารกระจายอยู่บนถนนหลักและถนนย่อยดังกล่าวซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสงขลาในอดีต อาคารแบบจีนดั้งเดิม สร้างในช่วงตั้งเมืองสงขลา พ.ศ. 2379 ลักษณะอาคารเป็น 2 ชั้น ยาวลึกเข้าไปด้านใน ด้านหน้าขายของและด้านในสุดเป็นที่พักอาศัย อาคารแบบจีนพาณิชย์ คล้ายแบบจีนดั้งเดิมแต่ประยุกต์ให้เป็นแบบเรียบง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น อายุกว่า 70 ปี อาคารแบบชิโน-ยูโรเปียน ประดับตกแต่งด้านบนของหน้าต่างด้วยปูนปั้นลวดลายผสมผสานระหว่างจีนกับยุโรป คล้ายสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสในจังหวัดภูเก็ต อาคารแบบจีนสมัยใหม่ สร้างแนวตะวันตก มักจะบอกปีที่สร้างหรือชื่ออาคารไว้บนสุดของอาคาร ส่วนใหญ่มี 2-4 ชั้น และอายุกว่า 30 ปี จิตรกรรมฝาผนังตามอาคารต่าง ๆ ในย่านเมืองเก่า โรงสีแดง หับโห้หิ้น เคยเป็นโรงสีข้าวขนาดใหญ่กว่า 100 ปี ปัจจุบันเลิกกิจการแล้วและปรับปรุงเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับจังหวัดสงขลา นอกจากนี้ในบริเวณย่านเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า 5 แห่ง วัด 4 แห่ง และมัสยิด 1 แห่ง จึงทำให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาเป็นเวลาช้านานระหว่างคนต่างเชื้อชาติและศาสนา และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สายกินไม่ควรพลาดคือย่านนี้เป็นแหล่งอาหารทั้งคาวหวานมากมายหลายชนิด จากการบอกเล่าของคนในพื้นที่ทราบว่าอาคารเก่าโบราณในย่านเมืองเก่าสงขลาเริ่มหายไปทีละหลังสองหลังเนื่องจากชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาและความต้องการใช้พื้นที่ หากมีโอกาสควรแวะไปเยี่ยมชมกันก่อนที่จะกลายเป็นอาคารใหม่และหมดเสน่ห์ของความเป็นเมืองเก่า (ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน "ชีพจรลงเท้า")