แม่โจ้ '70 ไร่องุ่นติดถนนใหญ่ใกล้เมืองจะนะ ... หลังจากที่สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง หลายต่อหลายสถานที่กลับมามีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เราพาเพื่อน ๆ ล่องใต้ มาชมสวนองุ่นปลอดสารพิษที่หาชมได้ยากในจังหวัดสงขลากันค่ะ เป็นสวนองุ่นที่กำลังบูมเลยทีเดียว กระแสโซเชียลเลยพัดพาเรามาที่นี่ 'ฟาร์มองุ่นแม่โจ้ '70' สำหรับผู้อ่านที่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางมาที่นี่ง่าย ๆ โดยหากมาทางหาดใหญ่ ก็ได้ขับมุ่งตรงมาที่อำเภอจะนะ ถนนหาดใหญ่-ปัตตานี จะมีป้ายบอกตลอดว่าเหลืออีกกี่ร้อยเมตรจะถึงฟาร์มองุ่น เมื่อถึงแล้วจะมีป้ายใหญ่บอกไว้ ซึ่งจะฟาร์มองุ่นจะตั้งอยู่เยื้อง ๆ โรงเรียนจะนะวิทยา และร้านจะนะค้าไม้ค่ะ เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 น. พิกัด : maps เมื่อขับเข้ามาข้างในแล้วจะเจอกับป้ายใหญ่ ๆ เลี้ยวขวาลงมาเลยยย ที่จอดรถเขามีค่อนข้างเยอะ สามารถจอดได้หลายคัน ซึ่งเราโชคดีมาก ๆ ที่ช่วงเราไป ประมาณ 4 โมงเย็น คนค่อนข้างซาแล้วค่ะ จุดเช็คอินด้านหน้าเป็นป้ายชื่อฟาร์ม ตกแต่งด้วยกล้วยไม้สีสันสดใส ที่ใครมาก็ไม่ควรพลาด เพราะจุดนี้ถ่ายรูปสวยมาก ๆ และเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ด้วยนะ อะ อะ ... วันฝนตกน้ำขังนิดหน่อย เดินระวังกันด้วยนะจ๊ะ จุดจ่ายเงินทั้งค่าเข้าฟาร์มองุ่น และขี่ม้า ( เจ้าม้าน่ารักมาก ๆ แต่ด้วยน้ำหนักตัวของเรา เราจะไม่ทรมานน้องนะคะ ฮ่า ๆ ) หลังจากที่เราถ่ายรูปเช็คอินมุมสวย ๆ หน้าฟาร์มองุ่นกันไปแล้ว เดินมาต่อกันที่โซนขี่ม้ากันค่ะ ใครที่อยากลองขี่ม้าสักครั้งในชีวิตต้องห้ามพลาด เพราะที่นี่เขามีบริการขี่ม้าพาเดินรอบฟาร์ม ในราคาเพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น (เด็กและผู้ใหญ่ราคาเดียวกัน) นอกนั้นยังมีเป้าให้ยิงธนูฟรีอีกด้วย !! เห็นเป็นฟาร์มองุ่นเล็ก ๆ แต่กิจกรรมเขาก็เน้นนะเออ สำหรับใครที่มาในช่วงนี้ เรามีโปรดีดีมาบอกต่อ คือเตรียมเน็ตให้พร้อม เข้าไปกดไลค์เพจ 'ฟาร์มองุ่นแม่โจ้ '70' ลดค่าเข้าชมไปเลย 50% จากราคา 40 บาทเหลือเพียง 20 บาทเท่านั้น ไม่จำกัดเวลาในการเข้าชมด้วยนะ สามารถซื้อบัตรด้านหน้ากับพี่ที่ดูแลฟาร์มได้เลย บรรยากาศก่อนเข้าไปข้างในฟาร์ม รอบ ๆ จะล้อมไปด้วยป่า และธรรมชาติเขียวขจี ตรงทางเดินด้านซ้านจะเป็นโซนของร้านอาหาร และห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านเลยทีเดียว ท้าด้าาา ~ มาถึงข้างในฟาร์มแล้วค่ะ บรรยากาศช่วงเย็น ๆ แสงแดดสาดส่องผ่านใบองุ่น กระทบลงมาสู่เลนส์กล้อง ทำให้ภาพถ่ายสวย ๆ จะบอกว่าหากใครคาดหวังว่าที่นี่จะเป็นฟาร์มองุ่นใหญ่โต มีองุ่นมากมายเป็นสิบแปลงต้องผิดคาดนิดนึงค่ะ เพราะที่นี่มีองุ่นที่ปลูกไว้เพียงแปลงเดียว (ที่ออกผล) แต่การปลูกองุ่นได้สำเร็จ ถือว่ามีน้อยมาก ๆ ด้านหน้าจึงมีการขึ้นป้ายเอาไว้ด้วยว่า ฟาร์มนี้เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของชาวจะนะ คนบ้านเราก็เก่งไม่เบาเลยนะคะเนี้ย ยกนิ้วโป้งให้เลย ... ถึงจะมีน้อยแต่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพนะ เพราะในหนึ่งแปลงมีองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ที่มองด้วยตาเปล่าแบ่งตามสี ก็มีถึง 3 แบบแน่ะ !! แล้วใครจะคิดว่าพื้นที่เล็ก ๆ แต่มีมุมถ่ายรูปหลากหลาย และเถาองุ่นที่พันลงมา ถือว่าเป็นพื้นหลังของรูปที่สวยงามเลยนะ มุมนี้เเดดส่องลงมาพอดี ถ่ายรูปแล้วสวยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เข้ามาก็จะเห็นองุ่นที่มีพวงระย้าลงมา ประมาณ 3 สายพันธุ์ และจะมีป้ายความรู้ไว้ให้ได้ศึกษาว่าองุ่นชนิดนั้นสายพันธุ์อะไร มีความเป็นมาหรือความน่าสนใจอย่างไร ซึ่งข้อมูลตรงนี้เราไม่ได้ถ่ายมาเลยจำไม่ได้ ... แต่องุ่นที่นี่เป็นองุ่นปลอดสารทั้งหมด ปลูกด้วยกรรมวิธีแบบธรรมชาติ องุ่นที่ได้จึงมีสี ขนาดของลูกอวบกำลังดีที่น่ารับประทาน สำหรับใครที่อยากจะซื้อไปลองชิม ก็สามารถบอกทางคนดูแลได้ โดย 1 กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ 200-300 บาท ส่วนรสชาติก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ เหมือนจะมีรอยการเด็ดชิมไปแล้วด้วย เราไม่เเน่ใจว่าเขาให้ชิมไหม เลยแค่ถ่ายรูปดีกว่าา... องุ่นพันธุ์นี้สีเหลืองทอง สำหรับเราถือว่าแปลกตา เพราะเคยเห็นที่นี่ครั้งแรก ส่วนเจ้าผึ้งยักษ์ข้าง ๆ เป็นพร้อพที่เตรียมไว้ให้ถ่ายรูป น่ารักมาก ๆ เลยยย ส่วนใครที่อยากได้รูปชิค ๆ ที่นี่เขามีเก้าอี้แบบสูงไว้ให้บริการด้วยนะ สำหรับคุณผู้หญิงที่อยากได้รูปไว้ลงโซเซียลแนะนำให้นั่งไกว่ห้างยืดขา และให้ตากล้องส่วนตัวแช๊ะ รูปจากมุมเสย รับรองว่าจะได้รูปที่ดูขายาวสุดคูลแล้วล่ะค่ะ ... และนอกจากจะมีองุ่นแล้ว ยังมีสินค้าอย่างอื่นอีก เช่น รังผึ้ง ที่อร่อยสดปลอดสารเจือปน ใครที่ถ่ายรูปจนหิว ด้านนอกมีร้านก๋วยเตี๋ยวที่ทานได้ทั้งคนไทยพุทธ - อิสลาม และมีบริการให้ขี่ม้าด้วยเพียง 20 บาทเท่านั้น ใครอยู่ใกล้ และมีเวลาแนะนำให้มาที่นี่ ฟาร์มองุ่นแม่โจ้ ' 70 ครูอิงลิชอิสมี