เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวก็ได้ที่ผู้เขียนเองชอบคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งผันตัวเองเป็นนักเล่าเรื่องด้วยการออกหนังสือเล่มเล็ก ๆ ราคาเบา ๆ ในสำนักพิมพ์ Book Smile ที่หาซื้อได้ใน 7 Eleven ผ่านการเดินทางเพื่อเรียนรู้และวิธีคิดจากประสบการณ์ของตนเองที่สร้างเนื้อสร้างตัวจากการเป็นนักเรียนนอกครั้งอยู่ในประเทศใต้หวัน ก่อนจะเริ่มสร้างธุรกิจและขยายอาณาจักรธุรกิจจนถึงวัยที่รู้สึกว่า "เพียงพอแล้ว" จึงตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวของตนเองที่อาศรมกุฎาคาร ผ่านเพจเฟซบุ๊กที่มีแฟนคลับมากมายและหนึ่งในนั้นก็เป็นผู้เขียนที่ติดตาม จนมีหนังสือหลายเล่มในชื่อของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ รวมทั้งหนังสือเล่มนี้ที่จะรีวิวแบ่งปัน คือ คาถาวิกรม เครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนหนังสือเรื่อง คาถาวิกรม เป็นรวม 40 ข้อเขียนสั้น ๆ ผ่านมุมมองและประสบการณ์ในชีวิตของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ที่เขียนเสมือนสั่งสอนให้ลูกหลานคิดในสิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ต่อตนเองและการอยู่ร่วมกันไม่ว่าในฐานะใด ๆ ก็ตาม โดยประมวลข้อเขียนสั้น ๆ ที่ผู้เขียนอ่านแล้วประทับใจเป็นพิเศษตอนที่ 4 อย่าจนความดี ที่คุณวิกรม บอกเล่าว่า ความขัดสนยากจนเงินทอง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้บางคนอาจไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่หากยึดมั่นและกระทำความดี โดยเริ่มต้นจากการคิดดี ไม่มีใจคับแคบ ก็ถือว่าเป็นคนไม่ยากจนความดี ตอนที่ 5 พูดในสิ่งที่ตนรู้ ซึ่งคุณวิกรม ให้คำสอนว่า การพูดหรือแสดงความคิดเห็นใดก็ตาม จะส่วนตัวหรือสาธารณะ จะต้องพูดเรื่องดี ที่ตนเองรู้ โดยเรื่องนั้นมีความถูกต้องเป็นสำคัญ เพราะเมื่อใครพูดสิ่งที่ผิดพลาดไป อาจทำให้คนอื่นนำไปใช้แล้วกลายเป็นผลเสียได้ เหมือนกับการสร้างข่าวปลอม ซึ่งไม่มีประโยชน์กับใครเลย ตอนที่ 15 ไม่หิวก็ไม่กิน โดยคุณวิกรมบอกเล่าว่า คนที่มีปัญหาสุขภาพหรืออ้วน เป็นเพราะกินไม่เป็นเวลาและไม่รู้จักกิน ซึ่งแก้ปัญหานี้ได้ง่าย คือ กินเฉพาะเวลาหิว ถ้าไม่หิวก็จะไม่กิน การทำอย่างนี้ทำให้น้ำหนักตัวสามารถควบคุมได้ เพราะไม่กินจุบจิบ ตอนที่ 18 ฟังเขาได้ แต่ต้องตัดสินใจเอง ที่คุณวิกรม ระบุว่า เมื่อได้รับคำแนะนำ หรือคำปรึกษาจากใคร ผ่านการพบปะกับผู้คน ถือว่าเป็นประสบการณ์ทางอ้อมในชีวิต แต่เราจะต้องรู้จักคิด ตรึกตรอง ใคร่ครวญและตัดสินใจสิ่งเหล่านัันด้วยสติปัญญาของตนเอง ไม่ให้สิ่งใดมาอยู่เหนือสติปัญญาของเรา ตอนที่ 23 ทุกอย่างไม่ใช้แล้วก็ปิด ซึ่งในตอนนี้ คุณวิกรม พยายามสื่อความให้เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่าง ๆ เช่นน้ำ ไฟฟ้า เป็นต้น เพราะความประหยัดถือเป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตในทุกเวลาและสถานที่ ตอนที่ 36 มีอำนาจแล้วใช้ไม่เป็น โดยในตอนนี้ คุณวิกรม บอกเล่าว่า การเป็นผู้นำ หรือผู้บริหารองค์กร จะต้องใช้อำนาจที่มีอย่างมีประสิทธิภาพ เต็มกำลังความสามารถ ไม่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ซึ่งนั่นเป็นการลดหย่อนคุณภาพตนเองและไม่รู้จักใช้อำนาจในการทำหน้าที่ให้ดีงาม ตอนที่ 37 คิดแคบทำงานใหญ่ยาก จากเนื้อหาในตอนนี้ คุณวิกรมสอนว่า การทำงานใหญ่ จะต้องมีวิสัยทัศน์ คือคิดกว้าง มองไกล ไม่คิดจุกจิก อย่ามองโลกแคบ หรือคิดแต่ปัญหา เมื่อปลดล็อกความคิดแคบออกไป จะทำให้ทำงานใหญ่ได้ประสบความสำเร็จ เครดิตภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทสรุปจากการอ่านหนังสือ คาถาวิกรม ซึ่งเป็นข้อคิดสั้น ๆ แต่ได้คุณค่าและวิธีคิดที่มีประโยชน์มหาศาล โดยบทส่งท้ายให้คิดระบุว่า ทุกวันนี้ในสังคมบ้านเราแข่งขันกันด้วยความรู้ ความสามารถ ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นสามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้ ไม่มีใครเกิดมาแล้วทำงานได้เพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนสามารถเรียนรู้และฝึกฝนสามารถทำงานได้หลายอย่าง เพราะศักยภาพของความเป็นมนุษย์มีความหลากหลายและสามารถพัฒนาได้ไม่สิ้นสุด ดังนั้นความรู้และการฝึกฝน จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถใช้ทั้งสองอย่างนี้ เพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตได้...เครดิตภาพถ่าย จาก pixabayหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบในเวลาสั้น ๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และเป็นการอ่านซ้ำไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง จึงอยากแบ่งปันกับเพื่อน ๆ ให้หาหนังสือเล่มนี้ มาอ่านเล่น ๆ เพื่อฝึกวิธีคิดให้เป็นอย่างคนที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในชีวิต เครดิตภาพ จาก pixabay ติดตามเพจคุณวิกรม กรมดิษฐ์ https://www.facebook.com/VikromKromadit/ และเว็บไซต์ http://www.vikrom.net/