สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคนวันนี้เป็นหยุดสุดสัปดาห์ เป็นวันพักผ่อนสบาย ๆ ของเรา โดยปกติแล้วถ้าช่วงวันหยุดเรามักจะออกไปข้างนอกกับครอบครัว ไปทานข้าว หรือพาลูกออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่วันนี้เนื่องจากฝนตก เราสามคน พ่อ แม่ ลูก เลยตกลงกันว่าจะไม่ออกไปไหน และเราจะหากิจกรรมทำกันในบ้าน เนื่องจากเราอยากปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านหนังสือ เราเลยตกลงกันว่าวันนี้เราสามคนจะอ่านหนังสือกันให้ได้ 1 เล่ม คิดได้ดังนั้น เราจึงไปหาหนังสือที่ชั้นหนังสือให้ลูกอ่าน หนังสือของลูกคือ ความสุขของกะทิ, หนังสือของแฟนคือ สะพานขาด และหนังสือของเราคือเล่มนี้ เล่มที่ทำให้เราหันมาสนใจเกี่ยวกับจิตใจของเรา คือหนังสือเล่มนี้ค่ะ เข็มทิศชีวิต ผู้เขียนคือคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง หนังสือเล่มนี้มีอายุ 12 ปีแล้วค่ะ จำได้ว่าช่วง 12 ปีก่อนในวันนั้น เป็นวันที่รู้สึกในใจเรามีความทุกข์ มีความไม่สบายใจ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าความไม่สบายใจหรือความกังวลใจที่เกิดขึ้นมีที่มาจากอะไร และช่วงนั้นหนังสือเล่มนี้ติดอันดับ Best seller เราจึงสนใจในคำโปรยหน้าปก แล้วหยิบเล่มนี้กลับบ้านมาอ่านแบบรวดเดียวจบ เรารู้สึกว่าในใจเริ่มผ่อนคลาย เบาบางลง ใจสบายขึ้น และหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้เราได้หันกลับมาดูแลจิตใจของเราค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับเพื่อน ๆ เผื่อจะเป็นประโยชน์แม้เพียงสักน้อย เราก็ดีใจมากแล้วค่ะหนังสือเข็มทิศชีวิตมี 6 Part คือ หยุด...ทบทวน, รู้กฎของชีวิต, วางใจให้ถูกต้อง, กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้อง, ใช้ชีวิตให้ตรงเป้าหมาย, เลือกและรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดี และ Part สุดท้ายคือ ทุกอย่างรวมลงที่...ใจ เราขอแยกรีวิวแต่ละส่วนนะคะ1. หยุด...ทบทวนเป็นการหาต้นเหตุแห่งความทุกข์ ผู้เขียนบอกให้เราหยุด ให้กลับมาทบทวน สำรวจชีวิตตัวเองก่อน ว่าทั้งชีวิต ทำอะไร และเพื่ออะไรก่อน หากเราไม่รู้ถึงต้นเหตุแห่งทุกข์ เราก็จะแก้ความทุกข์ที่มีไม่ถูกจุด ขออ้างถึงบทความบางตอนในส่วนนี้นะคะ...ลองใช้เวลาทบทวน และลองเขียนคำตอบของตัวเองดูวินาทีนี้ ทำอะไร เพื่ออะไร- หยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อน เปิดทีวีตลอดเวลา เพราะใจมันว้าวุ่น เหงา แกว่ง- ตำหนิคนอื่นเพื่อให้รู้สึกตัวเองดีกว่า- หาอะไรทำตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่ายังมีค่า แต่ก็ยิ่งเหนื่อย ยิ่งหงุดหงิด และหมดพลัง....2. รู้กฎของชีวิตเมื่ออ่านบทนี้ เราจะรู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็จบไป ไม่มีอะไรที่จะเหมือนเดิมไปตลอดกาล อย่างที่เราเคยได้ยินกันบ่อย ๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แต่หากเราไปยึดไปถือไว้ว่า ของฉัน ตัวฉัน เราเองนี่แหละค่ะที่จะเป็นทุกข์ขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะในแต่ละขณะ ในแต่ละวัน หมั่นชำเลืองสังเกตความรู้สึก ตามดูการทำงานของจิตใจ สังเกตความรู้สึกที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ดูความคิดที่ผุดขึ้นและหายไป รู้สึกถึงแรงผลักดันภายในใจ เห็นความไม่เป็นแก่นสารของความรู้สึกนึกคิด เป็นเหมือนหมอกควัน เหมือนพรายน้ำที่ผุดขึ้นมาแล้วหายไป ถ้าเราไม่เข้าไปช่วยมันทำงาน คนหลายใจตัวจริงอยู่ตรงนี้นี่เอง3. วางใจ ให้ถูกต้องผู้เขียนบอกให้เรารู้ว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรในโลกนี้ที่มันเป็นไป และถ้าเราปล่อยวางมันไม่ได้ ไปบังคับมัน เมื่อนั้นใจเราจะทุกข์ทันที เราต้องรู้เท่าทันใจเราเอง ปล่อยวาง ใจเราเองก็จะรู้สึกเบา สบาย ขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะชีวิตเราเลือกให้มีแต่สิ่งที่เราพอใจไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกรู้ทันใจที่กำลังจะหยิบฉวยก้อนหนาม จัดการกับปัญหาด้วยใจที่ไม่ทุกข์ได้ 4. กำหนดเป้าหมายให้ถูกต้องผู้เขียนอยากให้เราคิด ให้ตระหนักว่า เป้าหมายที่แท้จริงในชีวิตเราคืออะไรกันแน่ ในสังคมปัจจุบันประกอบไปด้วยคุณค่าแท้และคุณค่าเทียม หากเราใช้ชีวิตตามค่านิยมคนอื่น ตามความสุขคนอื่น ใจเราเองก็จะหนัก จะเหนื่อย ไม่มีความสุขที่แท้จริง ซึ่งแท้จริงเราความสุขหรือเป้าหมายในชีวิตเรา อาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่น ทุกคนในครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ได้กินข้าวพร้อมกัน ได้มองพระอาทิตย์ขึ้นทุกเช้า ซึ่งเหล่านี้เรามีความสุขกับมันได้โดยไม่ต้องใช้เงินเลยขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะวันนี้ในชีวิตคุณ มีอะไรที่คุณเลือกเพราะภาพลักษณ์ภายนอกแล้วกลายมาเป็นสิ่งที่สร้างภาระให้คุณต้องแบกไว้จนหนักใจบ้าง5. ใช้ชีวิตให้ตรงกับเป้าหมายการที่เรากำหนดเป้าหมายในชีวิตผิด เราก็จะพาชีวิตไปผิดที่ผิดทาง เราจึงต้องตระหนัก ทบทวน อยู่เสมอนะคะ ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตเราหรือเปล่า และไม่ได้นำพาเราไปผิดทาง เช่น บ้านหลังใหญ่เกินจำนวนคนอยู่และต้องแบกรับหนี้เกินตัว, รถเบ็นซ์คันหรูที่ต้องใช้เงินจำนวนมากดูแลจนไม่มีความสุข เป็นต้นขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะวันนี้เราทุ่มเทให้กับสิ่งนอกตัว จนลืมมีชีวิตไปหรือเปล่า ลองสำรวจสิ่งที่เราเลือกมาใส่ในชีวิตว่า เป็นภาระมากกว่าความสุขหรือเปล่า6. เลือกและรักษาความสัมพันธ์กับคนให้ดีผู้เขียนอยากให้เราจัดสรร และทุ่มเทความสำคัญให้กับสิ่งสำคัญในชีวิตก่อนสิ่งอื่น หัวใจสำคัญในการบริหารชีวิตคือ สิ่งไหนสำคัญสิ่งนั้นมาก่อน ไม่ใช้คำพูดที่สร้างบาดแผลกับคนที่เรารัก ให้เวลาคุณภาพแก่คนที่เรารัก แล้วเราจะไม่เสียใจในภายหลังค่ะขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะเราทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ใช้เวลากับอะไรมากที่สุด แล้วตัวมันเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตเราจริงหรือ7. ทุกอย่างรวมลงที่ใจในใจของเราทุกคนนั้นมีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งความโกรธ ความสงบ ความหงุดหงิด ขี้อิจฉา หรือความเมตตา แต่เราต้องการให้ชีวิตเราหรือใจเราเป็นแบบไหน เราก็ต้องบำรุงใจของเราแบบนั้น และหาความมั่นคงให้กับใจเรา เช่น บางคนความมั่นคงทางใจคือครอบครัว ถ้าทุกคนในครอบครัวสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอบอุ่น เขาก็จะเป็นสุข แต่หากบางคนฝากความมั่นคงไว้กับเงินตรา หาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ต้องหาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจะมั่นคงทางใจได้ไหม ขอยกบทความบางส่วนในบทนี้นะคะวันนี้ เราปลูกอะไรในใจเรา ที่มา: หนังสือเรื่อง เข็มทิศชีวิตผู้เขียน: คุณฐิตินาถ ณ พัทลุงจัดพิมพ์โดย: หจก.อาศรมสารนาถ โดยฐิตินาถ ณ พัทลุงราคา 180 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือซีเอ็ด หรือร้านหนังสือทั่วไปค่ะเป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ ส่วนเราได้กลับมาอ่านหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง โดยที่ห่างจากครั้งแรก 12 ปี แต่เรารู้สึกว่าทุกเรื่อง ทุกบทความ สามารถนำมาเป็นเข็มทิศ เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตได้แม้ในยุคปัจจุบัน เราหวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบและนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือหากตอนนี้เพื่อน ๆ คนไหนมีความทุกข์ในใจ ไม่สบายใจ อยากให้ลองไปหามาอ่านดูนะคะ เผื่อเข็มทิศเล่มนี้จะพาจิตใจเราไปพบกับความสุขหรือคลายทุกข์ในใจได้ค่ะแล้วพบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ