ทีมฟุตบอล ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ หรือเรียกย่อว่า “สวิส” สื่อมวลชนกีฬาไทยได้ให้ฉายาว่า “ทีมแดนนาฬิกา” ทั้งนี้เพราะประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นดินแดนแหล่งผลิตนาฬิกาที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพดี และส่งออกไปทั่วโลก เป็น“ของใช้” ที่สามารถเป็น “ของโชว์” ที่ดูโก้หรู เมื่อได้สวมใส่นาฬิกาจากสวิส ฟุตบอลของสวิสก็เช่นเดียวกัน พวกเขาได้พิสูจน์ว่าพวกเขาเป็น “ของจริง” ที่มีคุณภาพดีไม่ใช่แค่เป็น “ของโชว์”เท่านั้นแต่เป็น “ของใช้”ที่ใช้ได้จริงในสนามแข่งขัน เพราะในสมัยก่อนทีมฟุตบอลสวิสอาจจะเป็นทีมไม้ประดับของการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติ แต่ช่วงปีหลัง ๆ นับตั้งแต่ ค.ศ.2002 เป็นต้นมา ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์สามารถชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในปี 2002 และ ปี 2009 โดยเฉพาะในปี 2009 ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้ครองแชมป์เยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีที่ประเทศไนจีเรีย ซึ่งผู้เล่นชุดนั้นมี ชาริล ชัปปุยส์ ลูกครึ่งไทย-สวิส ร่วมทีมอยู่ด้วย ซึ่งต่อมา ชัปปุยส์ ได้ตัดสินใจเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ผู้เล่นจากทีมเยาวชนชุดนั้นได้ขึ้นมาเป็นผู้เล่นทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ชุดใหญ่กันหลายคน ไม่ว่าจะเป็นกรานิต ชาก้า, ริคาร์โด้ โรดริเกวซ,ฮาริส เซเฟโรวิช เป็นต้น ทำให้ทีมชาติชุดใหญ่มีความแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับนานาชาติ เรียกว่ากลายเป็นทีมระดับชั้นแนวหน้าของโลก เป็นทีมขาประจำในการแข่งขันรอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปไปแล้ว สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป หรือ ยูโร 2020 ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในฐานะของแชมป์ในรอบคัดเลือก และรอบสุดท้ายของยูโร 2020 ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับทีมชาติอิตาลี, ตุรกีและเวลส์ บทความครั้งนี้ เราจะมาลองส่องดูขุมกำลังของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช กุนซือทีมชาติ เราจะมาดูกันว่าทีมแดนนาฬิกาจะเดินหน้าคว้าชัยในยูโร 2020 ได้หรือไม่ ติดตามกันมาเลย วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช กุนซือทีมชาติสวิส วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช เป็นผู้จัดการทีมที่มีฝีมือดีคนหนึ่งในระดับยุโรป เคยคุมทีม “อินทรีฟ้าขาว” ลาซิโอ ทีมดังในกัลโช่ เซเรีย อา ประเทศอิตาลีมาก่อนที่จะมาคุมทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ผลงานของเขาสามารถพาทีมไปฟุตบอลโลก 2018 และได้อันดับที่ 4 ของฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2019 ที่ผ่านมา ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากสมาคมฟุตบอลสวิตเซอร์แลนด์ให้คุมทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์(Schweizer Nati)ต่อไปในศึกยูโร 2020 นี้ สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูทีมชาติทาง วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช มีตัวเลือกหลายคนไม่ว่าจะเป็น ยานน์ ซอมเมอร์ นายประตูจากทีมโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค,โรมัน บูร์กี้ ประตูฝีมือดีจากทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ยีวอน เอ็มโวโก ผู้รักษาประตูทีมอาร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งทั้ง 3 คนนี้เล่นอยู่ในฟุตบอลบุนเดสลีกา ลีกของประเทศเยอรมนี และมีฝึไม้ลายมือถือว่าใกล้เคียงกันมาก แต่สำหรับ เพ็ตโควิช แล้วยังคงให้ความไว้วางใจ ยานน์ ซอมเมอร์ เป็นตัวเลือกอันดับที่ 1 ในการทำหน้าที่ลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติสวิส ยานน์ ซอมเมอร์ นายประตูมือ 1 ทีมชาติ แผงกองหลังนำทีมโดย สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ แบ็คขวา กัปตันทีมตัวเก๋าของทีมชาติ ปัจจุบันสังกัดทีมเอาก์สบวร์กในบุนเดสลีกา เคยเล่นให้กับทีมดัง ๆ ในยุโรป เช่นทีมยูเวนตุสและอาร์เซน่อล แม้ว่าจะอายุ 36 ปีแล้วแต่ก็น่าจะยังได้รับเลือกจากกุนซือ เพ็ตโควิช ให้ติดทีมไปลุยศึกยูโร 2020 ส่วนตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมชาติ คงจะหนีไม่พ้น ริคาร์โด้ โรดริเกวซ แบ็คซ้ายของทีมเอซี มิลานทีมีความโดดเด่นในการยิงลูกฟรีคิกและเปิดบอลได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาจะไม่ค่อยได้เล่นให้ทีมมิลาน จนต้องถูกส่งไปให้ทีมพีเอสวี ไอน์โฮเฟน ทีมดังจากฮอลแลนด์ยืมตัวไป แต่สำหรับทีมชาติสวิสแล้ว เขาคือแบ็คซ้ายตัวหลักของทีมชาติ สำหรับแบ็คที่จะเป็นตัวเลือกในแผงหลังคือ ฟร็องซัวส์ มูบ็องด์เช่ และมิเชล แลง 2 แบ็คที่โชว์ฟอร์มดีในช่วงหลังในการเล่นทีมชาติ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ แบ็คขวากัปตันทีมตัวเก๋า ปราการหลังตัวกลาง 2 คนหลักน่าจะเป็น มานูเอล อคานจี กองหลังตัวเก่งของทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จับคู่กับฟาเบียน ชาร์ กองหลังจากทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นอกจากนี้ยังมีกองหลังที่เล่นดีหลายคนมาเป็นตัวสำรองที่พร้อมลงสนามไม่ว่าจะเป็น นิโค เอลเวดี้ กองหลังจากทีมโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และเควิน เอ็มบาบู กองหลังผมยาวจากทีมโวล์ฟสบวร์ก เชื่อว่าหากเล่นได้อย่างเข้าขาและรู้ใจกัน ทีมชาติสวิสก็น่าจะพอต่อสู้ได้กับกองหน้าของทีมร่วมกลุ่ม A ในศึกยูโร 2020 คือ ทีมชาติอิตาลี, ตุรกีและเวลส์ ได้อย่างสนุกและสู้สีกัน สำหรับกองกลางซึ่งถือเป็นหััวใจของทีม คือ กรานิต ชาก้า กองกลางจอมยิงไกลของทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อล กรานิต ชาก้า กองกลางตัวหลักของทีมชาติสวิส สำหรับกองกลางคนอื่นๆ ที่อยู่ในสายตาของกุนซือ เพ็ตโควิช ที่น่าจะมีชื่อไปศึกฟุตบอลยูโร 2020 นี้ ได้แก่ 2 กองกลางคู่หูจากทีมเจนัว คือ เบลริม ซิไมลี่ และ วาลอน เบห์รามี ประสบการณ์ที่เล่นในฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา ประเทศอิตาลีของทั้งสองคนจะช่วยทีมชาติสวิสได้ในการเล่นกับทีมชาติอิตาลี นอกจาก 2 คนนี้แล้ว กองกลางตัวเลือกอื่น ๆ ได้แก่ เกลสัน เเฟร์นันเดส กองกลองจอมขยันจากทีมไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต), เรโม ฟรอยเลอร์ จากทีมอตาลันต้า, สตีเว่น ซูเบอร์ กองกลางของทีมฮอฟเฟนไฮม์และ เดนิส ซากาเรีย กองกลางตัวรับของทีมโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่เล่นได้ดีจนมีหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปสนใจในฝีเท้าอยากซื้อไปร่วมทีม ทั้งทีมแมนฯ ยูไนต็ด และอาร์เซน่อล โดยรวมแล้วกองกลางของทีมชาติสวิสไม่เป็นรองทีมร่วมกลุ่มอย่าง ทีมชาติอิตาลี, ตุรกีและเวลส์ คงจะสู้กันได้อย่างสนุกในการแย่งชิงพื้นที่แดนกลางสนามเพื่อทำเกมต่อสู้กัน "บิ๊กป้อม" เซอร์ดาน ชากิรี คนโตตัวเล็ก ปีกจรวดทางเรียบของทีมชาติ เมื่อลองส่องแดนหน้าของทีมแดนนาฬิกาแล้ว กองหน้าที่เหมาะสมกับทีมคือ "บิ๊กป้อม" เซอร์ดาน ชากิรี ปีกจรวดทางเรียบของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เพราะทีมชาติสวิสมีสไตล์การเล่นแบบตั้งรับและรอสวนกลับ(Counter attack) ดังนั้นชากิรีจะเป็นผู้เล่นที่กุนซือ เพ็ตโควิช ต้องเลือกไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 หนนี้ แม้ว่า "บิ๊กป้อม"จะไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนักให้กับทีมหงส์แดงเพราะมีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แต่เชื่อเถอะว่าในยามทีมชาติแล้ว "บิ๊กป้อม" ลงไปวิ่งปร๋อรอยิงในสนามแน่นอน สำหรับหัวหอกของทีมคงจะต้องเป็น ฮาริส เซเฟโรวิช ศูนย์หน้าของทีมเบนฟิก้า อดีตแชมป์เยาวชนโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ ประเทศไนจีเรีย ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ ชาริล ชัปปุยส์ ส่วนกองหน้าคนอื่นๆที่จะเป็นตัวเลือกของทีมชาติคือ โจซิป เดอร์มิช" ดาวยิงตัวเก่งของทีมเนิร์นแบร์กและบรีล เอ็มโบโล่ หัวหอกผิวสีจากทีมชาลเก้ 04 เมื่อเทียบกองหน้าของทีมชาติสวิสกับทีมกองหลังกลุ่มอย่างทีมชาติอิตาลี, ตุรกีและเวลส์แล้ว หัวหอกของทีมชาติสวิสยังไม่คมเพียงพอที่จะลุยฝ่าดงกองหลังที่สุดแข็งของแต่ละทีมได้ ต้องอาศัยจังหวะโต้กลับแบบมีทีเด็ดทีขาด โอกาสจะทำประตูได้ก็พอจะมีทาง ซึ่งเป็นโจทย์ที่กุนซือ เพ็ตโควิช ต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนักก่อนที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ในปีหน้านี้ หากหวังจะฟันฝ่าเข้ารอบต่อไป เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับขุมกำลังของ“ทีมแดนนาฬิกา” ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 หนนี้ ใครที่เป็นแฟนบอลทีมชาติสวิสคงจะต้องลุ้นหนักเพื่อจะเชียร์ทีม "แดนนาฬิกา" ให้เดินหน้าคว้าชัยให้ได้ไปต่อ แต่หากพลาดพลั้งอาจจะพังกลายเป็น "ทีมนาฬิกาตาย" เดินต่อไปไม่ได้ในฟุตบอลยูโรครั้งนี้ คงจะต้องลุ้นเอาใจช่วยกัน ขอบคุณภาพต่าง ๆ ที่ลงในบทความ โดย sport.trueid.net เครดิตภาพปกโดย sport.trueid.net (ภาพประกอบรูปที่ 1, 2, 3 , 4 , 5 )