ในช่วงหลัง ๆ มานี้การท่องเที่ยวแนววิถีชีวิตพื้นบ้านเริ่มกลับมาเป็นที่นิยม สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือร้านกาแฟที่มีวิวทุ่งนา หรือแนวธรรมชาติก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก วันนี้จึงขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่เปิดได้ไม่ถึง 1 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติตามวิถีชีวิตของคนในละแวกนั้น นั่นก็คือ “The Hulk ในฉาง บ้านป่าขวาง” ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านป่าขวาง ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ขับรถออกมาจากเกาะยอมาทางอำเภอสิงหนครมาถึงที่ The Hulk ในฉาง บ้านป่าขวาง ก็ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร แนะนำดูเส้นทางจาก Google Map น่าจะดีที่สุดค่ะ เพราะเป็นทางถนนเส้นเล็กและเป็นทางเข้าชุมชนหมู่บ้านซึ่งอาจหาไม่ง่ายนัก เมื่อถึงซอยเล็กๆที่จะเข้าไปใน The Hulk ก็จะมีป้ายบอกหน้าซอย ขับตรงไปเรื่อย ๆ ก็เห็นค่ะ หุ่นฟางยักษ์รูปร่างใหญ่โต แสดงว่ามาถูกทางแล้วค่ะ ซึ่งมีบริเวณที่จอดรถมากพอสมควร หากหลงทางจริง ๆ สามารถถามทางจากชาวบ้านแถวนั้นได้ เราก็ถามมาแล้วค่ะ ที่นี่นับว่าเป็นจุดเช็คอินที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยมีสัญลักษณ์เป็นหุ่นฟางยักษ์ The Hulk ที่ถือลูกตาลในมือ เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ของบ้านป่าขวางที่เป็นพื้นที่เพาะปลูก ทำนา และมีต้นตาลเป็นจำนวนมาก วันนั้นที่ไป ระหว่างทางที่คุณพ่อขับรถไปตามถนนจะเห็นวิวทุ่งนาสลับกับต้นตาลที่ยังคงมีเป็นจำนวนมาก โดยคุณพ่อได้พูดหลายครั้งมากว่า วิวแบบนี้หายากมาก ๆ แล้วในปัจจุบัน โดยเฉพาะต้นตาลที่มีเป็นจำนวนมาก ดูอุดมสมบูรณ์ เขียวฉอุ่ม สบายตาดี ช่วงกลางปีที่แล้ว ที่ The Hulk ในฉาง บ้านป่าขวางเปิดใหม่ ๆ ช่วงนั้นทางเจ้าของก็ได้ปลูกต้นปอเทืองเหลืองอร่ามล้อมรอบรูปปั้นฟาง นักท่องเที่ยวต่างพากันมาที่นี่เป็นจำนวนมาก ทว่าพอถึงฤดูฝนของภาคใต้ในช่วงปลายปี ยาวมาถึงปีใหม่ ดอกปอเทืองก็ร่วงโรย ทางเจ้าของจึงทำนาข้าวแทน และรอช่วงที่ฝนหมดก็จะกลับมาปลูกปอเทืองอีกครั้ง ในช่วงที่เราไปจึงได้วิวนาข้าวค่ะ ซึ่งก็สวยไปอีกแบบ นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ หุ่นฟาง ทางเจ้าของก็ได้ทำสถานที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปหลายจุดนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกับหนังตะลุง หรือ กรอบรูปหัวใจที่น่าจะทำจากต้นตาล นั่งถ่ายรูปได้เก๋ ๆ เลยค่ะ และยังมีมุมอื่น ๆ ให้ถ่ายรูปได้จุใจกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ เท่าที่เห็นพี่เจ้าของก็พยายามพัฒนาพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ สำหรับ The Hulk ในฉาง บ้านป่าขวาง มีค่าเข้าชมท่านละ 20 บาทค่ะ ถ้าคิดแบบตื้น ๆ ก็แอบแพงเพราะว่า เราเข้าไปก็คือดูวิวที่เราสามารถดูจากทางเข้าก็เห็นเหมือนกัน แต่ถ้าคิดให้มากขึ้นอีกนิด (โดยเฉพาะได้พูดคุยกับพี่เจ้าของมา) ค่าใช้จ่ายสำหรับหุ่นฟางยักษ์อยู่ที่ระดับเกินแสนบาท และค่าดูแลรักษาสถานที่ก็อีกมากมาย และเค้าใช้เงินลงทุนจากครอบครัวกันเอง ไม่มีหุ้นส่วนใด ๆ ก็เลยรู้สึกว่า 20 บาทก็ไม่ได้มากมายอะไร ถือว่าเป็นค่าบำรุงสถานที่ ดูแลรักษาธรรมชาตให้สวยงามไป และยังได้สนับสนุนชุมชนอีกด้วย นอกจากนี้ทางพี่เจ้าของยังเล่าต่อว่า ตอนนี้กำลังสร้างร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่มีชั้นบนให้ได้ชมวิวมุม 360 องศากันเลยทีเดียว และกำลังจะสั่งซื้อหุ่นฟางยักษ์ Spider Man มาอีกตัวจ้า หากวันหยุดไม่มีแพลนออกไปไหน อาจจะแวะมาแถวนี้ได้นะคะ เพราะบริเวณไม่ห่างไกลจากที่นี่มากนัก ก็มีร้านอาหารอร่อย ๆ อีกเช่นกัน จะมาเขียนรีวิวในบทความต่อไปค่ะ ส่วนขากลับตามถนนข้างทางมีเพิงร้านขายของพื้นเมืองมากมายอยู่ค่ะ ผลิตภัณฑ์ก็ เช่น ลูกตาลสด ซึ่งราคาไม่แพงเลยค่ะ น้ำตาลสด ลูกตาลเชื่อม เม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบบ้าน ๆ และแบบเคลือบน้ำตาล เป็นต้น และถ้ากลับทางเกาะยอ ก็สามารถแวะสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งก่อนขึ้นสะพานติณสูลานนท์กลับได้ นั่นคือ บ่อเก๋ง ค่ะ รีวิวบ่อเก๋งจะอยู่ในอีกบทความนะคะ สำหรับประวัติของชุมชนในฉางก็ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ