นี่เป็นการกลับมาหาดใหญ่อีกครั้งนับแต่ปี 2013 จำได้ว่าตอนนั้นมีเพียงวันแรกที่ท้องฟ้าสดใส หลังจากนั้นก็ถูกฝนถล่มทั้งทริป กลับมาครั้งนี้หวังว่าจะได้ฟ้าสวยๆ กลับไป ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ฟ้าใสตลอดทริป แต่ก็แลกมากับความดำ ฮ่าๆๆ แดดเมืองใต้นี่แรงจริงๆ ออกจากสนามบินเข้าเมือง เราไปต่อรถตู้หาดใหญ่-สงขลาค่ารถ 34 บาท หลังจากหาอะไรรองท้องแล้วก็เดินไปที่หอนาฬิกา แถวนั้นจะมีรถสองแถวสายสะทิงพระวิ่งผ่านเกาะยอ เราลงรถที่พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ค่าเข้าชม 50 บาท ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามของเกาะยอ หลังจากนั้น เรานั่งรถกลับเข้ามาเดินเล่นย่านถนนคนเดินสงขลาถนนนางงาม นครนอกและนครใน ปัจจุบันมีคณะทำงานผลักดันให้สงขลาเป็นมรดกโลก จึงมีการจัดการพื้นที่สำหรับการเดินชมย่าน มีป้ายแผนที่บอกทาง และข้อมูลของสถานที่ แต่ด้วยความที่เป็นเมืองเก่า ฟุตบาทแคบหรือบางครั้งก็หายไป ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการเดินเท้าสักเท่าไหร่ไปเดินเล่นกันต่อที่หาดสมิหลานางเงือกสัญลักษณ์ของสงขลาประติมากรรมคนอ่านหนังสือวันรุ่งขึ้นเราย้ายที่พักไปโรงแรมรถไฟหาดใหญ่ ตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟไปเทพารอบ 7:55 แต่ตื่นช้าเลยรีบเช็คสถานะรถไฟ ปรากฎว่าล่าช้าจากต้นทางครึ่งชั่วโมง ก็เลยคิดว่าทันแน่เพราะโรงแรมอยู่ในสถานีรถไฟ ก็เลยตัดสินใจแต่งตัวไปซื้อตั๋วตอน 8:00 รอเกือบครึ่งชั่วโมง รถไฟก็เข้ามาจอดที่ชานชาลา 5 รถไฟใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานีเทพา ตั๋วรถไฟชั้น 3 ราคา 14 บาท เก้าอี้ตัวที่เราเคยนั่ง แต่โยกคลอนจนต้องย้ายที่นั่ง สักพักก็เอียงกะเท่เร่ลงมาอย่างที่เห็นบรรยากาศระหว่างการเดินทางเมื่อมาถึงสถานีเทพาจะมีแม่ค้าเข้ามาขายข้าวแกงไก่ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการเดินทางผ่านสถานีเทพา แม่ค้าจะมีเวลาไม่มากก่อนรถไฟจะออกไป เราได้รับข้อมูลว่าเจ้าเก่าแก่ไม่ได้หาบขายแล้ว แต่ตั้งร้านอยู่หน้าสถานี เดินออกมาหน้าสถานีก็จะเจอเลย แต่ลืมถ่ายหน้าร้านมา แกงไก่จะอยู่ในหม้อมีฝาปิดสนิท สะอาดปลอดภัย ข้าวแกงไก่ใส่ไก่ทอด 55 บาท แกงไก่ใส่ฟักไม่หวานและเผ็ดไป รสชาติกำลังดี อิ่มแล้ว เราว่าจ้างมอเตอไซค์ไปหาดสร้อยสวรรค์และหาดสะกอม ที่หาดสะกอมสวยมาก จะมีทางเดินขึ้นเนินเขาเล็กๆ เป็นที่ตั้งของเจดีย์เขาล้อน เจดีย์โบราณที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ในขณะเสด็จประพาสทางน้ำที่อำเภอเทพา เจดีย์มีความสูงประมาณ 6 เมตร ควนเจดีย์มีฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างประมาณ 4 เมตร สันนิษฐานกันว่าในอดีตมีบันใดทางขึ้นหัวหน้าออกสู่ทะเลแต่ปัจจุบันถูกคลื่นกัดเซาะไปแล้วเรากลับมาขึ้นรถไฟทันรอบเที่ยงครึ่งพอดี รถไฟดีเลย์ไป 15 นาทีจากต้นทาง นั่งดูวิวเพลินๆ ไม่นานก็กลับมาถึงสถานีหาดใหญ่ ตอนแรกตั้งใจจะไปหอดูดาวใหม่แต่ปิดหนี covid-19 ไปเสียก่อน ก็เลยได้ไปแค่มัสยิดกลางสงขลา และเจดีย์สแตนเลส "พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล"มัสยิดกลางสงขลาในเงาสะท้อนน้ำ ได้รับการขนานนามเป็นทัชมาฮาลเมืองไทย ถ้าได้มาตอนแสงเย็นคงจะยิ่งสวยกว่านี้พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพ ไตรมงคล สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ร. 9 เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี เวลาสายลมพัดมาจะได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊ง รู้สึกสงบดี ทริปนี้ส่วนใหญ่เป็นไปตามแผน ยกเว้นหอดูดาวที่อยากไปมาก แต่อดไป และคาเฟ่บางแห่งที่ปิดชั่วคราว รอเหตุการณ์คลี่คลายแล้วพบกันใหม่**ภาพประกอบโดย food.travel.addict