อื่นๆ

คืนดูดาว..นั่งนับฝนดาวตก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คืนดูดาว..นั่งนับฝนดาวตก

มาเล่าถึงประสบการณ์อีกหนึ่งประสบการณ์ของผม ที่ได้เจอมากับตัวเองมันเป็นเหตุการ์หนึ่ง ที่ผมได้ไปพบเจอกับภูตผีปีศาจ ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดมาก ผมเชื่อว่า ไม่เคยมีใครพบเจอหรือได้ยินได้ฟังเรื่องที่ผมจะนำเสนออย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องราวของผมในคืนหนึ่ง  ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ถึงแม้ผมจะพยายามเฝ้าดูและท้าทายต่อสิ่งเร้นลับที่ผมได้เจอครั้งนี้ยังไง สิ่งเร้นลับสิ่งนี้ ก็ไม่เคยปรากฎให้ผมเห็นเป็นครั้งที่สองอีกเลย เข้าเรื่องกันเลยครับ

คืนวันเสาร์ ตอนเย็น ๆ ช่วงเวลาว่าง ๆ เบื่อ ๆ ไม่มีอะไรจะทำ หรือนึกอะไรไม่ออก ก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นแก้เซ็ง เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่คนเราต้องทำกันทุกวัน ไม่ว่าจะอ่านข่าวรายวัน หรือเฝ้าติดตามเหตุการณ์ประจำวันไปเรื่อย พรุ่งนี้เป็นวันหยุด คืนนี้ก็ไม่มีโปรแกรมจะออกจากบ้าน แล้วจะทำอะไรดีนะ? จนกระทั้งได้พบเพจข่าวเพจหนึ่ง จากหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ผมกำลังเล่นอยู่ มีข้อความพาดหัวข่าวว่า

Advertisement

Advertisement

เที่ยงคืนนี้เป็นต้นไป พบกับฝนดาวตก คืนแรกแห่งปี 2020 ผมนึกในใจว่า คืนนี้มีอะไรให้ทำแก้เบื่อแล้วละ อีกอย่างคือ คนนอนดึกแบบผม ไม่มีปัญหาเลย กับการถ่างตาเฝ้ารอคอยฝนดาวตกในแต่ละรอบปี หรืออาจจะเป็นรอบหลายปี และบ้านที่ผมอยู่ก็เป็นบรรยากาศแบบชนบท ห่างไกลเมืองที่มีแสงสีและผู้คนมากมาย ไร้แสงไฟส่องสว่างจากตึกรามบ้านช่อง เมื่อถึงเวลากลางคืน ท้องฟ้ายามค่ำคืนจึงมืดมิด เห็นเพียงดาวระยิบระยับสวยงาม เปรียบดังคำที่เค้าว่ากันว่า "สวรรค์บ้านนอก" ก็ว่าได้

ท้องฟ้ายามค่ำคืนในชนบท

เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนตามที่เพจข่าวประกาศไว้ว่าจะมีฝนดาวตก ผมก็เตรียมที่นอนแบบเป่าลมสำหรับหนึ่งคน หมอนหนึ่งใบ และใส่เสื้อแขนยาวกันหนาวเหมือนอยู่เกาหลี เดินหอบหิ้วสัมภาระออกมานอกบ้าน มองหาที่ว่าง ๆ ข้างๆต้นทุเรียนที่ปลูกไว้ วางที่นอนแบบเป่าลมลงบนพื้นพร้อมเอนกายลงนอนบนหมอนใบเล็ก ๆ "ดีเหมือนกันนะ นอนดูดาวแบบนี้ ไม่ต้องนั่งเงยดูดาวให้เมื่อยคอ" บรรยากาศตอนนี้เริ่มจะหนาวจนต้องก่อไฟกองเล็ก ๆ เพื่อกันยุงก็เริ่มมารุมที่ตัวผม พวกยุงพวกนี้คงเห็นผมเปรียบเสมือนแหล่งอาหารอันโอชะ แต่ไม่เป็นไร ทั้งยาทากันยุง ทั้งกองไฟ คงไม่มียุงที่ไหนกล้าเข้ามาแน่นอน

Advertisement

Advertisement

ในขณะที่ผมนั่งก่อกองไฟจากเศษกิ่งไม้แห้งเล็ก ๆ "ว้าว!" ฝนดาวตกดวงแรกผ่านสายตาไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พลาดไปแล้ว แต่อีกเดี๋ยวคงมีฝนดาวตกดวงอื่น ๆ ผ่านมาให้เห็นบ้าง ผมนั่งเฝ้ามองฝนดาวตกพร้อมกับนั่งเขี่ยฟืนไฟเล่นไปพราง และก็ไม่ผิดหวัง มีฝนดาวตกผ่านบนท้องฟ้าให้ผมได้ดูและนั่งนับตลอด ถ้าผมนับไม่ผิด ระยะเวลา 1 ชั่วโมง จะมีฝนดาวตกประมาณ 20 ถึง 30 ดวงเลยทีเดียว น่าแปลก ก็แค่สะเก็ดอุกกาบาต ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยก็ไม่รู้ แถมยังนอนรอดูได้ตั้งนาน แต่มันก็เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้หาดูกันง่าย ๆ นะ

ดวงดาวยามค่ำคืน

นั่งนาน ๆ ก็เริ่มเมื่อย เลยเอนหลังนอนดูดาวบ้าง แล้วก็หยิบกล้องดิจิตอล ซึ่งคุณภาพของกล้องก็เก่าแก่พอ ๆ กับเจ้าของกล้อง แถมถ่ายรูปดาวก็ไม่ติดซักรูป นั่งมองกล้องแล้วถอนหายใจ แต่แล้ว! หางตาก็เหลือบไปเห็นดวงไฟดวงใหญ่ จึงรีบหันไปดูทันที แต่เอ๊ะ! ดาวหางดวงนี้ทำไมลอยอยู่นานจัง สีก็ไม่เหมือนดวงดาวสักนิด มันเป็นสีแดงประกายแปลก ๆ เมื่อจ้องมองดี ๆ ก็รู้สึกว่า มันลอยสูงกว่ายอดต้นทุเรียนนิดเดียว ต้นทุเรียนก็สูงไม่มาก สูงประมาณ 10 เมตรเอง ดาวอะไร? จะอยู่ใกล้ขนาดนี้ ผมเริ่มขนลุกอัตโนมัติ อาการเหมือนครั้งที่เคยเห็นผีระหว่างทางครั้งก่อน มันเป็นความรู้สึกไม่เคยลืม

Advertisement

Advertisement

แสงไฟประหลาดยามค่ำคืน

ผมได้แต่นั่งนิ่ง ๆ และมองตามแสงไฟนั้นลอยไปลอยมาเรื่อย ๆ แสงไฟนั้นมีลักษณะเป็นแสงกลม ๆ มันลอยอยู่เหนือต้นทุเรียนที่ผมนอนอยู่หนึ่งรอบ แล้วก็หายไป "อะไรวะ? ไม่ใช่ดาวตกแน่นอน" ผมบอกกับตัวเอง ไม่ว่าใครที่เห็นแบบผม ก็ต้องเชื่อแบบผมว่ามันไม่ใช่ดาว แต่ยังไม่ทันที่จะคิดต่อและหาคำตอบให้ตัวเอง ดวงไฟปริศนาก็ลอยมาอีกรอบ! คราวนี้ผมเอากล้องดิจิตอลมาเปิดโหมดบันทึกวีดีโอทันที ในใจนึกลองเสี่ยงบันทึกภาพเอาไว้ดู จะเห็นหรือไม่เห็นค่อยว่ากันอีกที ผมใช้กล้องดิจิตอลบันทึกวีดีโอลูกไฟประหลาดที่ลอยไปลอยมานั้นได้ซัก 10 วินาที ลูกไฟประหลาดนั้นก็หยุดนิ่งข้าง ๆ ยอดต้นทุเรียน ผมจึงมีโอกาศได้ซูมกล้องเข้าไปใกล้ ๆ ตอนนั้นในใจคิดว่าต้องเป็น โดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับแน่ ๆ ใครบังคับมานะ?

เมื่อผมใช้กล้องวีดีโอซูมภาพเข้าไปยังแสงไฟประหลาดที่ลอยอยู่นิ่งๆนั้นกลับพบว่า ลักษณะลูกไฟประหลาดที่ผมเห็น มันไม่เหมือน " โดรน " มันมีลักษณะคล้ายคนแต่ไม่มีหัว!! ไม่มีขาทั้งสองข้าง!! ประมาณว่ามีแค่ตัวกับแขนสองข้าง ผมเห็นแขนทั้งสองข้างอย่างชัดเจนผ่านจอของกล้องดิจิตอลในมือผม " ชัดเลย " ไม่ใช่ดาวตก ไม่ใช่โดรน แต่ผมโดนดีเข้าให้แล้ว ตอนนี้จะขยับร่างกายตัวเองแต่ก็กลัวดวงไฟนั้นมันรู้ตัว กลัวก็กลัว นึกไม่ออกว่าจะทำยังไงต่อไป มือไม้อ่อน จนกล้องดิจิตอลที่อยู่ในมือหล่นลงกับพื้นเสียงดัง " ตุ้บ! " กล้องแตกเลยครับ แต่ที่น่าตกใจกว่าคือ ดวงไฟประหลาดนั้นได้ยินเสียง จึงพุ่งเข้ามาหาผมทันที ผมวิ่งไม่ออกครับ เข่าอ่อนนั่งลงกับพื้น แต่ตาก็ยังจ้องดวงไฟประหลาดนั้นแบบไม่กระพริบ ดวงไฟประหลาดนั้นมันลอยมาหยุดตรงหน้าผม ลักษณะของมันตรงกับในกล้องดิจิตอลที่ผมบันทึกวีดีโอไว้ได้เลย ดวงไฟประหลาดนั้นมันใช้มือของมันเองจับที่ดวงไฟกลางตัวของมันเอง แล้วยื่นแสงไฟกลางตัวที่มันจับไว้ ส่งมาให้ผม ระยะที่มันยื่นแสงไฟนั้นมาให้ผม ใกล้จนเกือบจะสัมผัสโดนหน้าผมเลยก็ว่าได้ แสงนั้นเป็นสีแดงแสบตามาก แล้วสติผมก็ดับวูบไปทันที มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าเสียแล้ว แน่นอนครับ ผมสลบไปเลย!

ร่างดำทะมึนหลังจากมันเอาแสงออกจากตัว

ผมสลบอยู่ใต้ต้นทุเรียนในบริเวณบ้านสวนของผมเอง นอนตากน้ำค้างทั้งคืน ไม่มีคนในบ้านออกมาตามหาหรือดูผมเลย ฮ่า ๆ แต่ผมก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือถูกทำร้ายใด ๆ เพียงแต่ผมมีไข้ในตอนเช้า จึงต้องนอนพักที่โรงพยาบาล แต่เมื่อผมหายไข้และมีโอกาศเจอเพื่อน ๆ ผมจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อน ๆ และคนอื่น ๆ ฟังทันที บางคนก็บอกว่าเป็นกระสือ แต่ก็ตั้งข้อสงสัยกันว่า กระสือมันต้องมีหัวกับไส้ แต่ที่ผมเจอมันมีแค่ตัวกับแขนและแสงสว่างตรงกลางหน้าอก เมื่อนึกได้ว่าผมสามารถบันทึกวีดีโอไว้ได้ ผมจึงเอากล้องที่ผมบันทึกวีดีโอไว้มาถอด เมมโมรีการ์ดออกจากตัวกล้อง แล้วเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อเปิดไฟล์วีดีโอที่ผมบันทึกไว้ดู ปรากฎว่า วีดีโอที่ผมบันทึกได้นั้น เป็นแค่แสงไฟ เคลื่อนที่ไปมา มองไม่เห็นรูปลักษณ์อย่างที่ผมเห็นด้วยตาเปล่า ส่งภาพวีดีโอไปให้เพื่อน ๆ หรือ ใคร ๆ ดู เขาก็บอกว่าหิงห้อย หรือไม่ก็หาว่าเป็นวีดีโอตัดต่อ แต่ผมหวังไว้ว่า ถ้าฝนดาวตกคราวหน้า แวะเวียนผ่านมาอีก ผมจะไม่ดูคนเดียว ผมจะชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกัน เพื่อหวังว่า เหตุการณ์และแสงประหลาดในคืนนั้น จะหวนกลับมาให้พวกเราได้พิสูจน์กันอีกครั้ง โชคดีนะ ที่ผมสลบไปในคืนที่เจอปีศาจตนนั้นจัง ๆ ไม่เช่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับผม คงไม่มีใครรู้ได้

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์