อื่นๆ
Mindset ที่ช่วยให้คุณกล้าทำในสิ่งที่กลัว

คนที่ชอบมองว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ และไม่น่าจะทำได้ บางคนมีศักยภาพในตัวเองสูงมาก และมีโปรเจ็คต์ที่คิดขึ้นมาแล้วสร้างสรรค์มาก ๆ
แต่เขาไม่สามารถจะทำได้ ด้วยติดในความกลัวและก็ความกังวลว่าตัวเองยังไม่ดีพอ
============================
หลายคนคงเคยฟังคอนเซ็ปต์นี้มาแล้ว แต่อนุภาคเล็ก ๆ อย่างเกล็ดหิมะที่เขายังมีความสมบูรณ์แบบในตัว ทุกเกล็ดมีความซับซ้อน มีความสมมาตร และมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัว
แล้วเราล่ะ เราเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้ชื่อว่าประเสริฐที่สุด เราไม่สมบูรณ์แบบเท่าเกล็ดหิมะเลยเหรอ?
=================================
ถ้าเกิดมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ลองถามคนที่เขารักคุณดูก็ได้ หรือถามคนที่เชื่อถือคุณดูก็ได้ เขามองศักยภาพของเราเป็นยังไง คุณมีคุณค่ามากกว่าที่คุณคิด เพราะว่าจะไม่มีใครที่จะมีประสบการณ์ได้แบบคุณ ต่อให้เขาทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เหมือนคุณ เขาก็จะมีวิธีการไม่เหมือนคุณหรอก
Advertisement
Advertisement
====================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย StockSnap จาก Pixabay
ฉะนั้น คนอื่นเห็นคุณค่าในตัวคุณ ก็ไม่เท่ากับที่คุณเห็นคุณค่าในตัวเอง คราวนี้ เราเห็นคุณค่าในตัวเอง โอเค ๆ ลงมือทำเลย พอจะลงมือทำ มาติดกับดักความกลัวและความกังวลอีกว่า "แล้วความคาดหวังของคนอื่นล่ะ เขาจะแบบมาประเมินเรา มาตัดสินเรา ว่าเราไม่ดีหรือเปล่า?" แบบนี้เป็นต้น
เช่น กรณีของคุณจีน่า คุณจีน่ามีโปรเจ็คต์นึงที่ต้องไปสอน หรือไปบรรยายให้แก่คนที่เป็นวิทยากรประจำองค์กรหนึ่ง เป็นองค์กรที่ใหญ่มาก แล้ววิทยากรเหล่านั้น เขาก็เป็นคนที่อายุเยอะกว่าคุณจีน่าหมดเลย และประสบการณ์เยอะกว่าคุณจีน่า ทำให้คุณจีน่ากังวลมาก แล้วตัดสินใจแบบรับดี ไม่รับดี คุณจีน่ากำลังติดกับดักของคำว่า ดีที่สุด!
===========================
ในหนังสือปรัชญาเล่มหนึ่ง เคยบอกไว้ว่า คำว่าดี หรือไม่ดี จริง ๆ มันไม่มีจริงในโลก มันไม่มีอยู่จริง มันจะดีหรือไม่ดีก็ต่อเมื่อมนุษย์เราได้เอาความคิดเห็น ได้เอาประสบการณ์ เอาความเชื่อส่วนตัวมาตัดสินว่าสิ่งนี้ดีหรือสิ่งไหนไม่ดี
Advertisement
Advertisement
=========================
ยกตัวอย่างเช่น ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะมี Red Light District หรือถนนแสงสี ซึ่งเป็นสถานที่ที่แบบเป็นย่านอโคจร คนที่อัมสเตอร์ดัมก็จะบอกสิ่ง ๆ นั้น เป็นสิ่งปกติ ไม่ผิดกฎหมาย
แต่ลองเป็นมุมมองของคนไทย คนไทยอาจจะมีมุมมองว่า อุ๊ย! ทำไมให้คนที่เป็นโสเภณีมานั่งเป็นแบบอยู่ในตู้กระจก แล้วเห็นในที่สาธารณะ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
จะเห็นได้ว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดีล่ะ อันไหนถูก อันไหนผิด มันไม่มีจริงหรอกสิ่ง ๆ นั้น มันขึ้นอยู่กับเราเนี่ย เป็นคนไปตัดสินมันต่างหากว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี
============================
ฉะนั้น ยิ่งคำว่าดีที่สุดหรือสมบูรณ์แบบ ยิ่งไม่มีอยู่จริงเลย
สุดท้ายแล้วงาน ๆ นี้ คุณจีน่ารับงานที่ไปช่วยบรรยายให้กับวิทยากรที่อายุมากกว่าคุณจีน่า มีประสบการณ์มากกว่าคุณจีน่า แต่คุณจีน่าไม่ได้มองว่าขึ้นเวทีวันนี้ จะทำให้มันออกมาดีที่สุด
Advertisement
Advertisement
============================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
คุณจีน่าเลยเปลี่ยนคำถาม ถามตัวเองใหม่ ถามตัวเองว่า “วันนี้เราทำเต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง?” ถ้าคำตอบคือ เราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว นั่นคือ ใช่แล้ว
==============================
เรื่องถัดมา
เราไม่สามารถทำให้คนชอบเราได้ 100% เราไม่สามารถจริง ๆ ลองไปเสิร์ชดูเลยก็ได้ว่า Youtuber ท่านไหน ที่แบบคนชอบมาก ๆ ในประเทศหรือว่าในโลก คุณจีน่ากล้าการันตีได้เลยว่า ทุกคลิปมี Dislike หรือไม่ชอบทั้งหมด ฉะนั้น ไหน ๆ เราทำอะไรไปคนก็ไม่ชอบเรา 100% อยู่แล้ว อย่างน้อยก็ขอให้ทำสิ่งที่เราชอบจริง ๆ เราอยากทำจริงๆ
=============================
และแล้วเราก็มาถึง Mindset สุดท้ายที่ทำให้คุณจีน่าสามารถทำอะไรที่คุณจีน่ากลัวได้ Mindset สุดท้ายนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักและความกลัว ช่วงที่คุณจีน่าเสียงแหบไม่มีเสียงเลย บังเอิญมีอาทิตย์หนึ่งที่คุณจีน่าไปที่โบสถ์ และมีน้องมาขอว่าให้คุณจีน่าช่วยร้องเพลงที่โบสถ์ได้ไหม? เป็นคนนำร้องเพลง
ความรู้สึกของคุณจีน่าคือ โอ้ย ฉันทำไม่ได้หรอก! ฉันจะทำได้ยังไง ฉันไม่มีเสียงเลย เสียงฉันแหบ และถ้าฉันร้องไป ฉันจะไม่มีเสียงมาทำคลิปด้วยนะ
มันมีความกลัว ความกังวลเต็มไปหมดเลย แต่สุดท้ายเมื่อไม่มีคนจะมานำร้องเพลงจริง ๆ ก็เลยทำให้คุณจีน่าคิดกับตัวเองเลยว่า เธอจะต้องทำแล้ว
=================================
แล้วคนเราเนี่ยเวลาเราจะกระทำอะไรบางอย่าง อะไรที่มันเป็นตัว Drive หรือเร่งให้เราต้องทำน่ะ มันมีอยู่แค่สองอารมณ์เองหลัก ๆ คือ รักกับกลัว ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในโหมดของความกลัวอยู่ และไหน ๆ เธอก็ทำสิ่ง ๆ นี้ เธอจะทำด้วยความรักหรือเธอจะทำด้วยความกลัวล่ะ มันไม่ได้แปลว่าความรักจะช่วยทำให้เสียงของคุณจีน่ากลับกลาย มาเป็นโฮ ๆ ๆ ร้องเสียงสูงระดับโซปราโนได้ เสียงของคุณจีน่าก็ปรากฏว่ายังแหบอยู่ แต่สิ่งที่มันเปลี่ยนไป ก็คือว่าเมื่อเราทำด้วยความรักน่ะ คนที่เขาอยู่กับเรา หรือคนที่เราสื่อสารไป เขาสัมผัสได้ว่าสิ่ง ๆ นั้นเกิดขึ้นจากความรัก และเขาก็มองข้ามในเสียงที่แหบหรือแตะไม่ถึงโน้ตของคุณจีน่าไปเลย จึงทำให้คุณจีน่าได้เรียนรู้ว่า หากในอนาคตคุณจีน่าจะไปทำส่งไหนที่มันยากหรือมีความกังวลอยู่ รวมถึงใครก็ตามที่มีความรู้สึกเดียวกันแบบนี้
============================
ในเมื่อเราจะต้องทำแล้ว ลองเปลี่ยนความรู้สึกจากกลัว ให้มาเป็นทำเพราะรักดู รับประกันเลยว่า เราจะลงมือทำสิ่ง ๆ นั้นได้และเราจะพอใจในผลงานที่เราทำด้วย
==================================
เครดิตรูปภาพ : ภาพโดย John Hain จาก Pixabay
อะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องเอาใจใส่ หรือว่าสนใจกับเรื่องวิธีคิดหรือ Mindset ขนาดนี้ ก็เพราะว่าผลลัพธ์ การกระทำ คำพูดต่าง ๆ ของเราที่กว่ามันจะออกมาหรือมันไม่ออกมา ก็เพราะมันติดอยู่ที่วิธีคิดหรือ Mindset ของเรานี่แหละ ลองจินตนาการคนที่กำลังจะกระโดดบันจี้จั๊มพ์ ถ้าเขาคิดเยอะ เขาไม่โดดหรอก เป็นเพราะมันต้องก้าวแล้วอ่ะ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว แล้วก็ปุ๋ง! ลงไปเลยแบบนั้น เป็นต้น
================================
ฉะนั้น ในตอนนี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ลองมาให้คำจำกัดความของคำว่า Mindset คือ การเซตที่จิตใจ เปลี่ยนมาเป็น My Set นี่คือเซตที่จะเป็นของ ๆ ฉัน และฉันจะเป็นคนกำหนดมันเอง เรามากำหนด My Set ของเรา เพื่อชีวิตของเราด้วยกันนะคะ
=================================
แอดถอดบทความนี้มาจากคลิปของคุณจีน่า เพราะกดเข้าไปฟังแล้วเห็นว่ามีประโยชน์มาก จึงอยากแกะข้อความในคลิป นำมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้สำหรับคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านบทความดี ๆ ของแอดมาโดยตลอด
ขอบคุณมากค่ะ
=========================================
Blockdit : https://www.blockdit.com/neemmy.bk
เครดิตรูปภาพหน้าปก : ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
ความคิดเห็น






