การเดินทางมาจังหวัดสุราษฎร์ธานีของผมในครั้งนี้ หมุดหมายประการสำคัญคือการเดินทางมาชืนชมโสมมันสกับความสวยงามและความยิ่งใหญ่ตระการตาของกุ้ยหลินเมืองไทย หรือเขื่อนรัชประภา หรือที่ใคร ๆ อาจเคยรู้จักในนามของเขื่อนเชี่ยวหลาน แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันแล้วแต่ความคุ้นชิน แต่สิ่งที่ผมเชื่อว่าใครหลายคงมีคล้าย ๆ กัน คือภาพความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ชื่อเขื่อน "รัชชประภา" นี้ นับว่าเป็นมิ่งมงคลยิ่ง เนื่องจากเป็นนามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อปี 2530 ซึ่งมีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร” โดยเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ของหมู่บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสก จึงมีทัศนยภาพที่สวยงามแปลกตาคล้ายทิวเขาในเมืองกุ้ยหลินของประเทศจีน นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว เขื่อนแห่งนี้ยังสามารถผลิตไฟฟ้าโดยมีค่าเฉลี่ยปีละหลายร้อยล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงด้วย ภาพถ่ายโดยผู้เขียน การเดินทางมาครั้งนี้ผมขับรถมากันเองกับเพื่อน ๆ โดยพักโรงแรมในเมือง พอรุ่งเช้าเราก็รับประทานอาหารเช้าให้เรียบร้อย และออกจากโรงแรมเกือบ 8.00 น. ระหว่างทางจะมีป้ายบอกเส้นทางไปเขื่อนรัชชะประภาตลอดทาง เกือบ ๆ 2 ชั่วโมง ก็ถึงที่ทำการบริเวณสันเขื่อน จากนั้นก็หาเรือเพื่อไปล่องชมทิวทัศน์ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เรือพาเราเข้าไปลึกพอสมควรโดยไปจอดอยู่บริเวณเกาะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของเขื่อน เพื่อเดินสำรวจป่า และล่องแพไม้ไผ่ รวมถึงการตามหา "เขาสามเกลอ" ซึ่งเป็นภูเขาหินกลางน้ำ ซึ่งเป็นจุดหมายสำคัญของการล่องเรือชมความงามเขื่อนรัชชประภาในฐานะที่ถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "กุ้ยหลินเมืองไทย" ในครั้งนี้ ต้องบอกว่าทิวทัศน์ตลอด 2 ฟากฝั่งของเขื่อนแห่งนี้ชวนให้ลืมเรื่องเครียด หรือเรื่องงานไปชั่วขณะทีเดียว ประหนึ่งเหมือนต้องมนต์สะกดให้อยู่ในภวังค์ของความงดงามแห่งธรรมชาติ สายน้ำสีดั่งมรกต ขุนเขา และเกาะแก่งน้อยใหญ่ ตระการตามาก ภูเขาหินเรียงราย สลับซับซ้อน แหลมบ้าง ทู่บ้าง เบียดเสียดงดงามราวกับภาพวาดจีนโบราณสมกับกับการขนานนามความงามของเขื่อนแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ระหว่างทางนั่งแพไม้ไผ่ ได้มีการพาแวะสำรวจเกาะแก่งต่าง ๆ พอสมควร รวมทั้งได้แวะถ้ำแห่งหนึ่งในบริเวณเขื่อน ซึ่งอยู่ในส่วนของเขาสก ระหว่างทางเข้าถ้ำมีพื้นที่สำหรับการเดินสำรวจธรรมชาติ เล่นเอาเหนื่อยไปบ้างแต่สนุกมาก โดยถ้ำนี้ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นถ้ำปะการัง พอเข้าไปภายในก็อดที่จะชื่นชมกับความงามไม่ได้ เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาพอสมควร มีทั้งปรากฏการณ์หินงอกหินย้อยชวนจินตนาการถึงรูปร่างต่าง ๆ บ้างปรากฏเป็นหินย้อยก่อตัวกันสูงเสียดเพดานถ้ำคล้ายรูปช้างก่อตัวกัน บ้างพริ้วไหวคล้ายต้นหญ้าสูงลิ่วตามลม ความมืดมิดของถ้ำชี้ชวนให้ตื่นเต้นทุกครั้งที่ประกายของแสงไฟสาดส่อง ด้วยเพราะไม่รู้ว่าเบื้องหน้ามีภาพใดรอปรากฏอยู่นั่นเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภายในเขื่อนรัชชประภานี้มีโรงแรมลอยน้ำอยู่กระจัดกระจาย หากใครที่ต้องการจะมาพักผ่อนนอนค้างอ้างแรมกลางน้ำหรือทำกิจกรรมกลางเขื่อนก็น่าสนุกและโรแมนติกไม่น้อย หรือจะสะดวกพักในเมืองแบบผมแล้วค่อยขับรถออกมาแต่เช้าก็สามารถมาเที่ยวที่เขื่อนหรือทำกิจกรรมได้ครบถ้วนเช่นกัน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน การมาท่องเที่ยวที่เขื่อนรัชชประภาในครั้งนี้ ผมถือเป็นความประทับใจและภูมิใจอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศใดในโลก สำหรับผมแล้ว ที่ผ่านมาก็เคยไปเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ มาก็ไม่น้อย แม้จะยังไม่ได้ไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ ณ ตอนนี้เขื่อนรัชชประภาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมอยากบอกใครต่อใครว่า ชีวิตนี้คุณต้องหาโอกาสมาเที่ยวที่นี่ให้ได้สักครั้ง และรับประกันว่าคุณจะต้องร้อง "Wow!" ด้วยเสียงอันดังกว่าครั้งใด ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน