“เขื่อนรัชชประภา” หรือที่รู้จักกันภาษาปากว่า “เขื่อนเชี่ยวหลาน” นอกจากเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าแล้ว ยังไปแหล่งสำหรับพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย ความสวยงามของเขื่อนเชี่ยวหลานขึ้นชื่อมานานจนมีฉายาจากเกาะแก่งและเพิงเขาในเขื่อนที่สวยงามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ได้ยินชื่อนี้คงพอจะคุ้นกันบ้างแล้วนะครับ ชื่อกุ้ยหลินเมืองไทยนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ด้วยความสวยงามจริง ๆ ความงดงามของเขื่อนเบอร์นี้ ใครที่ไทยเยือนสุราษฎร์ธานีจึงพลาดไม่ได้ วันนี้ผู้เขียนชวนไปล่องเรือชมเขื่อนและค้างแรมในเขื่อน ขอบบอกเลยว่าเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวชิล ๆ ต้องการพักผ่อนและสัมผัสธรรมชาติจริง ๆ ผู้เขียนเดินทางจากอำเภอทับปุดจังหวัดพังงา มุ่งหน้าไปทางอำเภอตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี บนถนนหมายเลข 415 (เลี้ยวซ้ายแยกเขาต่อ) แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 401 ก็จะผ่านหน้าเขื่อนพอดี ถึงเขื่อนต่อเรือไปยังแพ ค่าเรือไปแพไป – กลับ รวมพาเที่ยวชอบรอบเขื่อน 1200 บาท การไปครั้งนี้จองแพของทางอุทยานชื่อ “แพไกรสร” ไว้ ค่าบริการไม่แพง 750 บาทต่อหัว รวมอาหารเช้า – เย็น เรียกว่าคุ้มมาก เรื่อค่อย ๆ พาล่องไปชมเกาะแก่งต่าง ๆ พร้อมกับคำบอกเล่าจากคนขับเรือว่า เขื่อนแห่งนี้เขาปิดคลองทำให้น้ำขังบริเวณช่องเขาในวงกว้างทำให้ภูเขาต่าง ๆ กลายเป็นภูเขากลางน้ำที่สวยงาม แปลกตา และน้ำในเขื่อนนี่ลึกและมีปริมาณแร่ธาตุมาทำให้น้ำเป็นสีเขียวอมฟ้า เรื่อกำลังล่องไปในเขื่อน (ภาพโดยผู้เขียน) วิวรอบเขื่อนตัดกับสีน้ำเขียวอมฟ้า และภูเขาแปลกตา (ภาพโดยผู้เขียน) ภูเขาดูสง่างาม (ภาพโดยผู้เขียน) เมื่อดูรวม ๆ น้ำสีเขียวอมฟ้า รายล้อมด้วยภูเขารูปร่างแปลกตัดกับเส้นขอบฟ้าสี่ครามและแดดยามบ่ายทำให้ทิวทัศน์เขื่อนเชี่ยวหลานนี้สวยงามมาก ช่องเขาดูเป็นทางแคบ ๆ (ภาพโดยผู้เขียน) กุ้ยหลินเมืองไทย (ภาพโดยผู้เขียน) กุ้ยหลินเมืองไทยอีกมุม (ภาพโดยผู้เขียน) มาถึงแพช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ แดดกำลังดี ที่แพมีห้องพักเป็นหลัง ๆ เชื่อมต่อกับโรงอาหารและห้องน้ำที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งหน้าแพที่พักเราสามารถลงไปเล่นน้ำในเขื่อนได้ แนะนำว่าควรใส่เสื้อชูชีพนะครับเพราะน้ำลึกมาก (ลึกระดับที่ภูเขายังเหลือแต่ยอดเลยนะ) แถมมีเรือให้ภายเที่ยวชมรอบแพด้วย ถึงแล้วแพไกรสร (ภาพโดยผู้เขียน) แพเมื่อมองจากที่กระโดดน้ำ (ภาพโดยผู้เขียน) ช่วงเย็นมีอาหารให้ทานช่วงประมาณ 18.00 น. จากนั้นเมื่อกลางคืนคืนมาถึงอากาศค่อนข้างเย็นสบาย ไฟจากแพส่องสว่างถึงเพียงหน้าแพเท่านั้น เลยออกไปมืดสนิทจนมองอะไรไม่เห็น เงยขึ้นท้องฟ้ามีเพียงแสงดาวและแสงจันทร์ ขณะที่ทุกเสียงเงียบสงัดไปหมด นานทีจะมีเสียงสัตว์ป่าร้องมาจากภูเขาด้านหลัง เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าโชคดีจะได้เห็นกระทิงลงมากินน้ำด้วยนะครับ แต่ผมโชคไม่ดีกระทิงไม่มากินนี้อดดูเลย แพปิดไฟทั้งหมดตอนสี่ทุ่ม หลังจากนั้นเป็นความมืดและความเงียบล้วน ๆ บรรยายทั้งเย็น ทั้งสงบ นั่ง – นอน ดูดาว คุยกันเรื่อย ๆ สบายอย่างบอกไม่ถูกเลย เช้ามาพระอาทิตย์ก็ขึ้นด้านหน้าแพพอดี นั่งชนพระอาทิตย์ขึ้นทานอาหารเช้า เล่นน้ำอีกรอบ สาย ๆ รอเรือมารับกลับ ยังเสียดายบรรยากาศสงบสุขแบบนี้น่านอนซักสองสามวัน แพยามรุ่งสาง (ภาพโดยผู้เขียน) ใครแวะมาแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานีและกำลังหาที่เที่ยวที่ชิล ๆ ประหยัด สวยงาม และใกล้ชิดธรรมชาตินี่แนะนำเลยครับว่าให้มาเขื่อนเชี่ยวหลานแล้วไม่ผิดหวัง ข้อมูล เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี การเดินทาง: จากอำเภอทับปุดจังหวัดพังงา มุ่งหน้าไปทางอำเภอตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี บนถนนหมายเลข 415 (เลี้ยวซ้ายแยกเขาต่อ) แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 401 ก็จะผ่านหน้าเขื่อนพอดี แพไกรสร: https://www.facebook.com/kraisornfloat/ ภาพในบทความโดยผู้เขียน