สำหรับนักดำน้ำหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋ว สีสันสดใส ที่บางคนก็เรียกว่า นูดี้ ที่มาจาก คำว่า nudibranch และ nudist ที่แปลว่าเปลือยนั่นเองว่าแต่เจ้า นูดี้ คืออะไรกันแน่ จริงๆแล้วนูดี้คือทากทะเล เป็นสัตว์ใน phylum mollusca เช่นเดียวกับ หอยและหมึก เป็นหอยฝาเดี่ยว ลำตัวนิ่ม เดิมเป็นหอยที่มีเปลือก แต่สลัดเปลือกทิ้ง ทำให้มีลำตัวนิ่ม และด้วยความที่มีลำตัวนิ่ม ทากทะเลจึงต้องสร้างลักษณะพิเศษที่โดยทำให้แผ่นหลังมีสีสันสดใสเหมือนปะการัง เพื่อการพรางตัว ทากทะเลจัดเป็นสัตว์ที่มีความหลายหลายทางสายพันธ์ุมาก โดยมีการค้นพบทากทะเลที่มีความแตกต่างกันถึง 2000 สายพันธุ์และยังมีการค้นพบทากทะเลชนิดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละชนิดจะมีสีสันและลักษณะแผ่นหลังที่จำเพาะแตกต่างกันออกไปทากทะเลแต่ละชนิดจะมีลักษณะที่สำคัญร่วมกันคือมาลำตัวนิ่ม และมีส่วนที่ยื่นออกจากหัวคล้ายเขาสองอันที่เรียกว่า rhinophore สำหรับช่วยในการเคลื่อนที่ จับทิศทางของศัตรู และหาอาหาร ซึ่งอาหารหลักของทากทะเลก็คือ ฟองน้ำ ซากปะการังและพวกไฮดรอยโดยทากทะเลมีลักษณะที่พิเศษตามที่ได้กล่าวมาคือ มีสีสันสดใส โดยสีสันที่สดใสนี้เป็นประโยชน์ต่อทากทะเล โดยเฉพาะเป็นสัญลักษร์ที่บอกผู้ล่าว่า สีสันที่สดใสนี้ไม่ควรกินเป็นอาหาร นอกจากนี้ทากทะเลยังมีวิธีการป้องกันตนเองโดยการดูดซับสารพิษหรือกลิ่นจากอาหารที่มันกินเพื่อส่งไปยังผู้ล่าเพื่อให้ไม่ถูกกินอีกด้วย สำหรับการขยายพันธุ์ทากทะเลเป็นสัตว์ที่มีสองเพศในตัวเดียวคือสามารถสร้างทั้งไข่และ sperm ได้ในตัวเดียวกัน แต่ไม่สามารถผสมกันเองได้ ต้องมีการเข้าคู่เพื่อแลกแลก sperm เพื่อผสมกับไข่เมื่อถึงเวลาวางไข่ โดยการวางไข่ของทากทะเลก็มีลักษณะพิเศษคือการวางตัวเป็นลักษณะคล้ายริบบิ้นสำหรับทากทะเลในประเทศไทยสามารถพบได้ทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน เช่น เกาะเต่า และเกาะแสมสาร โดยความลึกที่สามารถพบได้จะอยู่ในช่วง 700-2000 เมตร ตามแนวปะการัง พื้นทรายที่มีฟองน้ำซึ่งเป็นอาหารของทากทะเล ทั้งนี้แม้จะมีสีสันที่สวยงามแต่ทากทะเล ไม่ควรถูกจับมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงเนื่องจากทากทะเลเป็นสัตว์ที่มีส่วนสำคัญในห่วงโซ่อาหารและยังมีส่วนช่วยในการปกป้องปะการัง จึงควรร่วมกันดูแลรักษาให้ความอุดมสมบูรณ์ยังคงอยู่กับทะเลไทยต่อไปขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภาพประกอบ ภาพที่ 1/ ภาพที่ 2/ ภาพที่ 3/ ภาพที่ 4