สวัสดีจ้า วันนี้เราจะมารีวิวการไปปฏิบัติธรรม ที่ธุดงคสถาน มัคคานุคาวิเวก เกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี หรือ คนที่ไปมักจะเรียกกันว่า สวนยินดีเกาะพะลวย ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของท่านอ. ประเสริฐ อุทัยเฉลิม จ้าตอนแรกนึกว่า ไปลำบาก เพราะไกล แต่พอไปจริงๆแล้วสบายมาก เพราะแค่ลงสนามบินสุราษฏร์ ปุ๊ป ก็แค่นั่งรอ ก็จะเห็นกลุ่มคนใส่เสื้อสีน้ำตาล (คอสอ.ประเสริฐท่านให้ใส่เสื้อสีขาว หรือ น้ำตาลเข้ม) ค่อยๆทะยอยลงเครื่องกันมาเรื่อยๆ แล้วก็จะมีจิตอาสา 1 ท่านมาคอยเช็คชื่อว่าใครมาแล้วบ้าง ทางทีมงานจะจัดรถตู้มารับถึงสนามบินเลย สะดวกเว่อ ช่วงเราไป จ่ายค่าคอสวันละ 600 บาท ซึ่งจริงๆไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของสำนัก แต่ทุกคอสจะมีผู้อุปการะคุณ ที่บริจาคเงินเป็นเจ้าภาพคอสต่างหากด้วย จึงช่วยสำนักได้มากทีเดียวสนามบินสุราษฏร์ธานีพอถึงเวลา 9 โมงเช้า ก็จะมีรถตู้มารับตรงเวลา เพราะสามารถจอดรถรับผู้โดยสารได้ชั่วคราวเท่านั้น รถตู้ใช้เวลาวิ่ง 1.ชม.20 นาที ระยะทาง 88 กิโลก็จะมาแวะจอดที่ เซเว่น ใกล้ๆท่าเรือดอนสัก เพื่อให้พวกเราแวะซื้อ อาหารกลางวันไปนั่งกินบนเรือ พอซื้อกันเสร็จ ก็ขึ้นรถไปอีกนิดเดียวก็ถึงท่าเรือดอนสัก พิกัดท่าเรือดอนสักใครเมาเรืออย่าลืมกินยาแก้เมาก่อนขึ้นเรือน้า พิกัด บรรยากาศในเรือขึ้นเรือปุ๊บทุกคนก็เอาอาหารกลางวันออกมากินกันเลยท่าเรืออ่าว 2 ของเกาะพะลวยนั่งเรือประมาณ 1 ชม. 30 นาที ก็มาถึงที่ ท่าเรืออ่าว 2 ของเกาะพะลวยกัน ทางสำนักจะจัดรถกระบะ โฟวีลมารับ เพราะทางขึ้นไปสูงชันและแคบเลยต้องใช้รถแบบโฟวีลเท่านั้น ที่สวนยินดีเกาะพะลวย จะมี 3 โซน คือ สำนักล่าง สำนักกลาง และ สำนักบน รถโฟวีลจะมารับไปส่งที่สำนักล่างกันก่อน พิกัดสำนักล่างที่เกาะพะลวยจะเป็นเกาะพลังงานสะอาด เพราะฉะนั้นที่สำนักจะใช้แต่ไฟโซลาเซล ซึ่งจะมีช่วงเวลาที่สำนักเปิดให้ชาจไฟได้เป็นบางช่วง แต่ก็สะดวกมาก พอเปิดไฟปุ๊บ จะมีจุดชาจซึ่งสำนักเตรียมปลั๊กพ่วงไว้พร้อม พวกเราก็แค่เอาโทรศัพท์ กับ ไฟฉายไปวางชาจทิ้งไว้ร่วมกันได้เลย ที่สำนักล่าง จะมียุงเยอะช่วงทำวัตรเย็น และ เป็นสำนักที่อากาศจะร้อนสุด ลมพัดน้อยสุดพอมาถึง เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อย ก็มานั่งรอที่หอธรรม เพื่อฟังคุณเบียร์ (ผู้ช่วยของท่านอ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม) อธิบายตารางคร่าวๆ ของวันแรกและวันที่ 2 ก่อน โดยจะบอกตารางวันต่อวัน เพราะถ้าบอกยาวไปเลยพวกเราจะจำไม่ได้ ที่นี่มีน้องหมาน่ารัก 3 ตัวที่จะเดินตามและเชื่อฟังคนที่มีอาหารในมือ 555 อ.ประเสริฐจะฝึกหมาไว้ดี คือ จะตีหมาถ้าหมาไปขย้ำไก่ ทำให้หมารู้ว่าห้ามแตะไก่นะจ๊ะ ไก่ที่นี่เลยเดินเล่นได้อย่างปลอดภัย และอิสระเสรี วันสุดท้ายจะมีชาวบ้านเอาอาหารโอท็อปมาขาย ก็จะมี ปลาแพ็คใส่ถุงสูญญากาศ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (นำขึ้นเครื่องบินได้) และตอนท้ายจะมาถึงช่วงตื่นเต้นลุ้นระทึก คือ การจับสลากหมายเลขกุฏิ ใครจะได้อยู่สำนักบน หรือ สำนักล่าง ใครจะได้กุฏิ size L (มีห้องน้ำในตัว), size M (ไม่มีห้องน้ำในตัว ให้ใช้ห้องน้ำรวม) หรือ size S (มีทั้งแบบมีห้องน้ำในตัว และ ไม่มีห้องน้ำในตัว) ก็ลุ้นเอาตอนนี้แหละ ส่วนผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลจ้า เพราะถ้าจับได้กุฏิที่เดินไกลมาก คุณเบียร์จะให้สิทธิพิเศษจับฉลากใหม่จนกว่าจะได้กุฏิที่เดินใกล้ๆ ซึ่งมักจะเป็น size L และ M จ้า พอจับฉลากเสร็จ คนที่ได้สำนักล่าง ก็แค่ เอากระเป๋าไปที่กุฏิ ส่วนใครได้สำนักบน ก็เตรียมตัวไปขึ้นรถโฟวีลที่จะไปส่งที่สำนักบน คนที่ได้อยู่สำนักบน จะต้องลงมาที่สำนักล่างทุกเช้า เพื่อมาทานอาหารวันละ 1 มื้อ โดยจะมีทางเดินลงมา ใช้เวลาเดิน 15-20 นาที แต่คอสนี้ทางสำนักอำนวยความสะดวกให้โดยจัดรถโฟวีลคอยรับส่งจากสำนักบน ตลอดเลยจ้าหมายเหตุ: สำนักจะให้สิทธิพิเศษกับผู้มีอุปการะคุณของสำนัก ได้เลือกหมายเลขกุฏิได้เลยก่อนจะมาคอส เพราะผู้อุปการะคุณส่วนใหญ่จะมาปฏิบัติธรรมที่สำนักบ่อย และคุ้นเคยดีว่า กุฏิหมายเลขไหนอยู่ตรงไหนห้องน้ำและโซนล้างจาน (สำนักล่าง)เป็นแบบส้วมโถ แต่ต้องตักน้ำราด (ไม่ใช่กดชักโครก) ใครว่างช่วงไหนกับรับบุญขัดห้องน้ำได้เลยจ้าหอธรรมเก่า (สำนักล่าง)ตรงจุดนี้จะมี ซองเครื่องดื่มต่างๆทั้งแบบ ทรีอินวัน และชาผงซองๆ ไว้ให้ชงดื่มเป็นน้ำปานะช่วงที่มาฟังธรรมตอนค่ำหอธรรมใหม่ (สำนักล่าง)หอธรรมใหม่กำลังก่อสร้าง ใกล้จะเสร็จแล้วโซนปลูกผัก (สำนักล่าง)มีทั้งปลูกบนดิน และปลูกแบบไฮโดรโปนิก ใครชอบทานผัก ถ้ามาปฏิบัติธรรมที่นี่จะมีผักสลัด พร้อมน้ำสลัดให้ทานแบบบานเบิกCafeteria เกาะพะลวย (สำนักล่าง)เป็นจุดที่ให้นั่งทานอาหาร ซึ่งที่นี่จะให้ทานวันละ 1 มื้อ และ มีน้ำปานะ คือ เครื่องดื่มทรีอินวันและชาซองให้ชงเองช่วง 16.00 น.สำนักจะให้ชาม ช้อนกลาง ฟองน้ำเล็ก คนละ 1 ใบให้เก็บไว้ใช้ตลอดคอส โดยจะมีจุดวางจานที่มีหมายเลขให้ตอนล้างเสร็จ เราก็แค่จำหมายเลขเราไว้ แล้วมาหยิบชาม ช้อน ก่อนไปตักอาหาร ส่วนแก้วน้ำจะใช้ของสำนักหรือจะใช้แก้วที่เตรียมมาเองก็ได้กุฏิ (สำนักล่าง)ลานธรรมสำหรับปฏิบัติธรรม (สำนักล่าง)เป็นโซนอิสระ ให้ใครมาเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิได้หมดศาลาสำหรับปฏิบัติธรรม (สำนักล่าง)เป็นโซนอิสระ ให้ใครมาเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิได้หมดสำนักกลางตอนนี้ใช้เป็นที่พักของอุบาสิกาใจพระ รุ่นที่ 8 เพราะฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมในคอส เลยจะได้พักแค่สำนักล่าง หรือ สำนักบน เท่านั้นที่สำนักกลางจะมีกุฏิวิวพันล้านด้วยจ้า ก็คือกุฏิที่เห็นวิวทะเลแบบจะๆ แบบในรูปเลย โดย อุบาสิกาใจพระ รุ่นที่ 8 ต้องจับสลากเวียนกุฏิกันทุก 15 วัน เพื่อไม่ให้ยึดติดว่า นี่กุฏิฉันนะ ก็แล้วแต่บุญวาสนาว่าใครจะได้กุฏิวิวพันล้านในรอบไหน ในช่วงบวช 3 เดือนเส้นทางจากสำนักล่าง ขึ้นไป สำนักบนสำนักบนที่สำนักบนอากาศจะเย็นสุด และลมแรงที่สุด ถ้าใครมาปฏิบัติธรรมที่นี่อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย เราแจ็คพ็อตมาตอนเดือน กค. หน้าฝน แต่ช่วง 2-3 วันแรก พายุเข้าพอดี ทำให้อากาศหนาวมาก เหมือนหน้าหนาวเลย โชคดีเอาเสื้อกันหนาวมา เห็นบางคน คงนึกว่าอากาศจะร้อน ไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมา ต้องเอาถุงนอนมาห่มตอน นั่งสมาธิแทนกุฏิที่สำนักบนนี่จะอยู่ใน 4 โซน คือโซนป่าวนปัตถ์ โซนนี้อยู่ในป่า ไกลจากหอธรรมมากที่สุด เราว่าใครได้โซนนี้ลำบากสุด เพราะต้องเดินขึ้นลงบันไดไกลมาก ถ้าใครได้กุฏิปลายสุดของบันได คือเหนื่อยมากๆ จบคอสคงผอมพอดี โซนป่าชัฏ โซนนี้อยู่ในป่า ไกลจากหอธรรมมากที่สุด แต่ลงบันไดไม่ชันมากเท่ากับโซนวนปัตถ์ เราได้โซนนี้แหละจ้า โซนลานหินโค้ง อยู่ห่างจากหอธรรมปานกลาง เป็นกุฏิ 4-5 หลังอยู่รายรอบลานหินโค้งโซนอุบาสิกา อยู่ห่างจากหอธรรมปานกลางโซนอาจารย์ อยู่ใกล้กับหอธรรมโซนหอธรรม โซนนี้ใกล้หอธรรมมากที่สุดทางเดิน (สำนักบน)ทางเดินจะเป็นทางลาด หรือ บันได ซึ่งจะมีใบไม้ในป่าร่วงมากมายตลอด ยิ่งถ้าใบไม้โดนฝนเปียกชุ่มฉ่ำจะลื่นมากๆ ใครมาอย่าลืมหารองเท้ารัดส้น ที่มีดอกยางดีๆ ไม่ลื่น มาด้วยจ้า ส่วนรอบนี้ เราลากแตะมา เพราะชอบล้างเท้า เท้าเปียกตลอดเวลา กุฏิ size L มีห้องน้ำในตัว (สำนักบน)ส่วนใหญ่จะอยู่โซนหอธรรม คือ เดินนิดเดียวก็ถึงหอธรรม เห็นผู้มีอุปการะคุณของสำนักมักจะเลือกกุฏิแบบนี้ แต่ก็มีคนทั่วไปที่ดวงดีจับฉลากได้กุฏิแบบนี้เช่นเดียวกัน รวมถึงผู้สูงอายุหลายท่านที่ถ้าจับฉลากตอนแรกได้กูฏิ size S ที่ไกลจากหอธรรม คุณเบียร์จะให้จับฉลากใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะได้ size M หรือ L กันจ้ากุฏิ size M ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องไปใช้ห้องน้ำรวม (สำนักบน)กุฏิ size S มีทั้งแบบมีห้องน้ำในตัว และ ไม่มีห้องน้ำในตัว (สำนักบน) กุฏิบนต้นไม้ (สำนักบน)ใครได้พักกุฏิบนต้นไม้ ค่อนข้างโหดพอควร เพราะไม่มีห้องน้ำ size น่าจะประมาณ M เราลองเดินขึ้นลง แล้วนึกภาพว่าถ้าปวดฉี่กลางคืน แล้วต้องเดินลงมานี่ ไม่ต้องหลับต่อแน่ เพราะเดินขึ้นเดินลงต้องใช้เวลพอควรและใช้สติสูงมากๆ คือ ตื่นแล้วตื่นเลยแน่นอน ห้องน้ำรวม (สำนักบน)เรือนรับรอง (สำนักบน) สำหรับให้แขกของท่านอ.ประเสริฐ มาพัก เห็นวิวทะเลสวยมากๆจ้า หอธรรม (สำนักบน)มี 2 ชั้น ชั้นบนสำหรับ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ชั้นล่าง มีซองเครื่องดื่มทรีอินวัน และ ชาแบบซอง สำหรับ ชงน้ำปานะ ตอน 16.00น. มีจุดล้างแก้ว โดยสำนักให้ฟองน้ำล้างแก้วคนละ 1 ชิ้นเล็กๆ มีห้องเก็บของ ซึ่งมีเตาแก๊ส ไว้สำหรับ ต้มน้ำร้อนไว้ชงดื่มกับน้ำปานะ และในห้องเก็บของจะมีตู้เก็บวิทยุธรรมะ มีไฟล์ MP3 ของอ.ประเสริฐ และโคมไฟโซลาเซล ซึ่งผู้ปฏิบัติธรรมสามารถเบิกไปใช้ได้ตามต้องการ เราชอบมาก เอา MP3 ไปฟังตอนกลางคืน แต่ต้องใช้หูฟังนะจ๊ะ ถ้าใครเปิดจากลำโพงคือดังลั่นป่า ได้ยินทั่วถึงกันลานธรรมสำหรับปฏิบัติธรรม (สำนักบน)สำหรับเดินจงกรมและนั่งสมาธิได้อย่างอิสระ มีหลายจุด แทรกซึมอยู่ตามโซนต่างๆศาลาสำหรับปฏิบัติธรรม (สำนักบน)สำหรับเดินจงกรมและนั่งสมาธิได้อย่างอิสระ มีหลายจุด แทรกซึมอยู่ตามโซนต่างๆภาพตอนตาม อุบาสิกาใจพระรุ่นที่ 8 ไปบิณฑบาตรหลังจากขาดช่วงไม่ได้บิณฑบาตรถึง 2 ปีเนื่องจากสถานการณ์โควิดวันก่อนสุดท้ายคุณเบียร์แจ้งว่า มีกลุ่มที่มาเอง (ไม่ได้มาในคอส) ที่กะจะกลับก่อนพวกเรา แล้วออกจากเกาะไม่ได้ เพราะเรือเข้ามาไม่ได้เพราะช่วงนี้น้ำลดเร็วมาก ทำให้ต้องเปลี่ยนไฟล์ทกะทันหัน เลยทำให้วันพรุ่งนี้ พวกเราจะต้องออกจากเกาะเร็วกว่าที่กำหนดตอนแรก คือ ถ้าปกติจะออกจากเกาะหลังทานอาหารเช้า ประมาณ 9 โมงกว่าๆ ต้องเปลี่ยนเป็น ออกจากเกาะไม่เกิน 6 โมงเช้า เพราะฉะนั้น วันนี้ช่วงค่ำ ก็จะทำพิธีปิดคอสกันเลยวันสุดท้ายพวกเราเก็บของกันเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ตื่น ตี 3 ครึ่ง เพราะต้องใช้เวลาลงจากสำนักบน มาที่ท่าเรืออ่าว 2 กันอีก สุดท้ายพวกเราก็ได้ออกเรือ ตอน 6 โมงเช้าเป๊ะๆ แบบไม่มีปัญหา เนื่องจากพวกเราออกเร็วกว่าแผนเดิม เลยทำให้มีเวลาว่าง 3-4 ชม. ในเรือ มีเพื่อนที่วางแผนเก่ง ช่วยเตรียมแผนให้คนลงชื่อ แยกเป็นกลุ่มๆไว้ คือ กลุ่มไฟล์ทกลับเร็ว ก็ให้รวมนั่งรถตู้ไปซื้อของฝากอย่างเดียวแล้วไปสนามบินเลย กับอีกกลุ่มคือ คนที่จองไฟล์ทกลับเย็นหน่อย ก็วางแผนไปเที่ยวกันต่อ (โดยแบ่งเป็นกลุ่มย่อยอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม ที่เลือกไปเที่ยวสวนโมกข์ กับ กลุ่มที่เลือกไปเที่ยวในเมือง หาร้านอาหารอร่อยกินกัน และ ซื้อของฝาก) ต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่ทำให้ทุกอย่างสะดวกไฉไลสำหรับทุกคนมากๆจ้าสนามบินสุราษฏร์ธานีเที่ยวเสร็จ รถตู้ก็มาส่งสนามบินเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพรีวิวการปฏิบัติธรรมการปฏิบัติธรรมที่นี่รู้สึกสงบ สบายดี เพราะ ทางสำนัก มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ มีตู้ยาหลากหลายชนิดพร้อมสรรพ เราอุตส่าห์ไปซื้อทิชชูก่อนจะมา 8 ม้วน แต่พอมาถึง ทางสำนักมีทิชชูไว้ให้ใช้ในห้องน้ำ แบบทิชชูชนิดหนาอย่างดีด้วย ทางสำนักมี ยากันยุง และ ร่ม วางไวให้ใช้ด้วย น้ำยาทำความสะอาดมีที่กุฏิ แต่ถ้าหมดสามารถมาเติมที่ห้องน้ำรวมได้ ปกติที่กุฏิจะมีไม้กวาด ไม้ถูพื้น ประจำไว้อยู่แล้ว และถ้ามีอะไรขาดจริงๆ เช่น ลืมเอาสบู่มา ก็สามารถขอเบิกกับสำนักได้ แต่มีปัญหา คือ ฝนตกบ่อย อากาศชื้นมาก ตากผ้าไม่ค่อยแห้ง ควรเลือกผ้าชนิดที่แห้งง่ายๆ นำเสื้อผ้ามาแค่ 3 ชุดก็พอแล้วถ้าซักทุกวัน และ บางช่วงลมฝนแรงมาก ถ้าใช้เสื้อกันฝนจะสะดวกกว่าใช้ร่ม สิ่งที่ต้องเตรียมมา ก็ เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ผงซักฟอก ถุงนอน เสื้อกันหนาว ไฟฉาย รองเท้ากันลื่น เสื้อกันฝน ถุงพลาสติกไว้ใส่ขยะในกุฏิ ยาประจำตัว แก้วน้ำ(กรณีไม่อยากใช้แก้วของสำนัก) ในกุฏิ จะมีแค่ หมอน กับ เบาะขนาดเท่าตัวเราเป๊ะ ไว้ปูนอนเท่านั้น แต่มันนอนสบายมากเลย ไม่เจ็บหลัง ที่กุฏิเรา มี ไม้แขวนเสื้อ และไม้หนีบให้ แต่ก็ไม่ทราบว่ามีทุกกุฏิหรือเปล่านะ ตารางคือมีระฆังปลุกตอน ตี 4 มาทำวัตรเช้าตอน 04.30น. ช่วงเย็นไปฟังธรรม และได้นอนประมาณ 21.00น. ซึ่งสำหรับเรา ถือว่า ที่นี่ให้นอนยาวมาก กำลังสบายๆ ช่วง 3-4 วันแรก จะมีการปฏิบัติรวมพร้อมกันที่หอธรรม คือ ให้ปฏิบัติรวม 3 ชม. ใครจะเดินจงกรมหรือนั่งสมาธิสลับกันก็ได้ ส่วนวันหลังๆ จะเป็นการปฏิบัติธรรมแบบอิสระ คือใครอยาก เดินจงกรม นั่งสมาธิตอนไหนก็ได้ ถ้าช่วงไหนมีเวลาว่างก็มาทำความสะอาดหอธรรม ห้องน้ำรวม กวาดใบไม้ที่ทางเดิน ถ้ามาคอสที่ตรงกับวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันวิสาขบูชา ก็จะมีการปฏิบัติแบบเนสัชชิก คือ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ทั้งคืนโดยไม่เอนหลังลงนอนเลย แต่ไม่บังคับ คือแล้วแต่ว่าใครอยากทำก็ได้ สรุป คือ เป็นสถานที่ที่สับปายะ สงบ สันติ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง ใครสนใจ ก็ลองหาฟังยูทูปของอ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิมดู จะรู้ว่า ท่านมีความสามารถพิเศษในการอธิบายสิ่งที่ยากให้คนเข้าใจได้ง่ายๆ ส่วนการปฏิบัติธรรมที่นี่ จะเน้นการเดินตามเส้นทางอริยมรรคมีองค์ 8 เน้นฝึกสติสัมปชัญญะ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เราจะต้องพบกับผัสสะการกระทบอารมณ์ต่างๆ ในคอสนี้จะค่อนข้างสบายๆ ยังพอจะพูดคุยกันได้ ถ้าเป็นบางคอสที่ห้ามพูดคุยกันเลย ก็มีเช่นกันถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสและชอบแนวนี้ ก็ลองมากันดูจ้าเครดิตภาพ: ผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”