ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะสมุย เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก โดยต้องการพาแฟนไปเที่ยวทะเลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ เพราะเขาเป็นคนกรุงเทพ ฯ ตั้งแต่กำเนิด นาน ๆ เขาถึงจะได้เที่ยวทะเลสักครั้ง พอย้ายมาอยู่สุราษฎร์ธานี ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวทะเลแบบจริง ๆ จัง ๆ สักที ทริปนี้เราขับมอเตอร์ไซค์ไปกันเอง เพราะต้องการใช้ขับเที่ยวที่ตัวเกาะสมุยด้วย ไม่ต้องลำบากหาร้านเช่าหรือต้องรอรถโดยสารสาธารณะ ไปไหนได้ตามใจ เราออกจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีช่วงเช้าตรู่ ขับไปเรื่อย ๆ เพื่อไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรืออำเภอดอนสัก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือ ซึ่งเรือเฟอร์รี่มี 2 บริษัท โดยมีจุดหมายปลายทางคนละด้านของเกาะ ตัวเองเลือกไปกับบริษัทซีทราน เฟอร์รี่ จำกัด เพื่อไปลงที่ท่าเรือหน้าทอน ซื้อตั๋วสำหรับผู้โดยสาร 1 ใบ 130 บาท ซื้อตั๋วสำหรับมอเตอร์ไซค์พร้อมคนขับ 180 บาท 1 ใบ เรือเฟอร์รี่มี 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่บรรทุกรถ มีทั้งรถทัวร์ รถส่วนตัว ส่วนชั้น 2 และ 3 เป็นที่นั่ง พิเศษที่ชั้น 3 เป็นดาดฟ้าโล่ง ๆ ถ้ามาตอนเย็น ขึ้นไปนั่งเล่นรับลม ดูพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม เมื่อถึงเวลาเรือออกผู้เขียนก็เดินขึ้นเรือ ส่วนแฟนก็ไปขับมอเตอร์ไซค์เพื่อขับรถไปลงชั้นล่างของเรือ ในกรณีที่ไม่ได้ขับรถกันมาเอง สามารถซื้อตั๋วเพื่อขึ้นรถทัวร์มายังท่าเรือได้ที่ในตัวอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ วิวที่มองเห็นจากบนเรือ หลังจากเรือออกจากท่าเรือ หลังจากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เรือก็เทียบท่าที่ท่าเรือหน้าทอน เราถึงเกาะสมุยแล้ว ดีใจ ๆ เพราะผู้เขียนเองก็ก็ไได้มาเกาะสมุยนานมากแล้ว นับล่าสุดคงต้องย้อนไปเกือบ 20 ปี ตอนนั้นมากับเพื่อน ๆ ในห้อง สมัยมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีที่ 6 ผู้เขียนเดินลงไปที่ชั้นล่างเพื่อขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับออกไปพร้อมกับแฟนเลย พอออกจากเรือ เราก็มุ่งหน้าไปที่รีสอร์ทที่เราจองผ่านทางเว็บไซต์ booking.com กันเลย เราเลือกพร้อมสุขบุรี รีสอร์ท หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วเรียบร้อย พักผ่อน ล้างหน้าล้างตานิดหน่อย ก็พร้อมลุยแล้วค่ะ วางแผนไว้ว่าจะไล่ขึ้นเหนือ วนให้รอบเกาะ จุดหมายที่ 1 อ่าวท้องตะเคียน เป็นหาดหน้ารีสอร์ท อยู่ระหว่าง หาดเฉวง และ หาดละไม สวยมาก ฟ้าใส ทรายขาวละเอียด หาดนี้ค่อนข้างส่วนตัว เป็นหาดที่อยู่ในเวิ้งของภูเขา มีรีสอร์ทอยู่ 3 - 4 แห่ง ทางเข้าค่อนข้างลึกลับ ดังนั้นคนนอกที่ไม่ได้พักที่หาดนี้ จึงไม่ค่อยเห็นนัก จุดหมายที่ 2 วัดราชธรรมาราม (วัดศิลางู) เพื่อมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุซึ่งบรรจุอยู่ในเจดีย์องค์สีทองอร่ามริมทะเล สาเหตุที่เรียกวัดนี้ว่าวัดศิลางู เพราะว่าชายหาดตรงนั้นมีก้อนหินจำนวนมากเมื่อเวลาน้ำลดจะมองคล้ายเกล็ดงู ในวัดนี้มีจุดเด่นอีกอย่างนึง คือพระอุโบสถสีแดง สีแดงเกิดจากการผสมเพิ่มสีเข้าไปเพราะทางวัดใช้หินปูนเค็มมาบดละเอียดผสมกับปูนเพื่อสร้างพระอุโบสถ แต่ปรากฎว่าสีไม่สวย เลยทดลองผสมสีแดงลงไป ได้สีสวยถูกใจ จึงก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ จุดหมายที่ 3 หินตาหินยาย ใครไม่มาถือว่ามาไม่ถึงเกาะสมุยนะคะ อยู่ที่หาดละไม มีป้ายหน้าปากซอย เลี้ยวเข้าซอยมาไม่ไกล ระหว่างทางมีของขาย ทั้งอาหาร ขนมกาละแม เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เมื่อถึงลานจอดรถ ก็ต้องเสียค่าบริการที่จอดรถคันละ 5 บาท เห็นหินตาชัดเจน แต่หินยายไม่รู้อยู่ตรงไหน จุดหมายที่ 4 น้ำตกหน้าเมือง เมื่อมาถึงลานจอดรถ จะเจอปางช้าง สามารถติดต่อเพื่อนั่งช้างชมธรรมชาติได้ ระหว่างทางเดินไปน้ำตก มีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าแบบไทย ๆ มีกลิ่นไอชายทะเล แต่เราไม่สนใจ ต้องการไปน้ำตกอย่างเดียว จ้ำอ้าวเดินไปตามเสียงน้ำตก มีความหวังมาก แต่ว่า.... น้ำมีนิดเดียว น้ำในน้ำตกแห้งมาก ผู้เขียนเสียดายมากเพราะเรามาช่วงหน้าแล้งนั่นเอง แต่เราก็มาเจอสิ่งปลอบใจ เป็นแมวเหมียวเจ้าถิ่น 3 ตัว ขี้อ้อนมาก พอดีที่แฟนมักจะพกขนมแมวเลียติดตัวอยู่ตลอด เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้โดยเฉพาะ จุดหมายที่ 5 วัดเจดีย์แหลมสอ เดินทางมาที่วัดนี้เพื่อมานมัสการเจดีย์แหลมสอ องค์พระเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีทองทั้งองค์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อเวลาแสงแดดตกกระทบองค์เจดีย์ที่อยู่ริมทะเล องค์เจดีย์จะสะท้อนแสงทองอร่ามไปทั้งองค์ สวยงามมากค่ะ วัดตั้งอยู่ระหว่างตำบลตลิ่งงาม-หน้าเมือง จุดหมายที่ 6 ตลาดโต้รุ่ง ท่าเรือหน้าทอน ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะไปวัดปลายแหลม และหาร้านนั่งเพื่อดูพระอาทิตย์ตก แต่ไปไม่ทัน เลยปรับแผนใหม่ หาอะไรทานแถวท่าเรือ แล้วไปนั่งร้านคาเฟ่สักร้านรอดูพระอาทิตย์ตกกันดีกว่า ระหว่างเดินหาของกิน เจอร้านนี้ คนยืนเข้าคิวรอกันเพียบเลย ต้องลองแล้วล่ะ เมื่อได้ลองทาน เหมือนเราได้พบช้างเผือกในป่าใหญ่ อร่อยมาก ๆ ค่ะ ของสดทุกอย่างเลย โดยเฉพาะยำมันปู (ด้านขวาล่างของรูป) คือเด็ดมาก ๆ ตอนได้ทาน อยากจะขับมาซื้ออีก เสียดายไกลและดึกแล้ว กล่องนี้สั่งพิเศษราคา 70 บาท จุดหมายที่ 7 ร้านสวัสดีคัพ หวังมารอดูพระอาทิตย์ตก แต่วันนี้เมฆเยอะ พระอาทิตย์เลยแอบหลังเมฆตกลงไป แต่บรรยากาศโดยรวมก็สวยไปอีกแบบนะคะ ลมเย็น ๆ เสียงทะเลพัดกระทบฝั่ง นั่งคุยกันสบาย ๆ คลายความรีบเร่งจากทัวร์รอบเกาะเมื่อกลางวันไป ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้วล่ะค่ะ ระหว่างรอเวลาพระอาทิตย์ตกก็สั่งกาแฟเย็นและแตงโมปั่นมาดื่ม ร้านตกแต่งแก้วมาน่ารักมาก ถูกใจค่ะ พอแสงหมด ขับรถกลับที่พัก นอนหลับพักผ่อน ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าของรีสอร์ท เล่นน้ำสักหน่อย แล้วก็เก็บของเช็คเอาท์ ออกเดินทางกันต่อเพื่อเก็บจุดจุดหมายวางแผนไว้ให้ครบ อาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทจัดให้ อร่อยมากค่ะ อิ่มถึงเที่ยงเลย จุดหมายที่ 8 วัดปลายแหลม ชื่อเต็ม ๆ คือ วัดแหลมสุวรรณาราม อยู่ระหว่างวัดพระใหญ่กับหาดเชิงมน พื้นที่ในวัดเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ตัวอุโบสถหลักก็อยู่กลางน้ำ ในวัดมีรูปปั้นพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่อยู่กลางสระน้ำ พระสังกัจจายน์หมายความว่าพระที่เต็มไปด้วยความรัก เป็นผู้ซึ่งให้ความรักและความสุขมาสู่ปวงชน ชาวจีนจึงนิยมมาขอพรเพื่อให้พบความสุข และร่ำรวย เจ้าแม่กวนอิมพันมือ แต่ละแขนแสดงถึงแต่ละด้านของศาสนาพุทธ ครบจุดมุ่งหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว ก็เดินทางกลับกันเลยค่ะ ซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ได้แล้วก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำละแวกสำนักงานขายตั๋ว เพื่อรอเวลาลงเรือกลับสุราษฎร์ธานีกันค่ะ ทานเสร็จไม่นานถึงเวลาลงเรือ เราใช้บริการบริษัทเดิม ขึ้นเรือที่ท่าเรือหน้าทอนเช่นเคย กลับสุราษฎร์ธานีอย่างมีความสุข แล้วจะกลับมาหาอีกนะ....เกาะสมุย เครดิตภาพทั้งหมดโดย ผู้เขียน