เริ่มต้นทริปด้วยการบินจาก ดอนเมือง ไปยัง สุราษฯกันเลยค่ะ จริงๆบินมาจากเชียงใหม่ และประเมินเวลาต่อเครื่องไม่ดีตกเครื่องไปตามระเบียบ โชคดีที่ Lion air เขายังมีไฟท์ดึกบินไปสุราษฯอยู่เลยรอดตัวไปค่ะ ขอแวะปลอบใจตัวเองด้วยไก่ทอด BonChon เนื่องจากบินไฟท์ดึก กว่าจะถึงสนามบินสุราษฯเวลาก็ 23.00 น.แล้วค่ะ สนามบินมืดและเงียบมาก เนื่องจากเป็นไฟท์สุดท้ายของที่เดินทางไปแล้ว ไม่เหลือแท๊กซี่แม้แต่คันเดียว ซินตัดสินใจเดินไปถามพี่พนักงานสนามบินก็ทราบว่ายังมีคิว รถเมล์พันทิป อยู่ เดชะบุญทันรถเมลเข้าเมืองสุราษเที่ยวสุดท้ายพอดีเป๊ะ บรรยากาศในรถเมล์เข้าเมืองสุราษฯ ในเวลา 23.17 น. ค่ะ หลังจากนั้นก็เข้าที่พักบริเวณในเมืองพักผ่อนค่ะ เพราะดึกมากแล้ว เช้าวันต่อมาก็ถึงเวลาล่าของกินค่ะ เดินไปเที่ยวใน "ตลาดศาลเจ้าสุราษฎร์ธานี" เพื่อเดินหาร้าน "ยิ้ม ยิ้ม โอชา" ร้านอาหารจีนที่วางแผนไว้ว่าจะไปตะลุยกิน ติ่มซำทะเลเด็ดมากไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ต่อไปก็โบกรถสองแถวไปซื้อตั๋ว เรือ+รถ ของ ราชาเฟอรรี่ ไป "เกาะสมุย" กันค่ะ หลังจากที่ได้ตั๋วก็เดินทางกลับโรงแรม เก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋า ไปขึ้นรถที่เราได้ทำการซื้อตั๋วไปค่ะ ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองสุราษฯ ไปยัง ท่าเรือดอนสัก ประมาน 1 ชั่วโมง เราสามารถเลือกได้นะคะ ว่าอยากนั่งห้องแอร์หรือด้านนอกเพื่อตากอากาศ ภายในเรือมีร้านค้าด้วยค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องของกิน ในส่วนของบรรยากาศบนเรือนั้น ... ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก็จะมาถึง "ท่าเรือหน้าทอน" แวะซื้อทัวร์ 1 day trip ให้เรียบร้อย ท้องก็เริ่มหิวเดินดิ่งไปหาร้าน "จิตรโภชนา" โดยส่วนตัวขอแนะนำเมนู ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ อร่อยมากค่ะ 10/10 เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมลุยต่อ โบกแท๊กซี่ไปที่พักเลยค่ะ จาก ท่าเรือหน้าทอน ไปยัง Ark Bar Beach Resort ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ เก็บของเข้าห้องพักเสร็จแล้วเดินสำรวจที่พักกันซักเล็กน้อยค่ะ พอเริ่มค่ำ Ark Bar Beach Resort จะมีการแสดงพิเศษบริเวณริมชายหาด เช้าวันต่อมาทัวร์ 1 day trip ที่ซื้อไว้ก็มารับถึงหน้าที่พัก มุ่งหน้าไป "ท่าเรือหน้าทอน" ที่เก่าที่เดิมเพื่อที่จะขึ้นเรือไปเที่ยว "หมู่เกาะอ่างทอง" ทางเดินขึ้นจุดชมวิว "เกาะวัวตาหลับ" จำสีของฝาสเปรย์กันแดดไว้ดีๆนะคะ จุดชมวิวจุดที่ 1 จุดชมวิวจุดที่ 2 แทบไม่มีอะไรเลย จุดชมวิวจุดที่ 4 (จุดที่ 3 ลืมถ่ายค่ะ) จุดชมวิวจุดที่ 5 เป็นจุดชมวิวสูงสุดแล้วค่ะ 500 เมตรเหนือน้ำทะเล กว่าจะเดินถึงน้ำตาแทบไหลกันเลยทีเดียว แต่วิวคุ้มมาก สำหรับความแรงของ UV นั้น เข้มมากค่ะสังเกตุจากสีที่เปลี่ยนไปของสเปรย์กันแดด หลังจากที่เดินขึ้นเขากันอย่างสนุกสนานเสร็จแล้ว ต่อไปก็ไปพายเรือแคนูกันเลย พอจบภาระกิจประจำวันก็ถึงเวลาเข้าที่พัก บ้านหินทรายรีสอร์ทแอนด์สปาสมุย หลังจากถ่ายรูปนี้ได้ไม่นานฝนก็เทลงมาอย่างบ้าคลั่ง ขออนุญาตข้ามไปเช้าวันต่อมา ตื่นมานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แวะไปว่ายน้ำก่อนตะลุยเที่ยวกันต่อ สำหรับวันนี้มีคอนเซ็ปกิจกรรมคือ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป เริ่มต้นด้วยไป "ศาลเจ้าพ่อกวนอู" **การเข้าไปในศาลเจ้ากวนอูสำหรับสาวๆ จะต้องใส่ชุดแต่งกายให้เรียบร้อย และทางศาลเจ้าก็มีบริการให้ยืมผ้าถุงใส่คลุมค่ะ ท้องเริ่มหิวแล้ว หาพิกัดร้านเด็ดก็ไปเจอกับร้าน "Wood House " ปล. ปูอบวุ้นเส้น สดอร่อยเด็ดมากค่ะ 10/10 เจ้าของร้านน่ารักเป็นกันเอง มีเมนูแนะนำอีกอย่างคือ สุกี้น้ำ ท้องอิ่มแล้วก็ลุยต่อ ไปเล่นเครื่องเล่นน้ำ "Koh Samui Watersports" ที่ หาดละไม บอกได้เลยว่า "เวรี่ กู๊ด!" เครื่องเล่นต่อไปนี้ ไม่แนะนำสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ ตกใจง่าย แต่เหมาะสำหรับคนเครียดๆอยากแหกปากระบายอารมณ์ กรี๊ดจนเหนื่อยค่ะงานนี้ เห็นเครื่องเล่นน่ารักๆ ไม่น่าโหดมาก พอเล่นเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง! สถานนีต่อไป ไปเก็บภาพ หินตา หินยาย ที่อยู่ใกล้ๆกันนั่นเอง หมดเวลาสนุกแล้วสิ ก่อนนั่งเรือกลับตัวเมืองสุราษฯ แอบแวะไปเจอคาเฟ่เด็ด "SO CAFE' x SAMUI" ชีสเค้กเด็ดมาก 10/10 ละลายในปากไม่ต้องเคี้ยว ทานคู่กับเครื่องดื่มเมนู "สติ" และ"สมาธิ" กลับไปเชียงใหม่แล้วนะคุณสมุย ไว้มีโอกาสจะกลับไปพักผ่อนอีกนะ สำหรับทริปนี้ ซินได้ของฝากเล็กๆน้อยๆกลับมาด้วยค่ะ นั่นก็คือ "ผิวทางม้าลาย" เสื้อยูวีคัต ดี แคทลอน ของเขาดีจริงๆช่วยปกป้องผิวได้เริ่ด ถูกและดี ปล.กาละแมของเกาะสมุยอร่อยมากค่ะ ไปแล้วอย่าลืมซื้อกลับมาเป็นของฝากกันนะคะ (สีเขียวอร่อยที่สุด) ฝากติดตามในรีวิวการท่องเที่ยวครั้งต่อไปด้วยนะคะ ^^