พะงัน เกาะที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์สีสันแห่งความมีชีวิตชีวาที่ช่วยเยียวยาจิตวิญญาณชื่อดังก้องโลก เมื่อมูนามีวันหยุดงานตรงกับเพื่อนทั้งทีจึงไม่รอช้ารีบตกลงรับปากว่าจะไปให้ได้กันอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่รอจูเนียร์เลิกงานมูนาก็กดจองตั๋วเรือข้ามฝั่งผ่านเว็บไซส์ราชาเฟอร์รี่เมื่อเช็คตารางการเดินเรือประจำวันเลือกรอบเช้าสุดมาคือเวลา 09.30 น. ชำระเงินยืนยันการจองให้เรียบร้อยแล้วส่งข้อความวัดใจว่าใครจะเททริปไหมน้าเพราะเลิกงานคนละเวลากัน? ปรากฎว่าตอนเช้าจูเนียร์ขับมอเตอร์ไซค์ มารับตอน 7.00 น. ค่อย ๆ ขับตรงไปท่าเรือลิปะน้อยที่อยู่อีกซีกฝั่งของเกาะห่างจากหอที่พักเรา มาทันเวลาลงเรือตอน 9.15 น. (เกือบไม่ทันเลยจ้า)เช็คอินที่ท่าเรือแล้วเดินลงไปเลือกที่นั่งได้เลยค่ะ ภายในเรือมีที่นั่งแบบเบาะธรรมดารับลมธรรมชาติและห้องแอร์ให้เลือกได้ตามใจเลยค่าแถมมีร้านขายขนมกับเครื่องดื่มด้านบนโดยไม่ต้องกลัวหิวเลยค่ะ ผู้โดยสารบนเรือส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ พวกเรานั่งริมหน้าต่างเรือรับลมเรือไปชิว ๆ จน 2 ชั่วโมงผ่านไปเริ่มมองเห็นใกล้ฝั่งก็เลยเดินออกไปถ่ายรูปรับลมเล่นหัวเรือก่อนที่จะเทียบฝั่งขึ้นท่าตอนเวลา 11.20 น. ระหว่างที่เดินบนสะพานหน้าท่าเรือมูนารู้สึกเหมือนกำลังก้าวข้ามมายังอีกมิติหนึ่งเลยค่ะ มีรถสองแถวแบบเหมา วินมอเตอร์ไซค์คอยรอเรียกบริการอยู่ต้องใจแข็งและปฏิเสธกันหน่อยนะคะ (รับบทนักท่องเที่ยวเนื้อหอมแล้วหนึ่ง) พวกเรามีแผนจะขับรถเที่ยวรอบค่ะเลยลองถามไปว่าราคาวันละเท่าไหร่เขาก็ตอบราคามาไม่แรงมากค่ะ เพราะแอบมีความหวังว่าราคาข้างหน้าจะถูกกว่า ในที่สุดก็เจอร้าน See Mew & Car เจ้าของเดียวกับร้านอาหาร Phangan Retals ได้รถสีแดงคันเล็กคันเดียวที่เหลืออยู่ในร้านนอกจากนั้นจะเป็นคันใหญ่ค่ะค่าใช้จ่าย: ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์หนึ่งวัน 150/2 = 75 บาท (มัดจำรถราคา 3000 บาท ได้เงินคืนครบค่ะหลังนำรถมาคืน) พิกัดพอได้รถแล้วก็ออกเดินทางได้เย้! แต่ว่า...จอหน้าปัดน้ำมันตกเกณฑ์เป็นสีแดงเลยขับไปเติมน้ำมันปั๊มใกล้ ๆ กันค่ะ ทีแรกคิดกันว่าทำไมคอรถสั่นตลอดเวลาขับกันไม่แข็งพอมูนาลองเปลี่ยนไปขับให้เท่านั้นแหละค่าเลยรู้ว่ารถมีปัญหาคอสั่นกึก ๆ แต่พวกเราไม่ยอมค่าสู้เพื่อไปต่อให้ได้ (ขอแอบบอกว่าถนนบนเกาะพะงันสภาพดีกว่าบนเกาะสมุยเยอะเลยชิล ๆ น่า) เริ่มหิวแล้วเลยแวะทานข้าวมื้อเที่ยงบนเกาะครั้งแรกกันที่หัวถนนตลาดเก่าท้องศาลาค่ะ มูนาออเดอร์เป็นข้าวผัดกะเพราเผ็ด ๆ คู่กับโอเลี้ยงสักแก้วแก้เมาแดดจนง่วงได้ตาสว่างเลยค่า ค่าใช้จ่าย: ค่าน้ำมัน 50/2 + ค่าอาหารส่วนตัว 100 = 125 บาท พิกัดร้านอาหารบทความที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน: อาหารไทยในเกาะพะงัน ร้านKitchen Corner ตลาดเก่าท้องศาลา (โบซิ้นสูตรดังเดิม)ร้าน Varee Clothing ร้านสไตล์ชาวเกาะฮิป ๆ เสื้อผ้ามือสองลวดลายเก๋ที่นำเข้ามาจากทั่วโลกและแบบแฮนเมดและเครื่องประดับหัวจรดเท้าตั้งแต่หมวก ต่างหู จิว กำไลข้อมือ เข็มขัด กระเป๋า รองเท้า เสื้อ กระโปรงและกางเกงสำหรับผู้ชายผู้หญิงแนวอินเดียน โบฮีเมียนและยิปซี แฟชันไม่มีขีดจำกัดถ้าใจรักชิ้นไหนโดนใจก็ซื้อกลับไปได้เลยค่ะ ร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในย่านตลาดเก่าท้องศาลาเพราะว่าลูกค้าบอกต่อกันที่ทริปที่ญาติพี่น้องผองเพื่อนทุกมุมโลกแวะมาเที่ยวเกาะพะงันเลยค่ะ มีบริการเจาะหู เจาะสะดือ เจาะจมูก เจาะลิ้น เจาะคิ้ว เรียกได้ว่าทุกร้านย่านนี้พาเราหลุดไปอยู่ก็โลกที่เป็นอิสระต่อสังคมนิยมได้อย่างสุดฤทธิ์เลยค่า มูนาได้ชุดจั๊มสายเดี่ยวสีบานเย็นตัวเล็กลายโบโฮโบใจมาจากร้านนี้มาหนึ่งตัวค่ะทั้งร้านนี่เป็นตัวเดียวที่ไซส์พอดีกับตัวผู้เขียนเลยค่ะ ค่าใช้จ่าย : เสื้อผ้าหนึ่งชุดราคา 100 บาท พิกัดยูโทเปีย รีสอร์ท ค่าใช้จ่าย: ค่าห้องพักรวมอาหารเช้าที่จองล่วงหน้าหลังหารสองกับเพื่อน 322 บาท พิกัดบทความที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน: พะงันยูโทเปีย รีสอร์ท (รีวิวที่พัก Phangan Utopia Resort)Coco Locco Restaurant and Beach Bar มาถึงร้านนี้ได้เพราะมูนาลืมสายชาร์จแบตโทรศัพท์เลยต้องขับรถไปซื้อใหม่ที่ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่พักที่สุดค่ะ (ห่างกันประมาณ 5 กม.) เลือกมาซื้อที่ย่านหาดยาวพบว่าร้านอาหารเยอะมากเลยจอดรถสุ่มเดินตามไปมาจนเจอร้านนี้นั่งทาน Seafood Pizza กับ Mocktail เป็นมื้อเย็นริมชายหาดชิว ๆ Feel Good มากจ้าช่วง 17.00 น.จากหาดที่เงียบสงบก็เริ่มมีชาวต่างชาติออกมาเล่นวอลเลย์บอลภายแพดเดิ้ลบอร์ดกันอย่างสนุกสนานบอกได้เลยว่าช่วงเวลานั้นทั้งชายหาดมีสาวผมดำอยู่แค่สองคนคือมูนากับเพื่อนสาวเองค่าหากใครเป็นสายฝอที่อยากได้เพื่อนใหม่ชาวต่างชาติห้ามพลาดที่จะมาเยือนเลยน้าค่าใช้จ่าย: 385 บาท (ราคารวมอาหารและติปหลังหารสองกับเพื่อนสาวบวกเครื่องดื่มของตัวผู้เขียน) พิกัดคลิกอ่านบทความร้านนี้กันจุก ๆ ต่อได้ที่ Coco Locco Restaurant and Beach Bar ร้านเก๋ไก๋บนหาดยาวเกาะพะงัน 420 Club Phangan เป็นบาร์ที่ตั้งอยู่ในโรงแรมที่เข้าพัก เจ้าของโรงแรมแนะนำว่าให้ขึ้นไปดูดวงอาทิตย์ตกด้านบนพร้อมโฆษณาว่าเป็นมุมชมที่สวยที่สุดบนเกาะแล้วเช็คเวลาท้องถิ่นว่าดวงอาทิตย์ตอนไหนหลังจากนั่งเล่นที่หาดยาวเพลินไปหน่อยจึงรีบขับรถกลับค่ะเพราะกลัวไม่ทันปรากฎว่าช้าไปประมาณ 10 น. ที่นั่งถูกจับจองจนแน่นร้านบริเวณชั้นหนึ่ง มูนากับเพื่อนจึงไปนั่งเล่นชั้นสามแทนค่ะชมวิวเกาะเต่าเกาะม้าในวันหลังฝนตกจิบค็อกเทลนั่งเมาท์มอยกับเพื่อนแทนจนดึกแล้วเดินกลับลงมาอาบน้ำนอนที่ห้องพักค่ะค่าใช้จ่าย: 260 บาท (ราคาอาหารหลังหารสองกับเพื่อนสาวบวกค่าเครื่องดื่ม) พิกัดบทความที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน: Three Sixty Bar บาร์ลับบนตึกร้างกลางป่าที่ห้ามพลาดแห่งเกาะพะงันทานอาหารเช้าในห้องอาหารวิวร้อยล้านของโรงแรมริมหน้าผาติดทะเลที่รวมราคากับค่าที่พักไปแล้วเปิดให้บริการเวลา 8.00 - 11.00 น. ก่อนเช็คเอาท์เตรียมกลับ 1 ท่านเลือกได้ 1 เมนู จูเนียร์ก็เลยเลือกข้าวต้มหมูซดร้อน ๆ มาแบ่งทานกัน ส่วนมูนาก็ออเดอร์เป็นกราโนล่าโยเกิร์ตผลไม้สดแตงโมเพราะอยากแบ่งกันชิมเมนูที่ไม่ซ้ำกันปกติจะมีผลไม้สดปิดท้ายแต่ทางโรงแรมเลือกเสิร์ฟเป็นแพนเค้กกล้วยหอมสับปะรดมาเป็นของหวานชดเชยแทนค่ะส่วนเครื่องดื่มเราเลือกเป็นน้ำผลไม้ซึ่งก็เป็นมื้อที่อิ่มมากเลยค่ะ จากนั้นก็เข้าไปยกกระเป๋าคืนกุญแจห้องออกเดินทางต่อเพราะพวกเราได้จองตั๋วเรือขากลับรอบ 10.30 น. ค่ะระหว่างทางเราได้แวะ หาดโฉลกหลำ พิกัด ชายหาดทางทิศเหนือรูปครึ่งวงกลมลึกเว้าทอดยาวบนฝั่งอ่าวไทย 1 กม. เป็นท่าเรือสำหรับแวะหลบลมของชาวประมงในฤดูมรสุมมาอย่างยาวนาน เป็นอีกหาดที่เงียบสงบมีสะพานปลาสำหรับตั้งตลาดในชุมชนทุกวันอาทิตย์ หากเดินเลาะริมฝั่งก็จะเจอกับร้านอาหารทะเลสด อาหารทะเลแห้งแปรรูปแต่ที่สะดุดตามากกว่านั้นมูนาได้ไปเจอกับร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ร้าน Mr. j book Shop จำหน่ายหนังสือมือสองที่นำเข้าจากต่างประเทศทั่วโลกมีทั้งภาษาอังกฤษ สเปน จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศสและเยอรมันหลากหลายแนวส่วนตัวมูนาชอบสะสมหนังสืออยู่แล้วก็กระโจนเข้าใส่เลยสิคะแต่นึกขึ้นได้ว่าค่าใช้จ่ายในการขนส่งกลับบ้านที่กรุงเทพค่อนข้างสูงเลยดึงสติมองหานิยายโรแมนติกคลาสสิกจากอังกฤษสักเล่มเป็นของฝากติดมือกลับบ้านค่ะค่าใช้จ่าย : หนังสือหนึ่งเล่มราคา 150 บาท (แอบต่อราคาคุณยายที่เป็นแม่เจ้าของร้านท่านดีใจที่ขายได้เลยยอมลดให้น่ารักมากเลย) วัดป่าแสงธรรม พิกัด ด้านหน้าทางเข้าวัดเป็นป่าทึบมีความเขียวขจีให้ความสดชื่นร่มเย็นมีลำธารกักเก็บน้ำจืดธรรมชาติฝายชะลอน้ำที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรร่วมมือกับเทศบาลตำบลเพชรพะงันและชุมชนบ้านโฉลกหลำสร้างขึ้นมาด้วยค่ะ แวะสักการะเทวรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมหินอ่อนสีขาวปางยืนบนดอกบัวประทานพรเทน้ำทิพย์เหมาะสำหรับขอพรด้านการปกปักรักษาและความสำเร็จ ด้านในมีพระพุทธรูปองค์สีทองปางต่าง ๆ ใต้ต้นไม้อย่างสวยงามแบบมีมนต์ขลังและภายในศาลามีพระแก้วมรกตขนาดใหญ่ถึง 3 องค์สามารถเข้าไปชื่นชมความงดงามทางพุทธศาสนาในวัดลึกลับแห่งนี้กันได้นะคะ Zoo Cafe เกาะพะงัน มาปิดท้ายกันที่คาเฟ่สไตล์สวนสัตว์ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าน้ำตกแพงแวะหาขนมหวานเค้กเนยสดไอฮกรีมเพร้อมดื่มเครื่องดื่มให้ชื่นใจและเล่นกับน้อง ๆ สัตว์ที่อยู่รอบ ๆ ร้านจำพวกนกแก้ว กระต่าย เม่นแคระ เต่า นกกระจอกเทศสุดน่ารักเฟรนลี่มูนารู้สึกคุ้มค่ามากที่แวะร้านนี้เพราะมีแต่ความสุขใจ นั่งเล่นฟิลกระบรรยากาศดี ๆ พอมองนาฬิกาก็ต้องรีบลุกออกจากร้านเพราะกลัวจะตกเรือกันแล้วจ้าค่าใช้จ่าย: 160 บาท (หารค่าขนมหวานกับเพื่อนบวกค่าเครื่องดื่มของตัวเอง) พิกัดบทความที่เกี่ยวข้องโดยผู้เขียน: Zoo Cafe คาเฟ่สวนสัตว์ร้านลับบนเกาะพะงันตรงมาคืนรถที่ร้านเช่ารับเอกสารและรับเงินมัดจำเต็มจำนวน รวมค่าใช้จ่ายของมูนาตลอดทริปนี้คือ 1888 บาทค่ะ ไปเช็คอินจุดบริการผู้โดยสารเพื่อรับตั๋วลงเรือกลับสมุยได้ทันเวลาแบบพอดีเป๊ะ ทริปนี้ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าสักเท่าไหร่ค่ะเพียงแค่จองตั๋วเรือและจองโรงแรมมาให้เรียบร้อยก่อนนอกจากนั้นเป็นของขวัญจากการสุ่มหมดเลยค่า ระหว่างทางอาจมีฝนตกใส่จนตัวเปียกเครื่องสำอางลบบ้าง แดดออกจ้าจนร้อนจัดบ้าง ถนนบางจุดกำลังก่อสร้างใหม่และบางจุดมีแต่ป่าทึบหรือเปลี่ยวไปบ้างแต่พวกเราแทบไม่มีความกลัวอยู่เลยได้รับความมั่นใจจากอิสรภาพบนเกาะพะงันกลับมาทำให้พวกเราได้รู้จักและเคารพการตัดสินใจของตัวเองในแต่ละครั้งของทริปพร้อมกับเปิดใจยอมรับผลลัพธ์ให้ได้ ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของมูนาเลยค่ะ คุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านก็สามารถไปตามรอยกันได้หรือจะสร้างร่องรอยใหม่ให้ตัวคุณก็เท่ห์ไม่เบาเช่นกันค่าให้พะงันได้ปลดปล่อยตัวตนและจิตวิญญาณนักเดินทางในตัวคุณกันสิคะภาพปก/ประกอบ ผู้เขียน (Moona K)ติดต่อพูดคุยกับผู้เขียนได้ที่ Facebook Fanpage: Moona K อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !