การเพาะเลี้ยงริบบิ้นชาลีเบียงก้า คนที่กำลังมองหาไม้จิ๋วเล็กๆๆน่ารักๆไว้ประดับบริเวณระเบียงหรือสำนักงาน องคุณอยู่ เบียงก้าตอบโจทย์ได้ค่ะ มารู้จักริบบิ้นชาลีเบียงก้ากันเถอะ เป็นไม้ที่ซอบน้ำ ทนแล้งได้ดี ปักชำก็ง่าย ใบสวยมาก สีด่างขาว หรือสีชมพู เป็นไม้จิ้วนำมาเลี้ยงไว้ตามระเบียงหรือคอนโด เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากการทำงาน ความสวยงามเลี้ยงดูได้ง่ายๆ จะใส่กระถางแขวน หรือจะใส่กระถางสวยๆตั้งตามมุมต่างๆก็เหมาะ และความโดดเด่นของ นั้นจะอยู่ที่สีของใบ ริบบิ้นชาลีเบียงก้า เป็นไม้ขนาดเล็กที่เลี้ยงง่าย ในบ้านเรานั้นมีการเพาะจำหน่ายค่อนข้างเยอะ มีทั้งสีเขียวล้วน ใบด่าง หรือ สีชมพู การดูแล ไม่ยาก ทนกับความแล้ง สามารถปลูกได้ในบริเวณที่แดดแรง เรียกได้ว่าชอบให้มีแสงแดดส่องถึงทั้งวันใถ้าปลูกในร่ม ใบจะไม่แน่นเป็นพุ่ม และทำให้ดูไม่สวยวัสดุปลูก ดินผสมที่ใช้ปลูก เป็นดินปลูกทั่วไป ดังนี้ พีทมอส ก้ามปูหมักดินภูเขาไฟ ปุ๋ยละลายช้า ดินผสมการรับแสงแดด ริบบิ้นชาลีเบียงก้า ชอบแดดตอนเช้าถึงเที่ยง แสงประมาณ 70-80% ไม่ควรรับแสงแดด100%เพราะจะทำให้ริบบิ้นชาลีเบียงก้า เป็นสีเขียวหรือใบเป็นจุดๆๆได้การรดน้ำ ให้รดน้ำแค่สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งก็พอ หรือเวลาดินแห้ง ฝนตกไม่จำเป็นต้องรด รดตอนเช้าหรือตอนเย็นก็ได้ ไม่ควรโดนฝนตลอดวันเพราะจะทำให้ใบเป็นเชื้อราและรากต้นเน่าได้ ควรฉีดสเปย์พอชุ่มการใส่ปุ๋ย แนะนำใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตร 13-13-13 ปีละ2ครั้ง หรือปุ๋ยบำรุงใบ16-16-16 ไม่ควรใช้ปุ๋ยสูตรละลายเร็วเพราะจะทำให้รากใบเน่าเสียหายได้ ทำอย่างไรให้ใบฟูสวย ให้ฉีดสเปย์น้ำเฉพาะเวลากลางคืน เมื่ออากาศร้อน เพราะปากใบจะเปิดออก ควรวางริบบิ้นชาลีเบียงก้าที่ลมพัดระบายอากาศได้ดี เทคนิคการขยายพันธุ์ ริบบิ้นชาลีเบียบก้า 1.คัดเลือกกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์และใบติดด่างมานึดหน่อย2.ผสมดินปลูกกับวัสดุที่ระบายน้ำได้ดี 3.ใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตร 13-13-13รองก้นนึดหน่อย 4.รดน้ำพอชุ่มไม่แฉะเกินเดี๋ยวรากเน่าเสียหายได้5.นำกิ่งพันธู์มาปักลงไปพอหลวมๆๆ6.นำต้นริบบิ้นชาลีเบียงก้าไปวางที่แดด70-80% ระบายอากาศได้ดี 7.รดน้ำเมื่อดินแห้งการเจริญเติบโตหลังเพาะชำริบบิ้นชาลีเลียงก้า หลังเริ่มปักชำ 1อาทิตย์จะเริ่มมีราก แตกกิ่งก้านใบ ให้แสงแดดจัด และฉีดพ่นป๋ยทางใบได้เลย ภาพได้จากเจ้าของบทความค่ะเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !