เคยไหม...ที่เรารู้สึกเบื่อ ๆ อยากหนีจากความจำเจ หนีชีวิตที่วนอยู่กับวิถีชีวิตเดิม ๆ ไปที่ไหนสักที่ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ฟังเสียงคลื่นต่างเสียงแตรรถ สัมผัสไอทะเลต่างแอร์ห้าง ไปชาร์จแบตสักสองสามวันแล้วค่อยกลับมาลุยงานต่อมันก็คงจะดี ถ้าคุณคิดเหมือนกันละก็....อยากจะชวนคุณมารู้จักกับเกาะเล็ก ๆ ที่ไม่เล็กมากทางฝั่งอันดามัน นั่นก็คือ “เกาะสุกร” ที่นี่เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติมากเลยทีเดียว เพราะชาวบ้านที่นี่ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย หลายครัวเรือนทำประมงขนาดเล็ก คุณสามารถเดินเข้าไปซื้ออาหารทะเลจากอวนของพวกเขาได้เลย ปู ปลา กุ้ง หอยยังดิ้นกะแด่ว ๆ อยู่เลย หรือถ้าคุณอยากสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวประมงก็สามารถขอติดเรือไปกับบังได้ อ้อ! ที่เรียกว่าบังนี่ก็เพราะที่นี่เป็นชุมชนมุสลิมนั่นเอง แม้จะชื่อก็สุกร หรือเกาะหมู แต่ที่นี่ไม่มีหมูนะจ๊ะ อย่าเผลอไปถามหาหมูเชียวละ ฮ่า ๆ นอกจากอาหารทะเลจะสดแล้วที่นี่ยังมีขนมพื้นบ้านให้คุณได้ลิ้มลองมากมาย แต่ขอบอกก่อนว่าคุณควรตื่นเช้าหน่อย แล้วตรงดิ่งไปในโซนชุมชนใกล้มัสยิดซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียนหาดทรายทอง จะมีร้านขายอาหารเช้าจำพวกข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ ข้าวแกง ขอแนะนำอาหารเช้าอย่างหมี่น้ำแกงร้านแม่จินตนา คือเส้นหมี่สี่ขาวลวกปนกับผัดหมี่สีชมพูแล้วราดด้วยน้ำยาปลาเหมือนขนมจีน กินเคียงกับยอดมะม่วงหิมพานต์และผักสดนานาชนิดอร่อยเหาะไปเลย แล้วมาต่อด้วยขนมหวานอย่าง"ขนมตาหยาบ"แป้งสีเขียว หอมกลิ่นใบเตย สอดไส้มะพร้าวฝอยที่ผัดกับน้ำตาลทรายแดงจนได้ที่ รสชาติแป้งตัดกับความหวานของไส้มะพร้าวได้อย่างลงตัว อยากจะบอกว่ามาเกาะสุกรคุณต้องตามหาขนมตาหยาบให้ได้นะ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าพลาดมาก ส่วนอาหารคาวนี่ขอแนะนำเมนูผัดหมึกดำ อยากจะร้องโอ้โหให้ถึงดาวอังคาร มันคือที่สุดของที่สุดจริง ๆ นะคุณ หน้าตามันอาจจะดูไม่น่ากินนะเพราะมันดำปิ๊ดปี๋มากแต่ถ้าคุณได้ตักเข้าปากพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ นะ อื้อหือ...คุณเอ้ย! น้ำตาไหลเลยทีเดียว ไม่ใช่เพราะร้อนนะ หมายถึงมันอร่อยมากจริง ๆ แล้วอีกเมนูหนึ่งที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ "แกงไก่ตายาย" เหตุผลที่เรียกแกงไก่ตายายก็เพราะสมัยก่อนเคยเป็นเมนูที่ใช้เซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษ แต่ต่อมาชาวบ้านนำมาเป็นเมนูงานบุญ หรือทำในวันเฉลิมฉลองวันสำคัญในครอบครัว และนำไปเป็นเมนูประจำตำบลที่ใครชิมแล้วต้องติดใจ ด้วยการที่นำไก่มาแกงทั้งตัวปรุงด้วยเครื่องเทศเข้มข้นตามแบบอาหารแขก และเพิ่มความยากในการกินที่ต้องตัด ฉีก ทึ้งไก่นี่แหละทำให้เมนูนี้มีเสน่ห์มากจนใคร ๆ ต้องติดใจ เมื่อพูดถึงอาหารจะไม่พูดถึงผลไม้นางเอกของเกาะไม่ได้สินะ เรากำลังจะบอกคุณว่าแตงโมที่นี่เขาโด่งดังมากเลย เพราะเป็นแตงโมที่ปลูกริมชายหาดซึ่งเป็นดินทราย ทำให้ความเค็มของน้ำทะเลซึมเข้าไปในแตงโมชูรสให้ความหวานของแตงโมโดดเด่นเข้าไปอีก เมื่อแตงโมแตะถึงลิ้นจะรู้สึกเหมือนได้ดื่มน้ำผลไม้ที่เติมเกลือลงไปเล็กน้อย แถมเนื้อยังกรอบอีกต่างหาก และชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหนก็ดูเอาเถิดถึงขนาดที่ต้องออกประกาศว่าระวังแตงโมแอบอ้าง เพราะมีพ่อค้าแม่ขายหลายคนชอบอ้างว่าเป็นแตงโมเกาะสุกร รู้อย่างนี้แล้วก็แว้นมอเตอร์ไซค์ไปซื้อถึงในสวนเลยสิคุณ เจ้าของสวนแตงโมที่นี่ก็ใจดี๊ใจดี ลด แลก แจก แถม และก็หั่นแตงโมให้กินกันในสวนเลยนะ หูย! เหมือนเราจะไม่ได้มาที่นี่เพื่อใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์เท่าไหร่นะ เพราะแค่พูดถึงของกินนี่มีแต่หนัก ๆ ทั้งนั้น เรามาพูดถึงกิจกรรมสนุก ๆ กันบ้างดีกว่า ที่นี่เขานิยมขับมอเตอร์ไซค์กัน แต่ถ้าคุณขับไม่เป็นก็สามารถเช่าซาเล้งพ่วงข้างที่จอดเรียงรายตรงท่าเทียบเรือได้นะ เที่ยวรอบเกาะก็อยู่ที่ 300 บาทเอง คุณจะได้เห็นบรรยากาศและวิถีชีวิตคนในชุมชนเกาะสุกร ยิ่งได้ไปหลังเกาะตอนเย็น ๆ นะคุณมันดีมากจริง ๆ ได้ดูพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายสาดส่องสะท้อนผืนน้ำ โรแมนติกมาก ๆ เชียวล่ะ จะขอแนะนำจุดชมพระอาทิตย์ตกดินนะคือ ตรงรีสอร์ตสุกรบีชอันดามัน แหลมจีน และท่าเทียบเรือหาดทรายทอง เป็นมุมที่สวยมาก ส่วนตอนเช้าต้องยกให้แหลมจีนและท่าเทียบเรือหาดทรายทองเป็นจุดที่สวยที่สุด การมาเกาะสุกรสามารถนั่งรถจากในเมืองจะเป็นรถสองแถวประจำทางจอดอยู่หลังตลาดสดเทศบาลตรัง รถจะออกจากเมืองเวลา 11.00น. ห้ามเลทนะคุณ เพราะรถเขาออกตรงเวลามาก ๆ รถคันนี้จะพาคุณมาถึงท่าเทียบเรือตะเสะ จากนั้นก็นั่งเรือหางยาวโดยสารแค่ 15 นาที ราคา 30 บาทเพียงแค่นี้คุณก็จะพบกับโลกใหม่ที่เงียบสงบ พอที่จะทำให้คุณได้เติมพลังให้พร้อมกับการกลับไปลุยงานประจำอย่างสดใสได้ แล้วเจอกันใหม่นะ เรายังมีแหล่งชาร์จพลังรอบ ๆ เกาะสุกรจะมาแบ่งปันคุณอีก แต่คงต้องขอเป็นคราวหน้าเพราะเราหลบเจ้านายมาได้แค่นี้จริง ๆ บ๊ายบายนักอ่านที่รัก. ภาพ: Pujaa Manita