เหนื่อยแค่ไหน..เจอทะเลสวยก็ยิ้มได้ ใครว่าการมีลูกเล็กๆแล้วนั้นทำให้เราต้องหยุดเดินทางไปในที่ต่างๆ หยุดทุกอย่างมาดูแลลูก เราว่ามันไม่จริงเสมอไป..ถ้าเราพร้อม เราก็เที่ยวได้ เราก็พาไปเที่ยวพร้อมๆกันกับเราสิ มันก็สนุกไปอีกแบบ ลูกๆก็ได้เปิดประสบการณ์ทุกครั้งที่ไป..ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ เราเป็นคุณแม่ลูก 2 ซึ่งก่อนมีลูกเราก็ชอบการไปเที่ยวทะเล ชอบดำน้ำ ไปตามเกาะต่างๆ อย่างน้อยปีละครั้งต้องได้ไปดำน้ำตื้นตามที่ต่างๆ จนกระทั้งเรามีลูกคนแรก เราก็ลังเลว่าเราจะฝากลูกไว้กับยายหรือเราจะเอาไปด้วยดี แต่ในเมื่อเราเลี้ยงของเราทุกวันแล้วเวลาไปเที่ยวทำไมเราไม่เอาเขาไปด้วยละ เขาก็จะได้สนุกกับเรา นั้นคือจุดเริ่มต้นของเราเลยคะ ครอบครัวเราจึงตกลงกันว่าเราไปไหนลูกๆก็จะต้องได้ไปพร้อมกันทุกครั้ง ^^ แต่แรกๆก็เที่ยวธรรมดาไปเกาะแต่ไม่ดำน้ำนะคะ จนตอนนี้คนโต 6 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ เราคิดว่าเขา 2 คนน่าจะพร้อมดำน้ำตื้นดูปะการัง ดูปลาใต้ท้องทะเล (น้อง2คนว่ายน้ำเป็นแล้วทั้งคู่) การเดินทางครั้งนี้จึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยเราเดินทางจากภูเก็ตกันค่ะ เกาะที่เราจะไปกันในวันนี้ก็คือ "" เกาะรอก + เกาะห้า "" การนั่งเรือครั้งนี้เหมือนจะยาวนานเพราะใช้เวลาถึง 1.30 ชม.โดยประมาณแต่เด็กๆให้ความร่วมมือดีมากกกกก หลับตลอดทางเลย เรานั่งเรือมานานขนาดนี้ ทำให้อยากรู้จริงๆเลยว่า เกาะแห่งนี้จะสวยขนาดไหน เหมือนกับรูปภาพที่เราดูมาไหม อยากรู้จังเลย ^^ ทริปที่เราซื้อมานั้นประกอบด้วยการดำน้ำรอบๆเกาะรอก แล้วขึ้นไปพักรับประทานอาหารที่บนเกาะ หลังจากนั้นก็พักผ่อนประมาณอีก 2 ชั่วโมง แถมด้วยดำน้ำเกาะห้าก่อนกลับเข้าฝั่ง และแล้วความตื่นเต้นก็มาถึงเมื่อเรือเราหยุดวิ่ง เพราะถึงจุดที่เราจะดำน้ำกันจุดแรก นั้นก็คือรอบๆเกาะรอก ซึ่งที่เลือกมาเกาะรอกนั้นเพราะว่าเคยเห็นรูปแล้วว่าใต้ท้องทะเลสวยมีปลานีโม่เยอะ ปะการังยังคงเป็นสีสันสวยงาม ดังนั้นพอเรือจอด อุปกรณ์พร้อม ก็โดดสิคะ จะรออะไร 555+ เด็กๆตื่นเต้นกันมากบอกน้ำใสเห็นปลาตั้งแต่อยู่บนเรือ เราดำน้ำแบบตื้นคะ แต่ภาพใต้ท้องทะเลประทับใจมากคะ ธรรมชาติยังสมบูรณ์ ปะการังมีหลากหลายแบบ หลากหลายสี ปลามีแต่แปลกๆ ทั้งแบบที่เคยเห็นและไม่เคยเห็น มันตื่นตาตื่นใจมากเลย เด็กๆดำผุดดำว่ายชี้ปลาตัวเล็ก ตัวใหญ่ แถมเจอปลานีโม่อยู่กับดอกไม้ทะเลหลายจุดมากเลย ครั้งนี้เป็นการดำน้ำแบบตื่นเต้นกันสุดๆ หลังจากดำน้ำจุดแรกเสร็จ ก็ถึงเวลาขึ้นเกาะรอกกันแล้วคะ เราเดินขึ้นเกาะก็มีเจ้าบ้านมารอรับเต็มหาดเลยคะ มันก็คือ ปูเสฉวน เด็กๆเห็นรีบวิ่งไล่จับปูกันสนุกสนานเลยคะ กว่าแม่จะเรียกมากินข้าวเติมพลังกันได้นานเลย.. หลังจากกินข้าวเสร็จ เด็กก็พร้อมเล่นน้ำหน้าหาด เล่นทราย กันสนุกสนาน เรียกได้ว่าเล่นท้าแดดกันไปเลยคะ บนเกาะรอกมีปูเสฉวนเยอะขนาดที่ว่า เด็กๆทำขนมปังหล่นแปปเดียวปูมาช่วยกันแบกไปเลย เด็กๆขำกันใหญ่เลย เจ้าบ้านที่นี่ไม่กลัวคนเลย ออกมาตอนรับกันเต็ม แถมอยากกินขนมเหมือนเด็กๆอีกตั้งหาก เรามีเวลาอยู่บนเกาะรอก 2 ชั่วโมงแต่เหมือนเวลาผ่านไปเร็วจังแปปเดียวไกด์ก็เป่านกหวีดเรียกขึ้นเรือ เพื่อไปดำน้ำจุดที่ 2 กันแล้ว จุดที่สองก็คือเกาะห้า มีเรื่องตื่นเต้นอีกเยอะเช่นกัน เรากับเด็กๆพอเรือจอดก็โดดลงน้ำกันอย่างเร็ว ไกด์ก็น่ารักมีห่วงยางคอยบริการช่วยลากไปดำน้ำด้วย แต่ห่วงยางเนียแม่เกาะมากกว่าลูกอีก ลูกๆนะหรอ ดำผุดดำว่ายแทบไม่เกาะห่วงยางเลยปล่อยแม่เกาะอยู่คนเดียว เกาะห้ามีเจ้าบ้านเด่นๆเลยก็คือ ปลาดาวสีฟ้า ซึ่งตัวใหญ่มากเลย ใหญ่กว่าฝ่ามือเราอีก ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่เห็นปลาดาวตัวใหญ่ขนาดนี้ ปกติถ้าเราเจอในพิพิธภัณฑ์ตัวก็ประมาณฝ่ามือเอง เด็กๆต่างพากันชี้ซ้ายที ขวาที ปลาดาวเกาะบนปะการัง เสียดายที่เราไม่มีรูปใต้น้ำมาให้ดู ว่ามันงดงามขนาดไหน เกาะห้านั้นมีปลาแปลกๆเยอะว่าเกาะรอกอีก บางปลาก็ดูน่ากลัวจนน่าตกใจ ขากลับก่อนมาขึ้นเรือ เราเจอฝูงปลาสากด้วย มีปลาสากเป็น 100 ตัวว่ายผ่านเราไป มันเยอะมากขนาดที่ว่าลูกคนเล็กเห็นแล้วร้อง แม่หนูกลัวกันเลยเดียว 55+ พอเราดำน้ำกันเสร็จก็หมดเวลาถึงขึ้นเรือกลับเข้าฝั่งกันแล้วคะ ตอนนี้ฝนก็ใกล้ตกแล้วด้วย เราเหมือนนั่งเรือหนีฝนกันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นคะ ฝนตกหนักแต่กัปตันก็เก่งคะขับเรือได้ปกติเลย^^ ขากลับเด็กๆก็พลังงานหมดกันเรียบร้อย เรียกได้ว่าสลบกันเลยทีเดียว ตื่นอีกที่ก็ถึงฝั่งเลยคะ เปิดประสบการณ์การครั้งนี้เด็กทั้ง 2 คนตื่นเต้นกับมันมาก ประทับใจกับภาพใต้ท้องทะเล กลับบ้านมาเล่าให้ตายายปู่ย่าฟังกันใหญ่ ว่าไปเจออะไรกันมา สนุกสนานแค่ไหน ใครว่าไปเที่ยวตั้งแต่เล็กๆ เด็กๆก็จำอะไรไม่ได้ ไปลำบากป่าวๆ เราว่ามันก็คงไม่เสมอไป ใครจะรู้ว่าลูกเราจะจดจำได้มากแค่ไหนแต่อย่างน้อย มันก็คือประสบการณ์ใหม่ๆที่ลูกเราพบเจอ ถ้าเราไม่มอบให้เขาแล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรที่สวยงามอีกมากมาย รักลูกก็พาลูกเที่ยว เราว่าเราพร้อม ลูกก็พร้อมไปกับเรา อย่ากลัวการเริ่มต้น ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ รอยยิ้มที่ได้เห็นคุ้มค่าเสมอเพราะเวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้