เที่ยวตรังยังคุณ? เที่ยวไปทำงานไปในเมืองตรัง เมืองรอง ที่ต้องลองเที่ยว EP. 2 จาก EP ที่แล้วที่ผู้เขียนได้พาทุกท่านไปเที่ยวตรังกันพอหอมปากหอมคอ ที่ EP.2 นี้เรายังคงอยู่ที่ตรังค่ะ ทำงานเสร็จแล้วนอนพักชาร์จพลังเรียบร้อย ตื่นมาพร้อมเที่ยวและลุยงานต่อตามกระแสโครงการ Workation Paradise Throughout Thailand ค่ะ วันนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศจากสถานที่ประวัติศาสตร์และของเก่าในเมือง มาสัมผัสวิถีชุมชนและธรรมชาติกันบ้าง รับรองว่าเพลินไม่แพ้เที่ยวในเมืองเลยค่ะ เดินทางกันต่อไปที่ตำบลย่านซื่อค่ะ ที่นี่เขามีชุมชนชื่อแปลก แต่ unique อยู่ ซึ่งนั่นก็คือชุมชนปากกัดตีนถีบนั่นเองค่ะ ชุมชนนี้เขามีอีกชื่อว่าชุมชนบ้านย่านซื่อ ซึ่งเป็นไปตามชื่อตำบลนั่นเอง แล้วทำไมถึงมีอีกชื่อว่าชุมชนปากกัดตีนถีบกันนะ? เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ ที่ใช้ชื่อว่าชุมชนปากกัดตีนถีบนั่นก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านภายในชุมชนเขาผลิตนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากต้นจากค่ะ เนื่องจากในชุมชนมีต้นจากขึ้นอยู่มาก ซึ่งทุกบ้านในตำบลย่านซื่อ จะนำมาแปรรูปเป็นของใช้ด้วยการจักสานในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการตัด การเลาะ การตากอบใบจาก จนถึงเอามาสับมามัดและมวนสานเป็นของใช้ต่าง ๆ และด้วยกรรมวิธีเหล่านี้จึงทำให้ได้ชื่อว่า ปากกัดตีนถีบ นั่นเองค่ะ ที่ชุมชนปากกัดตีนถีบนั้น เป็นชุมชนที่นำต้นจากมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็น OTOP ของชุมชนมากมายหลาอย่างเลยค่ะ แต่เห็นจะเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นประเภทเครื่องจักสานต่าง ๆ โดยเฉพาะ ติหมา ค่ะ หลาย ๆ คนคงไม่เคยได้ยินและไม่เคยรู้มาก่อนว่าติหมาคืออะไร ติหมาเป็นเครื่องจักสานชนิดหนึ่งที่เป็นภูมิปัญญาแต่โบราณของชาวใต้ ใช้สำหรับตักน้ำค่ะ อาจเรียกสั้น ๆ ว่าหมาเฉย ๆ หรือหากทำมาจากใบจากก็จะเรียกว่าหมาจากค่ะ รูปทรงจะคล้ายตะกร้า แต่ไม่มีรูให้ของเหลวลอดได้ สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า ติมอ ในภาษามลายู ที่แปลว่าภาชนะสำหรับตักน้ำค่ะ แต่ปัจจุบันติหมาสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายเลยค่ะ จะทำมาใส่ดอกไม้สำหรับแขวนตกแต่งบ้านเรือนก็ได้ หรือแม้กระทั่งนำไปเป็นภาชนะใส่น้ำดื่มหรืออาหารก็ได้ค่ะ ที่ชุมชนปากกัดตีนถีบไม่ใช่มีเพียงแค่แม่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่เท่านั้นนะคะที่มาร่วมกันทำผลิตภัณฑ์จากใบจาก แต่สาว ๆ หนุ่ม ๆ ภายในชุมชนก็มาช่วยกันทำเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักสาน หรือผลิตภัณฑ์สำหรับบริโภค เช่น ลูกตาลลอยแก้ว และน้ำตาลจาก หรือแม้แต่เศษจากเล็ก ๆ ที่เหลือจากการทำติหมา ก็สามารถนำมาทำเป็นเครื่องจักสานอื่น ๆ ได้ อาทิ เสวียนหม้อ ตะกร้า เรียกได้ว่าอาชีพปากกัดตีนถีบนี้เป็นอาชีพหลักของชุมชนเลยก็ว่าได้ค่ะ ได้ลองไปทำไปซื้อ OTOP ของชุมชนแล้ว มาแวะสูดอากาศรับลมกันที่แม่น้ำตรังสักหน่อยค่ะ เพราะที่ชุมชนบ้านย่านซื่อนี้เขาเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำตรังเลยค่ะ บอกเลยว่าอากาศดีมาก ๆ มีลมผ่านตลอดเวลา ก็เลยจับจองที่นั่งเปิดโน้ตบุ๊คทำงานมันตรงนี้ซะเลย ทำงานเสร็จแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศให้ร่างกายไปเจอะเจอกับทะเลซะบ้าง ผู้เขียนพาเดินทางต่อไปที่เกาะลิบงค่ะ ที่นี่ถือว่าเป็นเกาะที่มีความสำคัญมาก ๆ ด้านระบบนิเวศน์ เพราเป็นแหล่งอนุรักษ์พะยูน แหล่งใหญ่เลยก็ว่าได้ หากโชคดีก็จะเห็นเจ้าพะยูนดำผุดดำว่ายให้เราได้ชมกันด้วยค่ะ และนอกจากจะได้พักร่างไปกับเสียงคลื่นและลมทะเลอ่อน ๆ แล้ว ที่เกาะลิบงยังมีอีกไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ค่ะ นั่นคือสะพานหินนั่นเอง ซึ่งเป็นหินขนาดใหญ่ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเป็นโพรง จนทำให้เกิดเป็นสะพานหินอย่างที่เราเห็นนั่นเองค่ะ ได้มาถ่ายรูปรับลมที่เกาะลิบงถือว่าเต็มอิ่มสุด ๆ เลยล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน แนะนำว่าลองไปดูที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/workationthailand ได้เลยค่ะ วันนี้ผู้เขียนขอจบทริปตรังไปเท่านี้ ต้องกลับไปลุยงานต่อที่กรุงเทพฯ แล้วล่ะค่ะ บ๊ายบายภาพประกอบทั้งหมด : ผู้เขียนถ่ายเอง วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !