ประสบการณ์ไข้หวัดใหญ่กับการออกกำลังกาย ใครที่ติดตามบล็อกผมก็คงจะรู้ว่าผมออกกำลังกายมาสักพักนึงแล้ว ตารางช่วงปีใหม่ผมก็ติดงานที่เป็นธุระจำเป็นแล้วทำให้ต้องพักผ่อนน้อยประกอบกับไม่ได้ออกกำลังกายเลยตั้งแต่ก่อนปีใหม่ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 ผมก็เริ่มมีอาการเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ จึงไปตรวจกับแพทย์และก็วินิจฉัยมาว่าน่าจะเป็นก็ได้รับยาแก้ไอ CPM และ ยาพารา มากินจะว่าอาการก็ไม่ได้หายหรือว่าดีขึ้นเลย ยังคงมีไข้ต่ำ ๆ อาการไอ เจ็บคอ และเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังมีอาการเจ็บหน้าอกจากอาการไอซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่เจ็บมาก ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/ ผมจึงตัดสินใจกลับไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าเพราะเราอาการไปก็ได้มีการ Test กับทางห้องแลป โดยการเก็บเชื้อที่จมูกไปตรวจ ผลก็คือแจ็คพอตครับผม ไข้หวัดใหญ่ H1 N1 ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าได้รับเชื้อมาได้อย่างไร แต่ก็ผมก็ถือว่าทำงานอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างเสี่ยง เพราะมีคนพลุกพล่าน รับเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาตรวจรักษา แน่นอนว่าผมอยู่ในฝ่ายสนับสนุนก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องไปเจอกับผู้ป่วยเหล่านี้ แต่ความเสี่ยงมันก็ยังมี จึงได้รับยาต้านเชื้อไข้หวัดใหญ่มากิน 10 เม็ด โดยแบ่งรับประทานเป็น หลังอาหารเช้าและหลังอาหารเย็น ครั้งละ 1 เม็ด อาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/ ไข้ลด ไม่มีอาการปวดหัว อาการไอ และอาการเจ็บหน้าอกยังคงอยู่ แน่นอนว่าการออกกำลังกายผมก็หยุดไปเช่นกัน จนปลายเดือน มกราคม 2563 ผมก็กลับมาวิ่งอีกครั้ง โดยที่อาการเจ็บหน้าอกนั้นยังคงมีอยู่ แต่ก็เป็นการวิ่งแบบค่อยเป็นค่อยไปและไม่ได้ทุกวัน ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/ ล่าสุด วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ผมก็กลับมาเล่นบอดี้เวท เพราะว่าอาการเจ็บหน้าอกดีขึ้นตามลำดับ แล้ววันนี้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 อาการเจ็บหน้าอกนั้นหายขาด แน่นอนว่าการออกกำลังกายของผมยังคงใช้รูปแบบเดิมมันคือ Body weight 2 วัน พัก 1 วัน คาร์ดิโอโดยการวิ่งทุกวัน โดย Body weight ผมใช้เทรนเนอร์จาก Application Keep Trainer ขอขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/ ผมเห็นกระแสไวรัสโคโรน่า ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นโรคที่ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวเชียวยิ่งเป็นโรคใหม่ยังไม่มียารักษาด้วย เพราะฉะนั้นดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ เพราะขนาดก่อนหน้านี้ผมออกกำลังกายทุกวัน ยังต้องพักนานขนาดนี้ แล้วถ้าเราเป็นคนที่ร่างกายไม่ได้แข็งแรง และไม่มีการออกกำลังกายเลย จะหนักขนาดไหนสำหรับไข้หวัดใหญ่ จริงอยู่ว่าอาการของโรคมันอาจจะคล้าย ๆ กับไข้หวัดธรรมดา แต่มันมีความหนักกว่าจะหาย แล้วผมไม่อยากคิดเลยว่า ถ้ามันเกิดกับผู้สูงอายุ หรือว่าเด็ก โรคนี้มันจะร้ายแรงขนาดไหน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรง การมองโลกในแง่ดีก็ช่วยให้วิสัยทัศน์ของคุณแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน