"สร้อยดอกหมาก"ลายไหมงาม เลื่องนามมหาสารคาม ผ้าไหม ถือเป็นผ้าที่นิยมสำหรับคนวัยทำงาน โดยเฉพาะข้าราชการครูที่ต้องใส่ชุดผ้าไทยทุก ๆ สัปดาห์ตามโครงการของโรงเรียน อีกทั้งยังเป็นชุดในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานทำบุญ เป็นต้น ผ้าไหมจึงเป็นอีกผ้าชนิดหนึ่งที่นิยมซื้อกันอย่างแพร่หลาย ผู้เขียนจึงอยากนำเสนอแฟชั่นผ้าไหมในแดนสารคามให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ ภาพจาก ผู้เขียน ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก เดิมเป็นลายผ้าไหมที่ทอยากมาก ผู้คนจึงไม่นิยมทอ จนกระทั่งทางจังหวัดมหาสารคามมีการประกวดผ้าไหมประจำจังหวัด ลายผ้าไหมสร้อยดอกหมากจึงเป็นลายผ้าไหมที่สะดุดตาและได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันในครั้งนั้น นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ลายสร้อยดอกหมาก จึงเป็นลายผ้าไหมประจำจังหวัดมหาสารคาม ทำให้ชาวจังหวัดมหาสารคามมีรายได้จากการทอลายผ้าไหมที่วิจิตรงดงามนี้ ภาพจาก ผู้เขียน ลายสร้อยดอกหมาก มีเอกลักษณ์จนกลายเป็นลายผ้าไหมประจำจังหวัด เพราะเป็นลายผ้าไหมที่ประณีต วิจิตรและมีเส้นไหมที่ระยิบระยับสะดุดตา ความละเอียดของการผลิตอยู่ที่การมัดหมี่ที่ใช้เวลานานถึง 4-5 วัน อีกทั้งความละเอียดก็ขึ้นอยู่กับจำนวนของลำหมี่ตั้งแต่ 49-73 ลำ ซึ่งลำหมี่มากลายยิ่งเล็กและละเอียดมากตามจำนวนของลำหมี่ จากการสอบถามคุณยายของผู้เขียนเอง ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจมาก นั่นคือ ผ้าไหมลายสร้อยดอกมากทอยากมาก คนที่ทอผ้าไหมลายนี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่อดทนมาก ๆ เดิมผ้าไหมลายนี้ไม่มีใครอยากทอ เพราะไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย แต่เมื่อเป็นของดีประจำจังหวัด ทำให้ราคาสูงขึ้น แต่ก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ราคาผ้าไหมผืนนี้เพียง 500 บาทเท่านั้น ตอนนี้หากนำไปขายราคาคงจะอยู่ที่หลักหมื่นเลยทีเดียว ผู้เขียนจึงถามคุณยายอีกว่า ทำไมยายไม่ขายถ้าได้เงินถึงหลักหมื่น เพราะจะได้กำไรจากการซื้อผ้าไหม คุณยายตอบว่า ไม่ขายหรอก อยากให้ผ้าไหมผืนนี้เป็นมรดกของลูกหลาน ต่อไปข้างหน้าไม่รู้ว่าจะมีผ้าไหมลายนี้อีกไหม เพราะคนทอผ้าไหมนั้นก็เหลือน้อยอยู่แล้ว คนทอผ้าไหมลายสร้อยดอกหมากยิ่งเหลือน้อยเข้าไปอีก ภาพจาก ผู้เขียน ปัจจุบันผ้าไหมลายสร้อยดอกหมากนี้ จึงเป็นแฟชั่นประจำเมืองมหาสารคามที่มีราคาแพงมาก ๆ เลยละค่ะ ใครมีไว้ในครอบครองถือว่าโชคดีมาก ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่มีผ้าไหมลายสร้อยดอกหมากมักจะนำผ้าไหมไปตัดชุดผ้าไหมเป็นชุดดีไซน์ต่าง ๆ หากเศษผ้าเหลือก็นำไปตัดหรือประดับในสิ่งของบ้าง เช่น กล่องดินสอ กระเป๋าสตางค์ เป็นต้น แหล่งจำหน่ายผ้าไหมในจังหวัดมหาสารคามจะมีทุกอำเภอ ส่วนใหญ่จะมีในOTOPของแต่ละอำเภอ ซึ่งอำเภอที่ OTOP มีชื่อเสียงในระแวกนี้คือ OTOP บ้านหนองเขื่อนช้าง ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งราคาของผ้ไหมเริ่มต้นที่หลักพันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว แต่ผ้าไหมทุกผืนเป็นผ้าทอมือจากชาวบ้านของจังหวัดมหาสารคาม หากคุณอยากมีผ้าไหมสักผืนแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกลายผ้าไหมแบบใด ไหมลายสร้อยดอกหมาก ก็เป็นอีกลายไหมหนึ่งที่น่าสนใจและสะดุดตานะคะ ถ้าผ้าไหมได้ตัดเป็นชุดไหมแล้ว คงจะมีคนมองเหลียวหลังคุณไม่น้อยเลยค่ะ