แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้งเป็นคำขวัญประจำจังหวัดน่าน... เนื่องจากในช่วงปลายปีเดือนสิบสองจะมีประเพณีแข่งเรือทุกปี ส่วนคำว่าเมืองงาช้างดำก็เป็นตำนานโบราณเล่ามาและมีหลักฐานเป็นงาช้างในพิพิธภัณฑ์ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ก็มีมายาวนานนับร้อยปี ส้มสีทองก็ปลูกกันมากในอำเภอทุ่งช้างรสชาติหวานอร่อย สุดท้ายคือองค์พระธาตุแช่แห้งเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองน่าน.. มาช้านาน... หากจะให้ผมต่อคำขวัญอีกสักวลีก็เห็นจะเป็น (เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง).. แหล่งผ้าทอตระการตา.. ซึ่งผมเชื่อว่าสุภาพสตรีสาว ๆ รวมทั้งสาวแก่แม่หม้าย และแม่บ้านแม่เรือนทั้งหลายก็คงยืนยันได้เป็นอย่างดี .. เพราะทั้งผ้าทอมือทอเครื่องของจังหวัดน่าน มีชื่อมายาวนาน นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเมืองน่าน เน้นเฉพาะสุภาพสตรี จะชอบมาดูผ้าทอและแวะซื้อติดไม้ติดมือไปคนละผืนสองผืน ไม่ให้เสียเที่ยว และไม่ให้เสียชื่อว่า มาเมืองน่าน แล้วไม่ได้ผ้าทอมีชื่อเสียงของเมืองไปใส่อวดชาวบ้าน บ้านใกล้เรือนเคียง นับว่ามาเสียเที่ยวเป็นยิ่งนัก.. ใครสืบรู้เข้าก็อาจจะอายเข้าไปอีกคำรบหนึ่ง.. ขึ้นขื่อว่าคุณนายมาเที่ยวสายเหนือแล้ว จะให้ใครมาซุบซิบนินทาว่ากล่าวเรื่องแบบนี้เห็นจะยอมไม่ได้เป็นแน่แท้... อันว่าผ้าทอที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองน่านนั้น จะมีหลากสี หลายลายให้ผู้ผ่านไปมาสุภาพสตรีสาวสวยได้แวะชมนั้นก็มีลายที่นิยม ดังนี้คือ... 1. ซิ่นคำเคิบ หมายถึงซิ่นลายทองคำที่มีลักษณะลายติดกัน นิยมใช้ทอด้วยผ้าไหม เป็นผ้าซิ่นลายโบราณ สมัยก่อนจะใช้ได้เฉพาะเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น มีชื่อลายแตกต่างกันออกไป เช่น ลายอุ้มตีนหมี ลายเกร็ดพญานาค ลายเขาวัวชน ลายขอกุญแจ ฯลฯ การตั้งชื่อลายก็เป็นไปตามความเชื่อว่าจะป้องกันอันตรายจากการเดินทางสัญจรไปมาต่าง ๆ การทอผ้าโดยทั่วไปจะทอจากล่างขึ้นบน แต่ซิ่นคำเคิบนี้จะทอลายขวาง อันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าลายนี้... 2.ผ้าลายน้ำไหล เป็นการเลียนแบบการไหลของน้ำลายน้ำน่าน อันเป็นวัฒนธรรมของเมือง ลายจะยกร่องเป็นสามมิติ มีชื่อลายต่าง ๆ เช่น ลายภูเขา ลายจรวด ลายดาวกระจาย ขอปล่อง ละอองน้ำเป็นต้น.. ต้นแบบจะเป็นสีม่วงหรือสีบานเย็น ต่อมาก็เลือกสีตามใจชอบและความนิยมของผู้ซื้อ สนนราคาหากทอด้วยผ้าไหมก็ตกผืนละ 12,000 บาท หากเป็นผ้าฝ้ายธรรมดาก็ผืนละ 2,500 บาท การทอใช้เวลาประมาณ20วันถึงหนึ่งเดือน.. 3.ลายปล้องหนานบัวผัน... หนานบัวผัน เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์เมืองน่าน คือเป็นผู้วาดภาพประวัติศาสตร์กระซิบรักบันลือโลก อันเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดน่าน จนศิลปินได้นำไปแสดงในสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ... ผ้าซิ่นลายปล้องหนานบัวผัน จะเป็นลายแบบชาวบ้านและใช้ในการสวมใส่ในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป เป็นเอกลักษณ์สาวชาวบ้านประมาณนั้น... หากให้ผูเขียนสันนิษฐานก็คงเป็นเพราะผ้าซิ่นคำเคิบ ใช้ได้เฉพาะเจ้านายชั้นสูง จึงมีชาวบ้านทอผ้าลายปล้องหนานบัวผันมาสวมใส่เพื่อไม่ให้ซำ้กับเจ้านาย... 4.ผ้าทอไทลื้อ..หรือผ้าทอสิบสองปันนา ลักษณะผ้าทอไทลื้อจะทอเป็นผืนเดียวไปตลอด หากจะนำมาสวมใส่ก็ต้องใช้การตัดครึ่งแล้วนำมาเย็บเป็นผ้าผืนสำหรับสวมใส่ ผ้าทอไทลื้อใช้้าฝ้ายปั่นเป็นเส้นแล้วย้อมสีด้วยเปลือกไม้ เช่นเปลือกมังคุดสีน้ำตาลเป็นต้น... ลายผ้าทอไทลื้อ ว่ากันว่ามีชื่อลายมาแต่โบร่ำโบราณ เช่น ลายขอโปร่ง ลายขอกุญแจ ลายขอทึบ ขอเขี้ยวหมา ลายเกร็ดงู ซึ่งเชื่อกันว่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองหากสวมใส่... ชาวไทลื้อ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ว่าอพยพมาจากเชียงรุ้งหรือดินแดนสิบสองปันนากว่า200 ปี และชาวไทลื้อสามารถทอลายผ้าแบบต่าง ๆ ท่ีกล่าวมาข้างต้นได้เช่นกัน ซึ่งเป็นความสามารถท่ียอดเยี่ยมของชาวไทลื้อนี้.... ผ้าไทยลายสวย ๆ เมื่อมาสวมใส่บนร่างกายสาว ๆ จากลายที่มองดูสวยงามอยู่ในหุ่นโชว์ เมื่อมาอยู่ในร่างกายหุ่นทรงที่สวยงามของสาว ๆ ก็ยิ่งมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น สมกับคำโบราณว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เมืองน่านนับว่ามีสิ่งสวยงามอยู่คู่จังหวัด เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมของประเทศมาเยี่ยมเยือน นอกจากเมืองน่านจะมีบรรยากาศชนบทที่สวยงามแล้ว ผ้าไทยของเมืองน่านก็มีมนต์เสน่ห์อยู่ไม่น้อย... @@@@@. ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay