อื่นๆ
กับความเหงา เราเอาอยู่ (ุ6 วิธีคลายเหงาด้วยตัวเราเอง)

"เหมือนฉันนั้นไม่มีใคร เหมือนใช้ชีวิตลำพังบนโลกใบนี้
ไม่ทุกข์และก็ไม่สุข แต่ละวันก็แค่ผ่านไป
ชีวิตยังเดินไปได้ แต่ว่ามันไม่มีความหมายใด
ไม่รู้อีกนานแค่ไหน ที่ฉันจะได้เริ่มใหม่สักที
อาจดูไม่เป็นไร แต่ความจริงข้างใน จะมีใครบ้างไหมที่จะเข้าใจ
มันช่างเหงาเหลือเกิน มันอ้างว้างเหลือเกิน..."
(เพลงเหงา ลิปตา ft. คิว-ฟลัวร์)
หากมีคนถามว่าเวลานี้เพลงไหนที่โดนใจและตรงชีวิตจริงที่สุด ก็ขอยกให้กับเพลง "เหงา" ของลิปตา ที่มีเนื้อหาพาให้คนเหงา ๆ อย่างเราฟังแล้วรู้ดำดิ่ง ยิ่งเวลากลางคืนที่เงียบสงบ ฝนตกเบา ๆ มีแค่ตัวเราในมุมเล็ก ๆ บรรยากาศเหล่านี้ก็ส่งผลให้ความเหงาเข้ามาทำงานในหัวใจคนโสดสนิทศิษย์ส่ายหน้าหนักมากอย่างเรามีอันต้องน้ำตาตกในไหลย้อนเข้าสู่สี่ห้องหัวใจ เป็นความเจ็บนี้ที่ไม่มีเสียงใด ๆ นอกจาก..เหงา เหงาอะ เหงานะ เหงาจัง เหงาจริง เหงาโว้ย! (ถ้าย่อหน้านี้จะดูเวิ่นเว้อไปบ้างก็ขออภัย เพราะขณะที่เขียนบทความนี้ ผู้เขียนกำลังโดนความเหงาเข้าจู่โจม แต่กำลังต่อสู้กับมันด้วยการเขียนบทความนี้)
Advertisement
Advertisement
ภาพจาก https://www.pexels.com/th-th/photo/247314
ความเหงาเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ที่มีหัวใจทุกคน ไม่ว่าจะคนรวยหรือคนจน คนโสดหรือคนมีแฟน คนมีเพื่อนมากหรือมีเพื่อนน้อย ไม่ว่าตอนนี้จะอยู่คนเดียวอย่างสันโดษหรืออยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ทุกคนมีสิทธิเหงาได้ ไม่มีใครเกิดมาไม่เคยพบเจอความเหงา หากเราแบ่งความเหงาออกเป็นทฤษฎีต่าง ๆ จากหลาย ๆ แขนงนั้น ผู้เขียนขอแบ่งเป็น 3 แขนง
Grae Dickason จาก Pixabay" />ภาพโดย Grae Dickason จาก Pixabay
1. ความเหงาทาง "จิตวิทยา" ก็คือเป็นความรู้สึกส่วนเกินที่เกิดจากสถานะทางความรู้สึกและอารมณ์ของบุคคลที่มีระดับความไม่พึงพอใจต่อความสัมพันธ์ทางสังคม ทำให้เกิดการแยกตัวจากสังคม และภาวะความเหงา (loneliness) ที่เกิดจากการขาดรูปแบบของความสัมพันธ์ ได้แก่ ความรู้สึกปลอดภัยในการเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสังคม (Attachments) การมีเครือข่ายความสัมพันธ์ในสังคม ทั้งจากครอบครัวหรือเพื่อน (Social Integration) ความรู้สึกรับผิดชอบต่อการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคม (Opportunity for Nurturance) การได้รับการยอมรับในทักษะหรือความสามารถของบุคคล (Reassurance of Worth) การได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นในสังคม (Reliable Alliance) การได้รับคำแนะนำปรึกษาจากบุคคลอื่นในสังคม (Guidance)
(อ้างอิงจากนิยามความเหงาทางจิตวิทยาโดย "Robert Weiss")
Advertisement
Advertisement
2. ความเหงาทาง "วิทยาศาสตร์" เกิดจากฮอร์โมน "cortisol" เป็นฮอร์โมนในสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์หดหู่ที่ผลิตขึ้นจากต่อมหมวกไต หากเรากำลังรู้สึกเหงา เครียด กดดัน แสดงว่าเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาทำงานอย่างหนัก
ภาพโดย Dimitris Vetsikas จาก Pixabay
3. ความเหงาทาง "ธรรมมะ" เป็นความปรุงแต่งของจิตและการคิดไปเอง เปรียบได้กับความหดหู่และความฟุ้งซ่าน ซึ่งมาจากสาเหตุหลักคือขาดความรู้สึกตระหนักในคุณค่าของตนเอง
การยอมรับว่าตัวเองกำลัง "เหงา" ไม่ใช่เรื่องผิดและน่าอายเลยสักนิด และคนขี้เหงาก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะอ่อนแอเสมอไป มนุษย์เราแสดงออกทางความเหงาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
1. บอกออกไปตรง ๆ ว่า "ฉันเหงาจังเลย" "โคตรเหงาเลยว่ะ" อาจสื่อสารผ่านทางการโพสต์สเตตัสบนเฟสบุค หรือแสดงออกทางโซเชียล หรือเขียนระบายลงในไดอารี่/บล็อกก็ได้
Advertisement
Advertisement
2. บึ้งตึง ขึงขัง ก้าวร้าว หงุดหงิดพาลใส่คนอื่น
3. เก็บตัว ปลีกวิเวก แยกตัวจากสังคม
4. สร้างภาพว่าตัวเองมีความสุข สนุกสนาน ทำงานเยอะ ไม่มีเวลาจะเหงาหรอก แต่ในส่วนลึกหัวใจนั้น "เหงามาก"
5. มีอารมณ์ขัน สรรสร้างมุขตลก พยายามเป็นตัวโจ๊กของเพื่อน ๆ เพื่อให้ตัวเองลืมความเหงา
6. ซึมเศร้า เหงาหงอย ปล่อยตัว คิดแต่ว่าตัวเองต่ำต้อย ด้อยค่า ไม่มีใครมารักหรือสนใจ
7. ติดเหล้า บุหรี่ เที่ยวกลางคืน เพื่อปลดปล่อยอารมณ์เหงา โดยเป็นบ่อเกิดแห่งการทำร้ายตนเองและคนรอบข้าง
8. มีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น ส่งเสียงดัง ฟังเพลงดัง ๆ แต่งตัวแปลก ๆ เรียกร้องความสนใจ
ภาพโดย Iván Tamás จาก Pixabay
หากเราทำความรู้จักกับเพื่อนที่ชื่อว่า "ความเหงา" เรียนรู้ถึงที่มาสาเหตุของเพื่อนคนนี้ และพบเจอมันเข้ามาทักทายในชีวิตเราบ่อย ๆ เราคงต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อออกห่างจากเพื่อนคนนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี แต่ถ้าอยู่กับเรานาน ๆ มันจะพาลดึงชีวิตเราให้จมดิ่งสู่ความมืดมนอย่างคนที่ไม่เห็นค่าในตัวเอง ดังนั้นผู้เขียนจึงรวบรวมวิธีการเอาชนะความเหงา และประสบการณ์การต่อสู้กับความเหงาด้วยตนเอง เพื่อแบ่งปันและเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังเผชิญหน้ากับเจ้าอารมณ์เหงานี้
ภาพโดย Виктория Бородинова จาก Pixabay
ภาพโดย PublicDomainPictures จาก Pixabay
1. หากิจกรรมหรืองานอดิเรกทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เต้น เล่นเกม เล่นกีฬา ทำงานบ้าน วาดรูป ถ่ายรูป ท่องเที่ยว เขียนไดอารี่ เขียนบล็อก เขียนบทความแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ (เป็นวิธีที่ทำให้ผู้เขียนคลายเหงาได้ดีเลยแหละ ตอนแรกก็เหงา ๆ เขียนไปเขียนมา เอ้า..โบกมือลาความเหงาเลยละกัน รีบ ๆ ไปซะละ บ๊ายบายนะเจ้าความเหงา)
ภาพโดย Bansi Patel จาก Pixabay
2. หาคนพูดคุยด้วยแล้วสบายใจ สามารถระบายความอัดอั้นตันใจได้ อย่าเก็บทุกสิ่งไว้คนเดียว เชื่อว่าต้องมีสักคนที่เขายินดีที่จะรับฟัง และอาจจะก่อเกิดกำลังใจดี ๆ แต่ถ้าหากเราไม่พูด เก็บทุกอย่างไว้ ก็คงไม่มีใครสามารถล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิดเราได้ อย่ากลัวว่าเขาจะมองว่าเราอ่อนแอหรือน่ารำคาญ จำไว้ว่าทุกคนเกิดมาต้องเคยพบเจอกับเพื่อนที่ชื่อว่า "ความเหงา"
ภาพโดย Kristin Baldeschwiler จาก Pixabay
3. การทำงานอาสาสมัคร ทำค่าย การอุทิศตนทำความดีหรือช่วยเหลือผู้อื่น จะช่วยยกระดับทางอารมณ์ของคุณให้ดีขึ้น นอกจากนี้มันยังเป็นการสร้างเครือข่ายที่จะทำให้คุณได้รู้จักกับคนดี ๆ ที่อาจมีชีวิตหรือแนวคิดเดียวกัน ทำให้คุณได้เปิดโลกใหม่และมีเพื่อนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ความเหงาที่คุณต้องเผชิญลดน้อยลง
ภาพโดย naturepost จาก Pixabay
4. เข้าทางธรรม ด้วยการเข้าวัด ทำบุญ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังเทศนา ระลึกสติให้อยู่กับตัวเอง
ภาพโดย Sven Lachmann จาก Pixabay
5.หาสัตว์เลี้ยงที่เราชอบมาเลี้ยง สัตว์เลี้ยงเป็นเสมือนเพื่อนไม่ก็เหมือนลูกเราที่เราต้องคอยดูแล ให้อาหาร คอยเล่นกับเขา ให้ความรักเขา เขาเองก็จะให้ความรักแก่เรา ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ (นุดยังมีเราอยู่ข้าง ๆ นะ)
ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay
6. พยายามนึกถึงเรื่องราวดี ๆ ที่ทำให้เรายิ้มได้และมีความสุข คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่เราได้เคยทำไว้ หาความภาคภูมิใจในตนเองให้เจอบอกกับตัวเองเสมอว่า "เราจะทำให้ตัวเองมีคุณค่า" และบอกรักตัวเองในทุก ๆ วัน "เรารักตัวเรานะ ใครไม่รัก ใครไม่แคร์ แต่เราแคร์ความรู้สึกเรานะ"
ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
7. หากทำทุกหนทางก็ไม่อาจหยุดยั้งเจ้าความเหงานี้ได้ ก็ลองอยู่คนเดียวในความเงียบ คิดทบทวนตัวเอง รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งไปกับความเหงาแบบสุด ๆ เมื่อมันเหงาจนถึงที่สุด พอถึงเวลาความรู้สึกนี้มันก็จะหยุดและหายไปเอง และถ้าเราควบคุมความเหงาในใจตนเองได้ด้วยตัวเองนั้น เท่ากับว่าเราได้สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่หัวใจเรามากขึ้น หากความเหงามาเยือนในครั้งหน้า เราก็จะรู้ท่าไม้ตายที่จะใช้สยบเจ้าความเหงานี้ได้
ภาพจากเฟซบุ๊ก TrueID In-Trend
ทิ้งทวนชวนไม่เหงา: ถ้าเมื่อไหร่ที่คนเรานึกอยากทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยทำ แล้วคิดว่ามันดีต่อตัวเราเองและคนอื่น ๆ ได้ท้าทายตัวเองด้วยการลงมือทำตั้งแต่วันนี้ตอนนี้ นั่นเป็น “การเริ่มต้นยุติความเหงา” เป็นจุดเริ่มต้นของความมีชีวิตชีวา เพิ่มคุณค่าให้แก่ตัวเอง อย่างที่ผู้เขียนได้เริ่มยุติความเหงา และสร้างตัวเราให้มีคุณค่าด้วยการ "เป็นนักเขียนออนไลน์ แบ่งปันบทความดี ๆ และเรื่องราวที่น่าสนใจแก่ผู้อ่าน" ซึ่งตอนนี้ทาง TrueID In-Trend กำลังตามหานักเขียน (ปั้นมือใหม่ให้เป็นมือโปร) แล้วคุณละ..จะเริ่มยุติความเหงาด้วยวิธีไหนดีเอ่ย?
ความคิดเห็น







ภาพโดย
ภาพโดย