อื่นๆ
การปล่อยวาง เรื่องที่ยากแต่ฝึกทำได้

สวัสดีค่ะ วันนี้พบกับหัวข้อที่น่าสนใจ น่าเรียนรู้ และมีประโยชน์สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันได้ค่ะ สิ่งที่เราคัดสรรมาเพื่อคุณ เปิดใจอ่านจนจบนะคะ... การปล่อยวาง เรื่องที่ยากแต่ฝึกทำได้
การปล่อยวางเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนสามารถฝึกทำได้ เมื่อมีเรื่องมากระทบจิตใจ ไม่ว่าเรื่องจะหนักหนาขนาดไหน แต่เราทุกคนยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เราต้องผ่านไปให้ได้ ความรู้สึก สิ่งเร้าหรือปัจจัยที่มากระทบเราต่างๆ บางเรื่องเราควบคุมให้มันไม่เกิดขึ้นไม่ได้ สิ่งแวดล้อมภายนอก ยากที่จะควบคุม ดังนั้นเราต้องพยายามควบคุมจิตใจตนเอง นั่นคือ การมีสติ เมื่อสติหลุด อารมณ์กระเจิง ก็ต้องดึงสติตนเองกลับมามีสติและสงบ
การสงบจะช่วยให้ดีขึ้น และการนอนก็ช่วยได้มาก เมื่อถึงเวลาตอนกลางคืน เราเหนื่อยล้าจากกิจกรรมที่ทำทางร่างกายและเหนื่อยล้าจากความคิดในด้านจิตใจ ...การนอนหลับช่วยได้มาก เพราะเมื่อร่างกายนอนพักเต็มที่ ได้พักอย่างสงบ เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา เหมือนเริ่มเช้าวันใหม่ เป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เริ่มต้นเรื่องราวใหม่ๆ เหมือนกับสมุดที่เราเขียน พอเราหยุดเขียนก็ปิดสมุด แล้วพอต้องการจะเขียนก็กลับมาเปิด จับปากกาแล้วเริ่มเขียนในหน้ากระดาษใหม่ นี่คือเรื่องราวจากชีวิตจริงของความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนต่างขีดเขียนกันในทุกวัน ...เริ่มต้นด้วยตนเองและจบด้วยตนเอง หมุนเวียนไปตามเวลา
Advertisement
Advertisement
สิ่งที่มากระทบจิตใจ เกิดขึ้นได้ทุกวัน ดังนั้นเมื่อมีสิ่งที่มากระทบจิตใจ ถ้าเราเก็บไว้ทุกเรื่อง หรือเก็บไว้เยอะๆ ก็คงอึดอัดใจ และคงเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่ต้องแบกรับไว้ แต่ถ้าเราค่อยๆ เรียนรู้วิธีจัดการด้วยตนเอง จัดการอาการที่ตนเองเป็น ค่อยๆ สังเกตตนเองว่ามีอาการอย่างไรเมื่อมีสิ่งมากระทบจิตใจ เช่น อาจจะรู้สึกโกรธ พูดจาเสียงดัง น้อยใจ เสียใจ ร้องไห้ คือ อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เราต้องดูตนเองอย่างมีสติ รู้เนื้อรู้ตัว แล้วค่อยๆ จัดการ ด้วยการปล่อยวาง เมื่อมีเรื่องมา บางเรื่องไม่สำคัญก็ปล่อยผ่านไป พยายามปล่อยผ่านเรื่องที่ไม่จำเป็นกับชีวิต ตัดคน ตัดเรื่องราวที่ไม่ควรค่าแก่การคิดออก เป็นการฝึก เมื่อเริ่มฝึกทำได้ จะค่อยๆ เข้มแข็ง มีความแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถทำได้
...ในช่วงเวลาอ่อนแอ เกิดขึ้นได้เป็นปกติ แต่ทำอย่างไรเราจะกลับมาเข้มแข็งได้นั้น มีเราเท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจตนเอง เรื่องบางเรื่องเราไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับเรา และทำไมต้องเกิด โดยบางครั้งเราอาจจะพยายามหาเหตุผล หรือหาคำตอบมาสนับสนุนความคิดของเราอย่างเป็นเหตุเป็นผล แต่เมื่อครุ่นคิด ก็กลับไม่ได้คำตอบที่ควรจะเป็น เพราะบางเรื่องก็แทบหาเหตุผลไม่ได้ บางอย่างเรื่องจะเกิด มันก็ต้องเกิด ...เมื่อเกิดแล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป...
Advertisement
Advertisement
ในชีวิตนี้ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกคนต่างเจอเรื่องราวที่ต่างกัน จากเด็กเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะสูงขึ้น ทุกคนต่างต้องผ่านเรื่องราวกันมามากมาย ทั้งที่ทุกข์และสุขสลับกันไป เมื่อเราเกิดมามีชีวิตแล้ว เราควรมีชีวิตอยู่ต่ออย่างมีคุณค่า ปฏิบัติตัวให้ควรค่าแก่การมีชีวิต คนทุกคนมีคุณค่า เมื่อเจอเรื่องที่ท้อใจ เรื่องที่เศร้าใจ ให้รู้จักให้กำลังใจตนเอง ระบายเรื่องที่ไม่สบายใจออกไป ถ้าเราปล่อยวางได้ก็ถือว่าเป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิตตนเองได้ นั่นคือ ความพอดีของชีวิต ซึ่งแต่ละคนมีความพอดี มีนิยาม ที่ไม่เหมือนกัน จุดที่เราพอดีของเรา อาจจะไม่เท่ากับคนอื่น แต่เมื่อเรารู้จักและเข้าใจกับความพอดีของตนเอง เราก็จะสามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข เมื่อเรื่องใดมากระทบจิตใจ เราก็จะผ่านไปได้...
การปล่อยวาง คือ การสละเรื่องราวออกไป ถึงแม้เราอาจจะไม่เข้าใจแต่ก็ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเราเอง หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าจะเริ่มปล่อยวางได้อย่างไร เราจึงขอแนะนำ 5 วิธี ในการฝึกการปล่อยวาง ได้แก่
Advertisement
Advertisement
1.ตัดคนที่ไม่จำเป็นออกไป
คนที่ไม่ดีกับชีวิตของเรา เมื่อเราพิจารณาแล้วว่า คบหาแล้วไม่ดีก็ควรหยุดและปล่อยให้เขามีชีวิตของเขา ส่วนเรามีชีวิตของเรา ต่างคนต่างดำเนินชีวิตในแบบของตนเอง ...คนทุกคนมีชีวิตเป็นของตนเอง มีชีวิตที่แตกต่างกันไป ตามความชื่นชอบ ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ตัดคนที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต แล้วจะรู้ว่าชีวิตเราก็ดีนะ ถ้าไม่มีเขา เราอยู่ได้ และมีความสุขได้ในแบบของเรา ...พึงระลึกว่า คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คตินี้เราเคยได้ยินกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว แต่ก็ยังเป็นคติที่สอนใจ และนำมาปรับใช้ได้จนถึงปัจจุบัน
2.อย่าใส่ใจในทุกเรื่อง
ข้อนี้บางครั้งก็ทำยาก บางครั้งก็ทำได้ง่าย การใส่ใจนั้นเราควรพิจารณาดูว่า เรื่องใดควรใส่ใจ เรื่องใดควรปล่อยไป ชีวิตของเรา เราคือผู้กำหนด ถ้าเราปล่อยได้ใจเราก็จะเบา ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์กับตนเอง เวลามีค่า ควรพิจารณาสิ่งที่ควรใส่ใจแล้วดีกับชีวิตเรา ดีกว่าสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์และทำให้เราต้องเป็นทุกข์
3.จัดการกับอารมณ์ของตนเองให้ได้
คือ ไม่ว่าเราจะรู้สึกโกรธ มีอารมณ์ไม่พอใจ มีอารมณ์ที่ไม่ดีขนาดไหน เราอาจจะเป็นสักพักหนึ่ง แต่เมื่อดึงสติได้ เราควรกลับมา มีอารมณ์ที่ปกติเหมือนเดิม ทำตัวให้ธรรมดา เข้าสู่สภาวะการวางเฉย และสงบจิตใจให้ได้ ดำเนินชีวิตต่อไป อย่างเป็นปกติ ...อารมณ์เป็นแรงขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิต ถ้าเรามีอารมณ์ที่ดี มีอารมณ์ที่เป็นปกติ จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข
4.มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
คือทุกคนควรมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจตนเอง เช่น บางคนอาจจะยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือ เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจ ก็นึกถึงพระรัตนตรัย นึกถึงความดีงาม หรือในบางคนอาจจะคุยกับเพื่อนสนิท คือ หาคนคุยระบายให้ผ่อนคลาย มีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจ ไว้คอยปรึกษา ช่วยให้เราได้ตั้งสติ ให้กำลังใจและรับฟังเราได้ ช่วยให้เราสบายใจขึ้น ...นั่นคือ ทุกคนควรรู้ใจตนเองว่า เมื่อมีสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจมากระทบ เราจะใช้สิ่งใดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ให้เลือกวิธีจัดการกับตนเอง
5.มีกิจกรรมที่ทำแล้วผ่อนคลายความเครียด
ไปทำในกิจกรรมที่ชอบ แล้วทำให้ลืมๆ ปล่อยวางเรื่องที่ไม่สบายใจไปได้ เพราะไปโฟกัสกับสิ่งที่ชื่นชอบแล้ว เช่น การฟังเพลงก็ช่วยให้สมองได้ผ่อนคลาย การเล่นกีฬาก็ช่วยให้ได้ปลดปล่อยพลัง ปลดปล่อยอารมณ์ พลังงานที่ไม่ดีออกไปได้ หรือในบางคนอาจจะชอบการเล่นเกมส์ ได้สนุกกับการต่อสู้ แก้ปัญหาต่างๆ ได้เพลิดเพลินทำให้ผ่อนคลายได้ ...ซึ่งในแต่ละคนจะมีกิจกรรมที่ชอบต่างกัน มีวิธีการผ่อนคลายความเครียดที่ต่างกัน ก็ให้เลือกทำที่เหมาะกับตนเอง
จากประสบการณ์ผู้เขียน
สิ่งที่ทำ: มีงานอดิเรกทำ เช่น ประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นต้น ...ไปออกกำลังกาย เช่น เดินและปั่นจักรยาน เป็นต้น หลังตื่นนอนนั่งสมาธิ 15 นาที ยามว่างก็ทำสมาธิในหลายๆ อิริยาบถ
ผลที่ได้: จิตใจสงบ เบาสบาย ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่คิดอะไรที่ไม่ดี เพราะมีกิจกรรมทำอยู่เรื่อยๆ ...สุขภาพกาย สุขภาพจิตดี มีความสุข และยิ้มได้ในทุกวัน
จาก 5 ข้อ ที่ได้แนะนำไป ให้ลองนำไปปรับใช้และปฏิบัติกันนะคะ ทุกคนมีชีวิตเป็นของตนเอง ดังนั้นเราคือ คนที่ควรจัดการตนเอง เราคือคนที่อยู่กับตัวเองตลอดเวลา และรู้จักตนเองดีที่สุด ดังนั้นการฝึกเรื่องการปล่อยวางแม้จะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนสามารถฝึกทำได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านสิ่งต่างๆ ไปได้ และมีความสุขในทุกวัน พบความพอดีที่ดีต่อใจตนเอง มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงค่ะ ด้วยความปรารถนาดีและความห่วงใยจากใจค่ะ หัวข้อนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ กดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดการเรียนรู้ในหัวข้อถัดไปด้วยกัน ขอบคุณค่ะ
เครดิต
- เครดิตเว็บแต่งภาพ: canva.com
- เครดิตภาพ:
- ภาพปก: keiblack/Pixabay.com
- ภาพที่ 1: ภาพของผู้เขียน
- ภาพที่ 2: _badun/Pixabay.com
- ภาพที่ 3: Mylene2401/Pixabay.com
- ภาพที่ 4: ภาพของผู้เขียน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจของผู้เขียน อยากแนะนำให้ลองอ่านนะคะ...
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น
