อื่นๆ

การผจญภัยของแซมซั่น และการตามหาหมาหาย !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
การผจญภัยของแซมซั่น และการตามหาหมาหาย !

ภาค 1 การผจญภัยของแซม

สวัสดีครับ ผมชื่อ “แซมซั่น” แต่นายแม่ หลวงพ่อ และคนอื่น ๆ เรียกผมสั้น ๆ ว่า “แซม”ผมเป็นหมาพิทบูลตัวผู้ อาศัยอยู่วัดแห่งหนึ่งติดภูเขา ที่วัดเรายังมีหมาสาวแสนสวยชื่อ “ซีซาร์” เราเป็นพิทบูลเหมือนกัน และทั้งป่านี้มีเพียงเราสองตัวเท่านั้นที่ครอบครองพื้นที่ มีนายแม่ หลวงพ่อ  คุณพ่อ พ่อใหญ่ และชาวบ้านเป็นทาสของผม

การผจญภัยของแซมซั่น

หลวงพ่อของผมมักจะมีมนุษย์แปลกหน้า ขี่ไอ้ตัวประหลาดมาหารูปร่างใหญ่โต มีขาสี่ขา วิ่งเร็ว และครางเสียงดัง เวลามนุษย์นั่งมันมาถึงมันชอบร้องเสียงดัง “แป๊น ๆ ปิ๊น ๆ” ทำให้ผมและซีซาร์สะดุ้งบ่อย ๆ แต่มันใจดี ผมไปฉี่ใส่ขามันมันก็ไม่เคยบ่นไม่เคยว่ามีแต่นั่งหลับ รอจนมนุษย์มานั่งนั่นหล่ะ มันถึงจะโวยวายเสียงดังแล้ววิ่งหายไป ผมก็อาศัยจังหวะที่หลวงพ่อคุยกับมนุษย์แปลกหน้าพวกนั้น แว้บหายไปเล่นบนเขา  วันไหนคนน้อยหลวงพ่อก็อาจจะตะโกนเรียกผมเร็วหน่อย แต่ถ้าวันไหนหลวงพ่อยุ่ง ๆ กว่าจะนึกได้ ผมก็มานั่งรอให้หลวงพ่อเรียกชื่อแล้ว 

Advertisement

Advertisement

การผจญภัยของแซมซัน และการตามหาหมาหาย

ทุกเช้าหลวงพ่อจะปล่อยผมให้ไปวิ่งเล่น  พิทบูลอย่างผมมีเหรอจะวิ่งเล่นแค่ในวัด ระดับผมมันต้องวิ่งขึ้นเขา ยิ่งไกลมันยิ่งใช่ วันไหนโชคดี อาจจะมีกระรอกหน้าโง่ลงมาที่พื้นให้ไล่กัดเล่น และวันนี้หลวงพ่อมีคนมาหาแต่เช้า (ผมได้ยินไอ้ยักษ์สี่ขามาแต่เช้า) หลวงพ่อก็เลยปล่อยผมวิ่งสบายฉ่ำ วัดเราอยู่ใกล้ภูเขาจึงมักมีเรื่องมาให้ผจญภัยได้เสมอ ๆ อย่างคราวก่อนก็มีไอ้หางยาวมันมาป้วนเปี้ยนชูคอท้าต่อยกับผมอยู่หน้าวัด ยังไม่ทันได้วัดดวงกัน หลวงพ่อก็มาเจอก่อน เลยลากผมกลับเข้าวัดไปขังเอาไว้  ผมได้ยินหลวงพ่อคุยกับนายแม่ว่า “ไอ้แซมเกือบโดนจงอางล่อให้แล้ว ดีนะไหวตัวทัน พามันหนีไปได้ก่อน ไม่งั้นแย่เลย”

ผมหล่ะงงใจ ก็แค่ไอ้หางยาวขี้โมโหมันมาหาเรื่องผมถึงหน้าศาลา แล้วทำไมหลวงพ่อต้องมาขังผมไว้ก็ไม่รู้  เฮ่อ! แต่ก็นั่นแหล่ะครับท่านผู้ชม โอกาสจะได้สะสางความแค้นกับไอ้หางยาวที่ชื่อจงอางอะไรนั่นก็มาถึง เมื่อผมได้กลิ่นมันอยู่แถวตีนเขา  และแม่ซีซาร์ตัวสวยก็กลับไปแล้ว จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ลุยกันให้เต็มที่

Advertisement

Advertisement

การผจญภัยของแซมซัน และการตามหาหมาหาย

ผมตามกลิ่นไอ้หางยาวไปเรื่อย ๆ  นอกจากไอ้หางยาว ก็ยังมีรอยตีนหมาจอก ซึ่งมันเป็นหมาป่าตัวเล็ก ๆ ไอ้พวกนี้ชอบลงมาขโมยของของชาวบ้านตอนกลางคืน (ชาวบ้านเล่านะผมไม่เคยเห็นหรอก ค่ำลงทีไรหลวงพ่อก็บังคับผมเข้าคอกนอนแล้ว) ผมดมกลิ่นไอ้หางยาวไป สลับกับกลิ่นหมาจอกสาว ๆ ผมเดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ เผอิญมีนกบินผ่านมา ผมเลยผละจากการล่าไอ้หางยาวไปล่านกแทน จากล่านก ก็ยังมีหนูตัวเล็ก ๆ วิ่งหลบลงซอกหิน ผมวิ่งตามหนูตัวเล็กนั้นลงไปตามซอกหินบนไหล่เขา ช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง ชาวบ้านเผาป่าซะเหี้ยน การวิ่งไล่ล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกนี้ จึงสบายผมมากครับ   ผมไล่ล่าสัตว์น้อย ๆ ในภูเขาอย่างสนุกสนาน จนลืมมื้อเช้าไปนานพอสมควร รู้ตัวอีกทีผมก็ยืนงงในดงไผ่  ตายหล่ะ!! ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมฉี่ใส่ต้นไม้ต้นไหนไว้ เพราะมันดันเหมือนกันไปหมดทุกต้น พระเจ้าสร้างภูเขา สร้างแซม ทำไมไม่ให้แซมมีจมูกที่ดีกว่านี้ โธ่ !

Advertisement

Advertisement

ผมเดินขึ้น ๆ ลง ๆ ตามโขดหินไปเรื่อย ๆ เพื่อหาทางกลับบ้าน และที่สำคัญไปกว่านั้น ผมหิวน้ำ น้ำ ๆ ๆ ๆ อากาศก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แหล่งน้ำก็ช่างหายากเย็น ผมเดินไปตามลำห้วยเก่า ๆ  เผื่อมีแหล่งน้ำให้พอได้เลียกินแก้หิวบ้าง แต่ไม่มีเลย ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ทะลุมาถึงพื้นราบที่มีป่าอ้อยที่คุ้นเคย แต่เอ๊ะ ! แล้ววัดของผมมันอยู่ที่ไหน แม่ซีซาร์คนงามที่เคยเห่าทักทายก็พลอยหายไปด้วย โอว!! หลวงพ่อ ผมหลงทาง!! แต่เดี๋ยวก่อน ผมได้ยินคนคุยกัน มนุษย์ตัวเมียนั่งอยู่ในบ้านเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “เถียงนา” มีถังใบเล็กจุน้ำไว้ข้างใน ผมเดินไปหาเธอ ตัวเมียมองผมแปลก ๆ คงทึ่งในความหล่อของผมสินะ แต่ผมไม่สนมนุษย์ตัวเมียอยู่แล้ว ผมแค่อยากกินสิ่งที่อยู่ข้างในถังใบนั้นแต่มันปิดอยู่ ผมเลยเอาขาหน้าพยายามเขี่ยมันออกไป ตัวเมียใจดีก็เลยเปิดฝาเทน้ำออกมาให้ผมกินพอแก้เหนื่อย 

กินน้ำเสร็จแล้ว ผมก็เดินเข้า ๆ ออก ๆ ในป่าอ้อย เผื่อจะเจอวัดของผม วันนี้ทั้งวันนอกจากน้ำของตัวเมียแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรตกถึงท้อง ผมเหนื่อย หิว และคิดถึงบ้าน ผมเดินวนจนฟ้าเริ่มมืด ไม่มีใครเรียกให้เข้าคอกเหมือนเคย ผมคิดถึงผ้าห่มที่เคยฉี่ใส่ ถึงจะมีกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มเหม็น ๆ ของพ่อ ก็คงดีกว่าการนอนอยู่บนพื้นหญ้าแห้ง ๆ แบบนี้  ผมเดินวน ๆ หาทางกลับบ้าน ดมกลิ่นก็แล้ว ไม่มีสักกลิ่นที่ผมคุ้นเคย และแล้วฟ้ามืดฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก คราวนี้ผมทั้งหนาว ทั้งเปียก เถียงนาหลังเล็ก ๆ ก็ไม่สามารถที่จะให้ความอบอุ่นอะไรได้เลย ผมเป็นหมาซวย 2013 ที่แท้จริง ! ผมคิดถึงหลวงพ่อ คิดถึงยายกอง อ้ายทัพ อ้ายกั้ง นายแม่ พ่อ และพ่อใหญ่ เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน ผมพยายามเอาหน้าหล่อ ๆ ของผมไปทักทายคนแถวนั้น แต่เหมือนเขาไม่อยากคุยกับผม ทุกคนพยายามหลบ บางคนดูไม่เป็นมิตร ทั้งที่ผมก็เป็นมิตรกับผู้คน ยกเว้นพวกหมา ๆ ด้วยกันแค่นั้นเอง สุดท้ายผมเลยต้องหลบเข้าไปอยู่ในซอกหลืบของป่าอ้อย นอนเหงาเอาจมูกย่น ๆ วางบนขาหน้าอันอวบใหญ่ของผม หวังว่าหลวงพ่อ หรือใครสักคนมาเรียกผมกลับบ้านสักที  

การผจญภัยของแซมซัน และการตามหาหมาหาย

คืนหลังฝนตกแบบนี้ ทั้งหนาวทั้งแฉะ ผมยังนอนเหงาอยู่ในป่าอ้อยอันไกลโพ้นที่เดิม อึ่งอ่างตัวอวบอ้วนเดินผ่านหน้าผมไป พร้อมด้วยยิ้มเยาะเย้ยหมาหลงอย่างผม และกรรมก็ตามทันอึ่งอ่างจอมเยาะเย้ย เมื่อมนุษย์ที่มีไฟอยู่บนหัวมาจับมันใส่ถังเอาไป  เดาได้เลยว่ามันคงไม่แคล้วเป็นอึ่งย่าง หรืออึ่งต้มในเมนูอาหารพรุ่งนี้แน่ ๆ ผมนอนหมอบดูอึ่งอ่างโดนจับตัวแล้วตัวเล่า จนเริ่มง่วง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ของหลวงพ่อ “แซม ๆ” ผมหูตั้ง เอียงคอเงี่ยหูฟังอีกรอบ แล้วก็ได้ยินเสียงครางของไอ้ดำสัตว์เลี้ยงแสนรักของพ่อใหญ่วิ่งผ่านหน้าผมไป ไอ้ดำต้องพาพ่อใหญ่ กับหลวงพ่อมาหาผมแน่ ๆ นาทีนี้ ผมไม่กลัวถูกตีแล้ว ถึงหลวงพ่อจะตีผม ๆ ก็ยอม ผมกระดิกหางพร้อมกับหมอบแกมวิ่งไปข้าง ๆ ไอ้ดำ เพื่อทักทายหลวงพ่อและพ่อใหญ่  แต่กลับได้ยินเสียงหลวงพ่อตะโกนและหัวเราะว่า “เจอไอ้แซมแล้ว เจอแล้ว ไอ้แซมจริง ๆ ไปไหนมา คิดถึงจังเลย”  แสงไฟจากตาไอ้ดำทำให้ผมเห็นหลวงพ่อของผม ยืนอยู่ตรงถนนที่ไม่ห่างจากผมมากนัก และผมก็เข้าใจคำว่า “พระมาโปรด” ในวันนี้เองหล่ะครับ ด้วยความดีใจทำให้ผมลืมตัวไปหน่อย วิ่งไปกอดหลวงพ่อทั้ง ๆ ที่ตัวเปื้อนโคลน ใจจริงอยากเลียหน้าหลวงพ่อให้หายคิดถึงเหมือนกัน แต่ผมสูงไม่พอ หลวงพ่อก็ไม่ดุ ไม่ตีผมอย่างที่คิด แต่กลับกอดและลูบหัวให้ตั้งหลายที กอดหลวงพ่อจนหายคิดถึงแล้ว ผมก็วิ่งไปให้รางวัลอ้ายกั้ง 1 กอด และนอนท่าตายให้อ้ายกั้งเกาท้องและเกาคอ 1 รอบ ก่อนที่ทุกคนจะพาผมไปนั่งในเบาะนิ่ม ๆ ของไอ้ดำที่พ่อใหญ่เป็นคนนั่งมากลับบ้าน

การผจญภัยของแซมซัน และการตามหาหมาหาย

กลับถึงบ้าน มีมนุษยผู้ชายอีกหลายคนมารอรับ  วันนี้ผมตั้งใจจะเป็นเด็กดีเข้าคอกโดยที่ไม่ให้หลวงพ่อต้องบอก แต่หลวงพ่อกลับใจดีอนุญาตให้ผมกินข้าวชามเบ้อเริ่ม ก่อนที่จะให้เข้าคอกไปนอน คืนนี้เป็นคืนที่ผมจะได้นอนหลับฝันดี  ผมเข้าคอกไปแล้ว ยังได้ยินเสียงหลวงพ่อคุยโทรศัพท์กับนายแม่และพ่อ เรื่องว่าเจอผมที่ไหน ยังไง และได้ยินเสียงคนคุยกันและหัวเราะอยู่ข้างนอกอยู่นานจนผมหลับไป

ภาค 2   สารพัดวิธีสุดพิศดารในการตามหมาหาย

แกะรอยแบบนายพราน

เราแกะรอยแซมบนภูเขา พบรอยเท้า มูลสัตว์ และรอยโคลนตามกิ่งไม้ ประเมินได้ว่าแซมเดินเลาะร่องน้ำ ตามแนวห้วยน้ำไปเรื่อย ๆ คาดว่าเมื่อหลงทาง แซมจะวิ่งหาแหล่งน้ำ แต่ยิ่งหายิ่งเข้าป่าลึกไปเรื่อย ๆ จนหลงไปอีกฝั่งของภูเขา หลายคนช่วยกันไปค้นหาฝั่งตรงข้ามของภูเขา แต่ไม่พบ เนื่องจากพื้นที่บริเวณกว้างเกินไป บวกกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวทั้งวัน และวันถัดมาฝนตก ทำให้การแกะรอยลำบาก จนสุดท้ายต้องหยุดการค้นหา และหาวิธีการใหม่ต่อไป

สำหรับคนที่น้องหมาหายไป อาจจะเริ่มจากแกะรอยว่าเขาชอบไปไหน  หรือเป็นช่วงผสมพันธุ์ น้องหมาตัวผู้อาจจะไปติดหมาสาวแถว ๆ นั้น สังเกตุจากเสียงหมากัดกันก็ได้  กรณีแซม เราพยายามฟังว่าได้ยินเสียงหมากัดกันที่ไหนหรือไม่ แต่ไม่ปรากฎ จึงประเมินในทิศทางที่ว่าหมาอาจจะหลงทาง

นอกจากนั้น ยังมีคนประเมินว่าหมาเราอาจจะถูกขโมย เพื่อไปเลี้ยงเป็นพ่อพันธุ์ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้กรณีที่น้องหมาอยู่ในเมือง หรือพื้นที่ที่คนภายนอกสามารถเดินทางเข้าออกได้สะดวก ส่วนกรณีของเราเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นพื้นที่ปิดคนเข้าออกลำบาก

แซม

โซเชียลผู้ครองโลก

เราโหลดภาพแซมลงในเฟซบุ๊ก พร้อมกับใส่รายละเอียดลงในภาพ ได้แก่ หมาพันธุ์อะไร สีอะไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร หายจากบ้านตั้งแต่วันไหน หายอยู่แถวไหน ตลอดจนหมายเลขโทรศัพท์ เผื่อใครเจอ หรือสามารถแจ้งเบาะแสได้จะได้โทรมาบอก รวมทั้งยังให้รางวัลสำหรับคนที่นำมาส่งหรือให้เบาะแสด้วย นอกจากนั้น เรายังได้แท็กทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ที่คิดว่าแซมจะเดินไปถึง ทั้งในหมู่บ้านละแวกนั้น จนถึงคนในอำเภอ เผื่อเพื่อนหรือญาติของคนที่แท็กจะเห็นแซม และขอความร่วมมือเพจต่าง ๆ ที่ช่วยติดตามหมาหาย กลุ่มคนรักพิทบูล จนกระทั่งเวลาประมาณ 1 ทุ่มมีคนโทรมาแจ้งว่า เห็นหมาหน้าย่น ๆ สีน้ำตาล ปลอกคอเหล็กเดินแถวป่าอ้อย เมื่อสอบถามว่ารู้ได้ยังไง เขาก็บอกว่ามีเพื่อนซึ่งเป็นคนหมู่บ้านที่หมาหาย ทักมาถามว่าเห็นหรือเปล่า ก็เลยโทรมาเผื่อจะใช่ ยังไงก็ให้ไปหาดูนะ และเราก็เจอแซมจริง ๆ

สำหรับคนที่หมาหาย และต้องการติดตามในโซเชียล ควรระบุข้อมูลของสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจน เช่น เพศ สี พันธุ์ อายุ ลักษณะนิสัย หายออกจากบ้านช่วงเวลาใด ของวันที่เท่าไหร่ รวมทั้งหายอยู่บริเวณไหน ควรโพสต์ภาพสัตว์เลี้ยงของคุณในหลากหลายอิริยาบถ พยายามเลือกเอารูปชัด ๆ  ควรให้ข้อมูลติดต่อกลับ จะเป็นเบอร์โทรหรือไลน์ก็ได้ แต่ต้องติดต่อง่าย  เบอร์โทรควรอยู่ในภาพของสัตว์เลี้ยงที่เราโพสต์ทุกภาพ เผื่อคนกดดู รูปที่สองสามสี่ รายละเอียดและเบอร์โทรจะหายไป  

การแท็กหาคนที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มคนที่น่าจะพอสืบต่อได้ ถ้ารู้ว่าน้องหมาเราหายอยู่แถบไหน ช่วงไหน ก็อาจจะแท็กหาคนที่อยู่แถบนั้น ถึงเขาไม่เห็นแต่เพื่อนเขาอาจจะเห็น

ไสยศาสตร์ก็มี

  • บ้างก็ว่า จุดธูป 9 ดอก บนด้วยไข่ 9 ฟองแล้วจะเจอ
  • บ้างก็ว่า ให้เรียกชื่อใน “หม้อนึ่ง”
  • บ้างก็ว่า ให้เอาดอกไม้ 1 คู่ เทียน 1 คู่ คำข้าว 1 คำ หมาก พลู บุหรี่ อย่างละ 1 คำ ใส่กระติ๊บข้าวแล้วเรียกชื่อสัตว์ที่หายไป  
  • บ้างก็ว่า ให้ขึ้นธูป 9 ดอก 5 ดอก ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้เปิดทางให้เจอกับสิ่งที่เราหา
  • บอกสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่มีอยู่ให้ช่วยตามหา (คราวนี้ให้ซีซาร์ไปตาม น้องก็ไปตามค่ะ แต่ไม่เจอ)

ทุกเคล็ดวิชาไสยศาสตร์เราทำทุกอย่างที่ทุกคนบอกมา และเราก็ได้เจอแซมในที่สุด    ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเหนือธรรมชาติหรือจะวิทยาศาสตร์ก็ตาม แต่เราก็ได้พบว่าพลังแห่งความรัก และความปราถนาดีระหว่างเพื่อนร่วมโลกที่มีให้ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ล้วนแต่เป็นพลังที่งดงาม อบอุ่นและทรงพลัง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแชร์ และช่วยประสานงานจนพาแซมกลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุข

​แซม

เรื่องและภาพโดย : ผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์