อื่นๆ

กาลครั้งนั้น... "อกหัก" เคยเกิดขึ้นจริง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
กาลครั้งนั้น... "อกหัก" เคยเกิดขึ้นจริง

          ไหนใครไม่เคยอกหักบ้าง? อ่ะ! งั้นคุณออกจากหน้าเพจนี้ได้เลย… หยอกๆ นะ แหะๆ ไม่เชื่อหรอกว่าไม่เคยอกหัก อย่างน้อยคุณต้องเคยแอบรัก แอบชอบใครคนหนึ่ง ตอนนั้นคุณคงไม่มีความกล้าพอที่จะบอกว่าชอบเธอสินะ สุดท้ายเธอคนนั้นก็ไปมีคู่หูคู่ใจ ใช่! ใครคนนั้นไม่ใช่คุณ โอ้ น่าเศร้านะ ทั้งที่คุณแอบชอบอย่างดีมาตั้งนานแท้ๆ เอาหละ นึกถึงตอนนั้น คุณคงเฟลนิดๆ หรือถึงขั้นตั้งตัวไม่ทันกันเลยใช่ไหม คุณจัดการอารมณ์ตอนนั้นยังไง? 

          ไม่เป็นไร ถ้าใครนึกไม่ออก หรือเพิ่งอกหักมาหมาดๆ แผลยังสด บีโจนส์มีวิธีมาให้ลองทำดูนะ บีโจนส์เคยทำมันด้วยตัวเองแล้ว เห็นผลชะงัดนักแล

          วิธีที่ 1 : ปล่อย...ให้เป็นเรื่องของเวลา

นาฬิกาข้อมือกลางสวนหน้าบ้าน          เห็นชื่อย่อของมันแล้ว บีโจนส์ไม่ได้หมายถึงให้คุณปล่อยตัว ปล่อยใจไม่ต้องทำอะไร นั่งเศร้าเหงาหงอยจมปรัก นอนเป็นผักแบบนั้นนะ แนะนำว่าไหนๆ เราก็มีเวลาอยู่กับตัวเองมากกว่าก่อนหน้านี้ ลองปล่อยวางให้สมองได้คิดทบทวนตัวเองดู หามุมเงียบๆ ฟังเสียงหัวใจเต้น เสียงธรรมชาติรอบตัวที่เราไม่เคยได้นั่งฟังมันจริงจังเลยสักครั้ง ทบทวนดูว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรลงไปบ้าง… เราเคยทำสิ่งดีๆ มาเยอะไม่ใช่หรอ ไม่เอาหน่า... มีบ้างหละที่เราอาจจะเคยทำอะไรไม่ดีจนไม่น่าให้อภัย ก็ใช่ว่าตอนนี้คุณจำเป็นจะต้องเก็บมานึกถึงให้มันเสียกำลังใจในการใช้ชีวิต ถ้าพรุ่งนี้โลกจะแตก คุณคงอยากเก็บความทรงจำดีๆ ไว้มากกว่าเลือกเก็บเรื่องแย่ๆ สินะ… เอาหนะ! ปล่อยไปให้เวลาช่วยเยียวยาหัวใจคุณบ้าง

Advertisement

Advertisement


          วิธีที่ 2 : งดจับมือถือ โน้ตบุ๊ก หรืองดการท่องโซเชียล

โน้ตบุ๊กตัวโปรดกลางสวนหน้าบ้าน         ปฏิเสธไม่ได้หละสิ ทุกวันนี้อุปกรณ์สี่เหลี่ยมเหล่านี้ มักเป็นตัวเลือกแรกที่เรามักจะหยิบจับยามเมื่อเราตื่นนอนในทุกเช้า เชื่อเถอะ แตะมันให้น้อยลงในช่วงระยะนี้ การไม่รับรู้ ไม่เห็นอะไร จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด ฟุ้งซ่าน ลองเปลี่ยนเป็นหาหนังสือที่เคยคิดจะอ่าน แต่ก็ยังอ่านไม่จบสักทีมาอ่านซะ หรือทำงานฝีมือ งานศิลป์ งานอดิเรกที่ตอนเด็กๆ เราเคยอินกับมัน ลองเอากลับมาทำอีกครั้งดูสิ สนุกไปอีกแบบนะ  ไม่ว่าจะโตแค่ไหน คนเราก็มักจะมีมุมเด็กในตัวตนข้างในของตัวเองเสมอแหละ


วิธีที่ 3 : ท้าทายตัวเองในสิ่งที่ไม่เคยทำ

ออกเดินทางลัดฟ้าไปกับไทยไลอ้อนแอร์         ตอนที่บีโจนส์อกหัก หรือมีเรื่องไม่สบายใจหนักมาก เรามักจะอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ใช่ไหม ร้อนรนไปหมด สิ่งที่เลือกทำคือ ตัดสินใจเองเลยว่า “คิดอยากจะไปไหนก็ออกไปซะเดี๋ยวนั้น” (แนะนำว่าต้องมีสติด้วยนะ ถ้าดื่มมาไม่ควรขับรถเอง หรือเป็นผู้หญิงคุณต้องระวังตัวมากๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะไว้ใจได้ เกิดอะไรขึ้นมากับชีวิตคุณมันไม่คุ้ม อย่าลืมว่ามีคนข้างหลัง คนในครอบครัวรอคุณอยู่)
         ครั้งหนึ่งเคยนึกอยากไปทะเล สถานที่ยอดฮิตของคนอกหักสินะ… บีโจนส์เป็นคนกลัวความสูงโคตรๆ เหวลึก หน้าผาสูงชัน เมื่อได้เห็นทีไรขาเป็นอันสั่น ใจหล่นตุ๊บไปกองที่พื้น ก็นะ ตั้งใจมาแล้วนี่ ไปให้สุด! ที่ตัดสินใจมาที่นี่ก็เพื่อมาเล่นโดดร่ม “Paragliding” ใช่! คนบ้าอะไรวะ กลัวความสูงแทบตาย สุดท้ายมาโดดร่มจากหน้าผาเนี่ยนะ… บางครั้งต้องขอบคุณความกล้าบ้าบิ่นของตัวเองนะ พอได้ทำจริงๆ แล้ว กลับมานึกขึ้นได้ว่า นี่เรามัวไปทำอะไรมาตั้งนานวะเนี่ย พลาดความสนุก พลาดธรรมชาติสวยงามขนาดนี้ไปได้ยังไง เพราะงั้นอย่ามัวจมปรักกับโลกสีเทานั่น กระโดดออกมาซะ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น ความน่ากลัวอาจไม่ได้น่ากลัวจริงอย่างที่เราคิดก็ได้นะ

Advertisement

Advertisement


วิธีที่ 4 : อย่าย้ำคิดถึงเรื่องในอดีต

ท้องฟ้าก็สวยของมันอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยเหมือนเดิมสักวัน         มีบ้างหลังจากการจดจ่อกับอะไรที่มีความสุขไปสักพัก พอกลับไปเห็นที่เดิม มุมเก่าที่เคยอยู่ด้วยกัน ความทรงจำระหว่างเราถาโถมกลับมาจากทุกทาง ไม่เป็นไรๆ ลองคิดงี้สิ ได้ฤกษ์จัดบ้านใหม่ จัดห้องใหม่แล้ว! ลองจับสิ่งของปรับทิศ เปลี่ยนที่วาง แต่งห้องสไตล์ใหม่ เราก็จะได้มุมมองใหม่เข้ามาด้วย สักวันหนึ่งตัวคุณจะยิ้มได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังคงเห็นเธอในทุกความทรงจำ ไม่ต้องไปคิดหาคำตอบว่าเมื่อไหร่หนอมันจะจบสักที บางเรื่องมันก็ยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ อย่าไปย้ำ ไปรื้อฟื้นให้เจ็บเลย


วิธีที่ 5 : มองหาข้อดีของบทเรียนครั้งนี้

ยอดอ่อนใบไม้แตกออกจากต้น แสดงถึงการเติบโตใหม่อีกครั้ง         ไง… ก่อนหน้านี้เอาแต่ใส่ใจเขา จนลืมดูแลตัวเองเลยดิ ปล่อยตัวเองโทรมเป็นซอมบี้เชียว สุขภาพก็ย่ำแย่นะเราอะ ก็ดีนะที่วันนั้นเธอทิ้งเราไป หรือเราทั้งคู่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลง วันนี้เราเลยได้มีเวลาดูแลตัวเองบ้าง ได้กินของอร่อยสุดโปรดที่ตอนนั้นเธอบอกไม่ชอบเราเลยเลือกไม่กินทั้งที่ชอบมาก ได้ออกกำลังกายเพิ่มสักนิดเพราะเวลามันเหลือ ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ อยากดื่มก็ดื่ม ไม่ต้องมีคนมาคอยคุม หรือต้องคอยบอกคอยแจ้งตลอดเวลา ได้กลับมาเป็นตัวเราเองอีกครั้ง มันก็มีข้อดีของมันอยู่นะ คุณคิดแบบนั้นไหม?

Advertisement

Advertisement


วิธีที่ 6 : ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบ ปล่อยไปเนิบๆ

หอยทากในร่องพื้นกลางสวนหน้าบ้าน         รู้นะว่าหลายคนอยากออกจากจุดที่แสนทรมานนี้ให้ได้แล้ว ไม่อยากให้มันมาคอยหลอกหลอนเป็นฝันร้ายในทุกค่ำคืน

         ชู้วววว… ใจเย็นก่อนนะคุณ นั่นคือ “ความจริง” ที่เกิดขึ้น จงน้อมรับมันไว้ให้ได้ แล้วเดินหน้าต่อไป ให้เวลามันหน่อย ก็ตอนที่รัก คุณใช้ความรู้สึก ใช้หัวใจ ไม่ได้ใช้สมองหนิ ถูกไหม? ถ้ามันง่ายนัก ทุกคนคงจะไร้ความรู้สึกและไม่ได้เรียนรู้อะไรจากจุดต่ำสุดแสนเศร้าตรงนี้ ปล่อยมันไปเนิบๆ อยู่นิ่งๆ นานๆ พรุ่งนี้ก็ยังไม่สายที่เราจะเข้มแข็งขึ้น (ขอยืมเนื้อเพลงของคุณน้า “วงนั่งเล่น” หน่อยนะครับ หลายครั้งที่เพลงของวงนี้จะเข้ามาในชีวิตบีโจนส์ จนตอนนี้เปิดฟังบ่อยกว่าวงในดวงใจอีก แนะนำว่าคุณลองไปเปิดฟังได้นะ อาจหลงมนต์เสน่ห์แห่งเสียงเพลงแบบไม่รู้ตัว บอกไว้ก่อนว่าบีโจนส์ไม่ใช่หน้าม้าแค่ชอบเสพดนตรีเฉยๆ)

         เคยได้ยินประโยคนี้ไหม “หลายคนมักจะโฟกัสกับจุดหมายปลายทาง มากกว่าเรื่องราวระหว่างทาง” ทั้งที่… ความสุขของปลายทางจะอยู่กับเราเพียงชั่วครูเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับความสุขของเรื่องราวระหว่างทางที่เราพบเจอมา


วิธีที่ 7 : ระบายความในใจออกมาทั้งหมด

แมงปอกลางสวนหน้าบ้าน         มา!!! วิธีสุดท้ายแล้วที่ต้องมีตัวช่วยเข้ามาจริงๆ นั่นคือเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่เราวางใจ ไปขนมาให้หมดครับ มีอะไรก็พูดเลย อยากร้องไห้ก็ร้องให้มันสุดๆ ไปเลย ระบายมันออกมาให้หมด อย่าเก็บไว้คนเดียว ถึงจุดนึงพอได้ระบายออกมาอาการจะดีขึ้นเอง สักวันคุณจะกลับมามองตัวเองในวันหนึ่ง แล้วพูดกับตัวเองว่า “กูเคยเป็นบ้าขนาดนี้เลยหรอวะ” แล้วก็ขำตัวเองในสภาพที่ดูไม่ได้เลยในตอนนั้น

         อ่อ หรือถ้าคุณไม่ไหวแล้วจริงๆ บีโจนส์แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์นะ อ่ะ!!! อย่าพึ่งทำหน้างั้นสิ การเข้าพบจิตแพทย์ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นบ้าหรือคนวิกลจริตเว้ย มันคือเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็ควรเข้าถึงได้ หยุดมองโลกตามมุมมองเก่าคร่ำครึ ที่การพบจิตแพทย์ = เป็นคนบ้า พอกันทีกับความคิดแบบนี้ 

         ยกตัวอย่างเหตุการณ์ของบีโจนส์ ครั้งหนึ่งเคยอกหักจากคนที่รักที่สุด เท่าที่คนๆ หนึ่งจะรักใครสักคนได้ ตอนนั้นเสียศูนย์มาก คิดอะไรไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ออก รู้แค่ว่าเสียใจแทบทรุด จนกระทั่งทรุดจริงๆ อาการเครียดมันสะสมในจิตโดยที่เราไม่รู้ตัว ทำให้ร่างกายสั่งการไปเองโดยอัตโนมัติ ทั้งปวดหัวแทบระเบิด ชักเกร็ง มีการอ้วกด้วย มองโลกในแง่ร้ายๆ คิดจะจบชีวิตตัวเองก็มี ดีนะที่ยังมีครอบครัวคอยดูแลข้างๆ จึงได้เข้าแอดมิทโรงพยาบาล คุณหมอดูแลดีมาก เชื่อบีโจนส์เถอะว่าอย่าปล่อยให้อาการเป็นหนักขนาดนั้นเลย ทรมานไม่สนุกหรอก อย่างน้อยลองเข้าไปพบจิตบ์แพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านคุณก็ได้ ถ้าคุณไม่กล้าที่จะพูดปัญหานี้กับใคร แบบนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหลายคนที่ถึงทางตันแล้ว ลองดูก่อนนะ แล้วจะรู้ว่า เราสบายใจขึ้นมากเลยหละพอได้ระบายมันออกมา


จบแล้ว!!! บีโจนส์รู้นะว่ามันแย่แค่ไหนในช่วงเวลาที่เรา “อกหัก” ทุกคนต้องเคยผ่านมันมา ไม่มีใครที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบไปตลอด ถ้าคุณคิดว่าคุณโดดเดี่ยว บนโลกนี้มีคนอีกหลายล้านคนที่โดดเดี่ยวเป็นเพื่อนกันกับคุณ อย่างน้อยก็ผมแหละคนนึง ยิ้มๆนะ รักตัวเองให้มาก แล้ววันหนึ่งต้องได้พบกัน กับคนที่คุณรอคอย...

สายรุ้งที่บังเอิญเจอหลังฝนตกหนัก


Photo Credit :  The B.Jones

Instagram : Khun_Kwamsook.ii

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์