▶️คลิป : เพราะคำว่า อายุไม่สำคัญ เก่งพอ ก็แก่พอ เปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล กษิดิศ กาฬสินธุ์

#หิ้วสตั๊ดล่าฝัน

เพราะคำว่า อายุไม่สำคัญ ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ ที่มีส่วนเปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาลครับ กษิดิส กาฬสินธุ์ นักฟุตบอลอาชีพ ครับ

ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ ในการไล่ล่าความฝันของคุณ ที่คำๆนี้ ที่เด็กหนุ่ม อย่างเจ้าปั๊บ กษิดิศ กาฬสินธุ์ วัย ย่างก้าว 17 ปี รายนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้วครับว่า เขาก็สามารถไล่ล่าความสำเร็จในเวทีไทยลีก ได้ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำ แต่นั้นมันไม่ได้ง่ายกับเบื้องหลังของความสำเร็จที่ทุกคนเห็น ที่ เจ้า ปั๊บ ต้องแสดงศักยภาพพัฒนาตัวเองอยู่ตบอดเวลาเพื่อมายืนหยัด ในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ ให้ได้อย่างมั่นคงที่สุดครับ
.
เจ้าปั๊บ กษิดิศ กาฬสินธุ์ เด็กหนุ่มชาวจังหวัด จันทบุรี ที่เติบโต ฟูมฟักจากกีฬาฟุตบอลครับ ที่ฝึกปรือฝีเท้าเหมือนเด็กๆทั่วไป แต่ที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ คือ ความหลงไหลและคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลอย่างเหลือล้นของตัว เจ้าปั๊บ ครับ ที่มีความฝันอัรแรงกล้า ว่า เมื่อเติบโต ขึ้น จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ มีเงินเดือน เลี้ยงตนเองและครอบครัว
.
ให้อยู่อย่างสุขสบายให้ได้ ครับ ทำให้ในทุกวันหลังจากเรียนเสร็จ เจ้าปั๊บ จะหิ้วรองเท้าคู่ใจออกเดินทางฝึกซ้อมฟุตบอลที่สนามของโรงเรียนหรือบริเวณรอบบ้านครับ ที่ฝึกปรือฝีเท้าอยู่นานนับปี จนอายุย่างก้าวเข้า 11 ขวบ ในตอนนั้น ประจวบเหมาะกับ การปูทางสู่ก้างแรกในฟุตบอลอาชีพ ก็ส่งตรงถึง ชีวิตของ เจ้า ปั๊บ เด็กน้อยวัย 11 ปี
.
แบบไม่ทันตั้งตัวครับ ที่ในเวลานั้น สโมสร ระดับ ตำนาน ของไทยลีก อย่าง ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ได้เปิดคัดตัวเฟ้นหา ลูกฉลามเข้าสู่ศูนย์ฝึก เพื่อเตรียมตัวสู่นักฟุตบอลอาชีพครับ ทำให้ เจ้าปั๊บ เมื่อทราบข่าว ก็ไม่รอช้าครับ รีบบอกคุณ พ่อ ด้วยสายตาแห่งความแน่วแน่และมั่นคงว่าจะต้องไปประลองฝีเท้าที่ เมืองชล ให้ได้ครับ
.
ทำให้เพียงเวลาไม่นาน เจ้าปั๊บ หยิบรองเท้าคู่ใจ ดิ่งตรงตั้งพิกัดสู่สนามคัดตัวไปที่จังหวัดชลบุรี ทันที ครับ เพื่อสานต่อเจตจำนงที่ตั้งใจเอาไว้ ที่เจ้าปั๊บ ได้ลงแสดงความสามารถในเชิงกีฬาฟุตอลที่บ่มเพาะมาช้านาน ได้แสดงมาสู่สายตา ทีมงานโค้ช ของ ชลบุรี อย่างหมดตัวครับ จึงส่งผลให้ชื่อ ของเจ้าปั๊บผ่านในแต่ละด่านสุดหิน ปะทะ กับนักฟุตบอลที่มาคัดตัวจากทั่วประเทศเพื่อชิงโควต้าที่นั่งอันน้อยนิดจากเด็กนับพัน
.
กลับกลายเหลือ หลัก 10 ที่หนึ่งในนั้นชื่อ ของ เจ้าปั๊บ กษิดิศ กาฬสินธุ์ ได้ถูกประกาศขึ้นได้เข้าสู่เป็นนักฟุตบอลเยาวชนของ สโมสร ชลบุรี เอฟซี อย่างเต็มตัวตั้งแต่อายุได้เพียง 11 ปี เท่านั้นครับ ที่ทำให้ ชีวิตของ เจ้าปั๊บ ในตอนนั้นสวยงามขึ้นมาทันทีครับ ที่ได้เข้าไกล้คำว่า นักฟุตบอลอาชีพเข้าไปทุกนาที ครับ ที่เมื่อ เจ้าปั๊บ ตบเท้าเข้าสู่แคมป์ ฉลามชล และ ได้ย้ายที่เรียน มาศึกษาต่อที่ โรงเรียนท่าข้าม พิทยาคม ในชั้น ม.1 ครับ
.
นั้นจึลเป็นจุด ที่เจ้าปั๊บจะต้องเผชิญในการใช้ชีวิตอยู่ภายใต้คำว่า ‘’ระเบียบวินัย และ ความรับผิดชอบ’’ ครับ ที่จะต้องบริหารทั้งการเรีนนและการเตะฟุตบอลให้ควบคู่กันไปให้ได้ครับ ที่เจ้าปั๊บได้เจอสังคมในการอยู่หอ ที่อยู่ในชายคาเดียวกับ นักฟุตบอลเก่งๆมากมายในทุกรุ่น รวมไปถึงชุดใหญ่ครับ ทำให้ เจ้าปั๊บ ได้ซึมซับศาสตร์ลูกหนังอันมีค่าไปแบบเต็มๆครับ ที่เจ้าปั๊บจะต้องพัฒนาตัวเองในทุกวัน แข่งกับตัวเองว่า
.
ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด ห้ามร้องให้ จนจิตใจแห่งความมุ่งมั่นและความสู้วิตมาทดแทนจิตใจแห่งความกลัวและความท้อแท้จนหมดสิ้นครับ ที่เพียงเวลานั้นเจ้าปั๊บ พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด จนขึ้นมาเป็นตัวหลักในทุกชุดของ อะคาเดมี่ ฉลามชล ครับ ที่ เจ้าปั๊บ เล่นได้ทุกตำแหน่ง ในการแข่งขันฟุตบอลไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่ง กองหลัง กองกลาง แบ็คขวา ครับ เรียกง่ายๆว่า ขอแค่โค้ชสั่งมาให้ตรงไหน
.
เจ้าปั๊บ ก็สามารถเล่นตำแหน่งนั้นได้เป็นอย่างดีครับ จนแบกอายุเล่นข้ามรุ่นมาโดยตลอด ตั้งแต่ อายุได้ 16 ปี ก็ข้ามรุ่นไปเล่น 18 ปี จนสร้างบุ๊กเซอร์ไพรส์ ให้ฉลามชล ที่มีส่วนสำคัญ พาโรงเรียนท่าข้าม พิทยาคม คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลกรมพลศึกษา
.
ชิงถ้วยพระราชทาน ก. รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีได้อีกด้วย ทั้งที่มีอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น ครับ นั้นจึงเป็นการตอบแทนความเชื่อมั่นในตัวของโรงเรียนและ สโมสร ที่ เจ้าปั๊บ แสดงให้เห็น ครับ กระทั่ง ความสุดยอดของ เจ้าปั๊บ จะสร้างชื่อเสียงและ สร้างประวัติศาสตร์ในหอเกียรติยศของตัวเขา ที่ว่า
.
เจ้าปั๊บ”ยังถือเป็นผลผลิตของโครงการ“ฟ็อกซ์ ฮันท์”รุ่นที่ 5 ของ คิง เพาเวอร์ คัพ ในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เมื่อปี ตอนต้นปี 2563 โดยเป็น 1 ใน 33 คนที่ได้ไปฝึกทักษะฟุตบอลที่แคมป์กิเลนวัลเลย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และมีโอกาสที่จะส่งไปทดสอบฝีเท้าที่ ประเทศ อังกฤษกับทีมเลสเตอร์ ซิตี้หากไม่ติดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ครับ
.
จนกระทั่งเวที ในระดับ ชาติก็เปิดขึ้นทันที ที่เจ้าปั๊บ ได้มีโอกาสรับใช้ชาติ เป็นเยาวชนทีมชาติไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ครับ ได้เข้าร่วมการแข่งขันศึกฟุตบอล ยู-16 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก เมื่อปี 2019 ที่ประเทศเมียนมา ครับ จนกลายเป็นขวัญใจของผองเพื่อนในทัพช้างศึกรวมไปถึงเป็นตัวหลัก ทั้งในโรงเรียนจนไปถึงทีมชาติไทยในชุดเยาวชนครับ
.
ที่ในเวลาต่อมา ฟอร์มการเล่นของ เจ้าปั๊บ จะผลิออกดอกผลอย่างเห็นได่ชัดในปีเดียวกันครับ ในเวทีสู่ นักฟุตบอลอาชีพ ที่ คุณไพศาล โพธิ์นา และ คุณ ศราวุฒิ จันทพันธ์ สองโค้ชคู่หูแห่ง “สิงโตหิน” บ้านบึง เอฟซี ให้โอกาสสำคัญ ให้เจ้าปั๊บขึ้นไปแสดงความสามารถ กับ สโมสร บ้านบึง เอฟซี ในไทยลีก 3 ในสัญญา ยืมตัว ครับ ตั้งแต่ยังไม่จบ ม.6 ด้วยซ้ำครับ ที่เจ้าปั๊บ อยู่ในชุดเดียวกับรุ่นพี่อย่าง
.
อนุชิต ทวีศรี (ผู้รักษาประตู), วรากร ทองใบ, สราวุฒิ เสาวรส, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, ชิษณุพงษ์ โชติ และ ตะวัน จันทะเสน  ที่ถือได้ว่า สโมสร บ้านบึง เอฟซี ไว้เนื้อเชื่อใจในเด็กๆกลุ่มยังเติ้ร์ก ที่เล่นฟุตบอลอาชีพ เป็นครั้งแรก และ ทำผลงานได้ดีเยี่ยมครับ ที่มีส่วนสำคัญ ให้ฟอร์มการเล่นขอบเจ้าปั๊บ และผองเพื่อพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนไปอยู่ในสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าง
.
“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กับ อรรณพ สิงห์โตทอง แล้วก็ “พี่หนุ่ม” ผจก.ทีมบ้านบึง ออกปากชมเจ้าหนุ่มคนนี้แบบไม่ขาดสายเลยครับ  จน ปั๊บ และ ผองเพื่อน รังสรรค์สร้างผลงาน ได้อย่างสวยงาม ก่อน เชื้อไวรัส โควิด-19 จะมาถึงครับ พาทีม สิงห์โตหิน บ้านบึง เอฟซี จบอันดับที่ 4 ของไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกได้อย่างเต็มภาคภูมิ ครับ
.
จนในฤดูกาลถัดมา ทางต้นสังกัดที่แท้จริง สโมสร ชลบุรี ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ สุดยอดกุลซื้อ คู่ดาวรุ่ง อย่าง โค้ช เตี้ย สะสม พบประเสริฐ ที่ได้ซุมดูฝีเท้าของเจ้สปั๊บมาตั้งแต่เยาวชน จนถึงระดับ สโมสร อาชีพ จึงได้มอบโอกาส สำคัญ
.
ที่ในฤดูกาลถัดมานั้น เจ้าปั๊บ จะมีรายชื่อ ลุยไทยลีก ในฐานนะนักฟุตบอลอาชีพ เวทีชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ครับ นั้นจึงเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ เด็กหนุ่ม วัยย่างก้าว 17 ไป ได้รับครับ  ที่ถึงแม้ว่า ยังไม่ได้โอกาสลงสนามในทุกนัด แต่นั้นก็นับเป็นประสบการณ์อันล่ำค่าที่แม้แต่เงินก็หาซื้อไม่ได้ครับ
.
นับเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว สำหรับนักเตะวัยย่างก้าว  17 ปีรายนี้ ที่เป็นอีกหนึ่งดีลเล็กๆ ของตลาดไทยลีกท่ามกลาง “บิ๊กดีล” มากมาย ซึ่งนับตั้งแต่วันนี้ “เจ้าปั๊ป” น่าจะได้รับประโยชน์จากการได้ฝึกซ้อมกับนักเตะระดับท็อปของสโมสรแน่นอน
.