อื่นๆ

ความนิยมของรถ Hatchback ในไทยกับข้อดีที่หาไม่ได้จากรถเก๋ง

144
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ความนิยมของรถ Hatchback ในไทยกับข้อดีที่หาไม่ได้จากรถเก๋ง

เรื่องความนิยมการมีรถยนต์ในประเทศไทยเป็นเรื่องปกติทั่วไป เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนเรื่องค่านิยมการใช้รถรูปร่างประเภทต่าง ๆ หากเป็นเมื่อสมัยก่อนรถเก๋งคันใหญ่ 4 ประตูคงเป็นที่นิยมกัน ถ้าหากเป็นสมัยนี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแบบสุดโต่งแต่ก้เริ่มจะสังเกตเห็นได้ว่าความนิยมของรถยนต์ 4 ประตูเริ่มถดถอยลง พร้อมกับการมาของรถยนต์ 5 ประตูหรือรถ Hatchback ที่เพิ่มมากขึ้น

การมาของรถ 5 ประตูแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีสาเหตุที่มาเลยครับ ซึ่งเจ้ารถประเภทนี้ได้รับความนิยมก็เพราะมันมีจุดเด่นที่รถ 4 ประตู ไม่อาจมีได้ประกอบกับสภาพการใช้ชีวิตในปัจจุบันด้วยครับ เหตุนั้นจึงสอดคล้องกับการที่ค่ายรถหันมาผลิตรถ 5 ประตูที่เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหมวดรถ Eco Car, B-Segment หรือ C-Segment เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและให้มีทางเลือกมากขึ้นกว่าเก่า

Advertisement

Advertisement

hatcarที่มารูปภาพ: AutoPhotography จาก Pixabay

ความจริงแล้วรถรูปแบบ Hatchback นั้นเริ่มมีมาตั้งนานแล้วครับแต่ว่าความนิยมของมันอาจจะไม่ได้แพร่หลายเท่ายุคนี้ โดยสมัยก่อน Hatchback ส่วนมากจะเป็นรถ 3 ประตูอย่างเช่น Honda Civic EG6, Mitsubishi Champ, Mazda 323, Nissan Sunny B11 เป็นต้น จนมาถึงปี 2000 ขึ้นไปก็พัฒนารถยนต์ 5 ประตูมากขึ้นอย่างเช่น Honda Jazz, Toyota Yaris, Mitsubishi Mirage, Ford Focus, Hyundai i30 เป็นต้น

ส่วนในเรื่องของความนิยมนั้นอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นครับคือ มันได้เปรียบในเรื่องของการบรรจุของด้านหลัง ซึ่งรถ 3 หรือ 5 ประตู ในส่วนของประตูด้านหลัง เมื่อเปิดออกมาจะมีความสูงมากกว่ารถเก๋ง Sedan บวกกับที่วางสัมภาระกับเบาะนั่งด้านหลังจะเชื่อมต่อกัน ทำให้สามารถพับเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ อีกทั้งได้ความสะดวกในเรื่องของการหยิบของจากด้านหลังได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดฝากระโปรงท้ายแบบรถเก๋ง

Advertisement

Advertisement

hatcar2ที่มารูปภาพ: Martin Katler on Unsplash

มันเลยทำให้รถ Hatchback มีความอเนกประสงค์พอสมควรครับ เพราะใช้ขับขี่เดินทางได้ สามารถขนสัมภาระขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ได้บ้าง ยิ่งไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่ชอบออกไปท่องเที่ยว ก็ต้องมีการแบกสัมภาระสิ่งของเป็นธรรมดา ในด้านของรูปทรงของรถที่เมื่อเป็นรถท้ายตัดจะให้ความโฉบเฉี่ยวเป็นวัยรุ่นมาก ทำให้รถประเภทนี้เป็นที่ต้องตาแก่หนุ่มสาวรุ่นใหม่ ผิดกับรถเก๋ง 4 ประตูหลายรุ่นที่ให้ความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า

ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียวเช่นนี้ครับ ทำให้การขับขี่ของรถ Hatchback คล่องตัวมากขึ้นจากจุดเด่นของมันคือท้ายรถที่สั้น ทำให้การเข้าโค้งในความเร็วสูงทำได้ดี ยิ่งเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าก็ไม่เกิดอาการท้ายปัด สามารถเข้าโค้งแคบ ๆ ได้ อีกทั้งมันยังเหมาะกับสภาพการจราจรที่แออัด การจอดรถในที่แคบอีกด้วย ลองสังเกตให้ดีรถแข่งประเภท Gymkhana จะนิยมใช้รถประเภทนี้มากที่สุดเพราะว่าเข้าโค้งวงเลี้ยวแคบได้ดี

Advertisement

Advertisement

hatcar3ที่มารูปภาพ: Anthony Aguilar on Unsplash

นอกจากนี้ราคาของรถ Hatchback ส่วนใหญ่จะมีราคาไม่แพงนัก เหมาะสำหรับวัยทำงานจบใหม่ที่มีรายได้ไม่มากเช่น Toyota Yaris, Mitsubishi Mirage, Honda Jazz, Mazda 2 ที่มีราคาเฉลี่ยประมาณ 5 แสนต้น ๆ การจราจรที่แออัดก็ยิ่งเสริมให้ผู้คนนิยมออกรถส่วนตัวเพื่อความสะดวกมากขึ้น ทำให้กระแสนิยมของรถประเภทนี้มากขึ้นไปอีกครับ

ด้วยความนิยมเช่นนี้ก็ไม่ได้มีแต่ค่ายรถญี่ปุ่นเท่านั้นที่ผลิตออกมา รวมถึงค่ายรถจากยุโรปยอดนิยมของไทย BMW กับ Benz เองก็หันมาผลิตรถประเภทดังกล่าวเช่นกันอย่างในรุ่น Series 1 ของ BMW กับ A-Class ของ Mercedes Benz

hatcar4ที่มารูปภาพ: MikesPhotos จาก Pixabay 

คาดการณ์ได้ว่ากระแสรถ 3 กับ 5 ประตู จะยังคงได้รับความนิยมต่อไปอีกหลายปีแน่นอนครับ จนกว่าจะมีเทคโนโลยีหรืออะไรบางอย่างที่ทำให้รถเก๋ง 4 ประตู สามารถทดแทนและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้มากกว่า แล้วคุณล่ะครับชอบรถ Hatchback หรือ Sedan มากกว่ากันครับ

ที่มารูปภาพปก: Robert Haverly on Unsplash

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์