อื่นๆ
ความภูมิใจ

ครั้งหนึ่งของชีวิตฉัน จะมีความตื่นเต้น ตื้นตันใจ ภูมิใจก็ไม่กี่ครั้ง เวลาที่ฉันดีใจ น้ำตาฉันจะไหลออกมาเองโดยที่ฉันไม่ได้รู้สึกว่าฉันร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง มันเป็นน้ำตาของความตื้นตันใจ ภูมิใจ ที่ฉันสร้างมันมาเอง หรือนั่นคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “สมปรารถนา”
ตอนเด็กๆ จนเริ่มโต ฉันมีความต้องการปรารถนาที่จะเป็นครู สอนเด็กๆ ด้วยความรัก เมตตา และด้วยความรู้ที่ฉันมีมาจากประสบการณ์จริงๆจากชีวิตฉันเองให้กับเด็กๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจบ้าง เพื่อให้เด็กๆ สนุกสนาน มีความสุขบ้างฉันใฝ่ฝันเช่นนั้นจริงๆ
แต่ด้วยความยากลำบากของครอบครัวที่มิอาจจะส่งเสียให้ฉันได้เรียนสูงๆได้ ทั้งๆที่ฉันก็สอบเข้าวิทยาลัยครูได้ด้วยนะ แต่ก็ต้องจบความฝันความปรารถนาลงแค่นั้น .....
จากนั้นฉันก็ใช้ชีวิตแบบแล้วแต่อะไรก็ได้ แต่ลึกๆก็อยากเรียน เรียน เรียน ฉันพยายามหาวิธีเรียนที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายและไม่รบกวนเวลาทำงาน ฉันได้เรียน ฉันได้เรียน กศน. แผนกบัญชี ฉันเรียนตอนเย็นเวลา 18.00 น. -20.00 น. ฉันเรียนจนจบหลักสูตร และต่อจากนั้นฉันก็ต้องการเรียนต่อในสถาบันจึงลองสอบดูฉันสอบได้ คณะบริหารธุรกิจ ฉันเก่งมากๆเลย เพราะฉันได้ที่สุดท้าย.....
Advertisement
Advertisement
จากนั้นชีวิตฉันก็เริ่มมีเป้าหมาย มีความฝันอีกครั้ง ฉันจบแล้วฉันอยากทำงานมีเงินเดือนให้ครอบครัวฉันชอบฝันเฟื่องฝันหวานเสมอ แต่ฉันก็จะพยายามตั้งใจทำให้มันได้ตามนั้นน่ะ ฉันสอบเสร็จวันสุดท้ายฉันก็ไปสมัครงานแผนกบัญชี ฉันได้ทำงานเลย ฉันตื้นตันใจ ภูมิใจในตัวฉันมากฉันเก่งอีกแล้ววววว...
การทำงานของฉันก็ดีอยู่น่ะ ฉันยกเงินเดือนให้แม่หมดด้วยความเต็มใจและภูมิใจ แม่จะจ่ายให้ฉันไปทำงานวันล่ะ 20-50 บาท บ้างแล้วแต่ความจำเป็น แต่ฉันก็ไม่ค่อยได้ใช้อะไรเพราะกินอะไรก็กินกับแม่กับครอบครัวอยู่แล้ว ฉันใช้ชีวิตสาวออฟฟิศอยู่ประมาณ 4-5 ปีวนไป
คนเรามันไม่เคยพอจริงๆ น่ะ ฉันเริ่มอยากมีมือถือ อยากมีรถยนต์ อยากมีนั่นอยากมีนี้อยากมีอะไรต่อมิอะไรเป็นของตัวเอง ฉันจึงลาออกจากงานที่ฝันครั้งแรก มาทำธุรกิจส่วนตัว ฉันก็ทำสำเร็จนะมีทุกอย่างที่ฉันอยากมีอย่างรวดเร็วจนผู้เฒ่าผู้แก่เตือนว่า โตวัยขนาดนี้ให้ระวังด้วยนะอย่าประมาท แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ ฉันใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เปลี่ยนโทรศัพท์ตามรุ่น เปลี่ยนรถยนต์ตามรุ่นใหม่ล่าสุดเสมอ ไม่เคยตกยุค ฉันมีความสุขสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนฝูงฉันภูมิใจในตัวเองมาก ฉันทำได้ฉันสร้างทุกอย่างให้เป็นของฉันได้
Advertisement
Advertisement
แต่ความประมาทนำมาซึ่งหายนะ ชีวิตฉันเริ่มเปลี่ยนมีปัญหาทุกด้าน การงาน การเงิน ครอบครัว ทุกอย่างมาพร้อมๆกันจนฉันตั้งตัวไม่ติด แทบจะหยุดหายใจเพราะมันทั้งเจ็บปวดและอับอายทุกความรู้สึกแย่ๆมันเข้ามาหาฉัน....แต่ในความทุกข์ย่อมมีสิ่งดีๆให้เราได้ศึกษา ฉันได้พบครูบาอาจารย์ที่ดีสั่งสอนให้สติตักเตือนฉันก็ปฏิบัติ ซึ่งมันยากมากการปฏิบัติที่จะขัดเกลาความหยาบของจิตใจที่โหยหาแต่ความสะดวกสบายนั่นมันยากมากแต่ฉันก็ต้องปฏิบัติเพราะมันทุกข์เหลือเกินด้านร่างกายไม่เท่าไหร่แต่ด้านจิตใจฉันมันทุกข์มากกกก
สุดท้ายฉันทบทวน ยอมรับผลที่เกิดขึ้นทุกอย่างด้วยความเต็มใจ ด้วยความเคารพ ฉันไม่ได้เก่ง อย่างที่ฉันคิดหรือภูมิใจเลย ฉันกลับโง่เขลาเบาปัญญา ฉันประมาท ชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดที่ฉันบอกเล่านี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันบอกกับตัวเองว่า ที่ผ่านมามันไม่ใช่ฉันเก่งหรอก แต่ฉันดันทุรัง ฉันทะเยอทะยาน แข่งขันกับชีวิตที่ประมาท ฉะนั้นความภูมิใจที่เกิดขึ้นมันคือ “ความจองหอง เย้อหยิ่ง ทะนงตัว” ของฉันเองต่างหาก
Advertisement
Advertisement
ณ ขณะเวลานี้ ฉันภูมิใจจริงๆแล้วนะ ที่ฉันยอมรับกับสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ ฉันมิได้มีทุกอย่างเหมือนวันที่ผ่านมาหรือเหมือนคนอื่นๆ แต่ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่น และเข้าใจกัน
ขอบคุณทุกเรื่องราว ทุกปัญหา ทุกความยากลำบาก ที่ทำให้ฉันมีความภูมิใจเกิดขึ้นจริงๆในวันนี้
ขอบคุณรูปภาพจาก Credits:
ภาพปกโดย pikisuperstar ใน Freepik.com
ภาพประกอบที่ 1 โดย benzoix ใน Freepik.com
ภาพประกอบที่ 2 โดย diana.grytaku ใน Freepik.com
ภาพประกอบที่ 3 โดย drobotdean ใน Freepik.com
ภาพประกอบที่ 4 โดย tirachardz ใน Freepik.com
ความคิดเห็น






