อื่นๆ
ความเชื่อ 4 ประการในพระพุทธศาสนา

เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-68181/
สวัสดีครับท่านผู้ท่านนักอ่านทั้งหลาย วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องดี ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่าน คำถาม : ท่านว่าในโลกของเรามีกี่ศาสนาครับ....ขอบคุณสำหรับคำตอบทุกคำตอบที่ถาโถมเข้ามา..คำตอบ : เยอแยะมากมายหลายศาสนาครับไม่ว่าจะเป็น คริสต์ พุทธ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู หรือศาสนาเชน (คล้ายพุทธแต่นักบวชศาสนานี้จะไม่นุ่งห่มผ้า) ศาสนาไม่มีศาสนา และศาสนาอื่น ๆ อีกมากมายเยอะไปหมด อย่างเพิ่งหัวเราไปครับนี้เรื่องจริงครับ ศาสนาไม่มีศาสนา (No religion) ก็คือคนที่เชื่อว่าตนไม่เชื่อศาสนาใดหรือไม่มีสิ่งใดที่เขาจะเชื่อเลยก็ว่ากันไปครับ....
มาถึงตอนนี้ทำให้ผู้เขียนคิดได้ถึงพุทธประวัติตอนหนึ่งในสมัยพุทธกาลมีคนนอกศาสนาเดินผ่านมาพบกับพระพุทธเจ้าด้วยพุทธบารมีจึงแวะเข้าไปทักทายจนเกิดการสนทนากันขึ้น ใจความในพระสูตรนั้นผู้เขียนจำได้ว่า พรหมณ์บอกกับพระพุทธเจ้าว่า “ข้าพเจ้าไม่เชื่อสิ่งใด ๆ เลยในโลกนี้” (ประมาณว่าไม่เคยเชื่อใคร ไม่เชื่อในศาสนา ไม่เชื่อทุกสิ่งทุกอย่าง สุดท้ายผู้เขียนจำได้ว่า พระพุทธเจ้าตรัสกับคนนอกศาสนาคนนั้นว่า “ผิดแล้ว สิ่งที่ท่านบอกว่าไม่เคยเชื่อสิ่งใดในโลกนี้แต่จริง ๆ แล้วท่านหละกำลังเชื่ออยู่ว่าท่านไม่เชื่อสิ่งใด” อย่างเพิ่งงงครับลองพิจารณาดู ดี ๆ บอกว่าไม่เชื่อสิ่งใดแต่กลับเชื่อว่าตนไม่เชื่อ....
Advertisement
Advertisement

เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)
เอาหละครับเกริ่นมาซะนานมาดูกันว่าวันนี้ผู้เขียนจะนำเสนอเรื่องอะไร ครับในทางพระพุทธศาสนาคนที่นับถือพระพุทธศาสนาจะต้องมีสิ่งที่ควรเชื่อโดยสนิทใจอยู่ 4 ประการครับ ได้แก่
1. กัมมสัทธา คือ เชื่อว่ากรรมมีจริง หมายความว่า ในพระพุทธศาสนาจะสอนเน้นหนักในเรื่องของกรรมครับ คำว่ากรรมเป็นคำกลาง ๆ ไม่ดี ไม่เลวแต่ถ้าเติมคำว่ากรรมเลวก็หมายถึงสิ่งที่ชั่ว ไม่ดี เป็นอกุศล แต่ถ้าเติมคำว่าดีไป ก็หมายถึงสิ่งที่ดี เป็นกุศล เรื่องกรรมนี้พระพุทธองค์จะทรงเน้นหนักเลยนะครับท่านทำกรรมอย่างไรไว้ก็จะได้รับผลตอบเช่นนั้นมาถึงตอนนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงพุทธศาสนสุภาษิตได้บทหนึ่งที่ว่า “กัมมุนา วัตตติ โลโก” แปลความว่า สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม
เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2312044/
Advertisement
Advertisement
2. วิปากสัทธา คือ เชื่อว่าเมื่อทำกรรมเช่นใดย่อมได้รับผลกรรมเช่นนั้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากนาแดงปลูกข้าวนายแดงก็ต้องได้ข้าว (กรรม คือ การกระทำ (ปลูกข้าว) ผล คือ วิบาก (เมล็ดข้าว)) หรือนายแดงยิงนายแดงตาย นายแดงย่อมได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อ คือ ต้องถูกจับ รับโทษหรือในพระไตรปิฎกบันทึกไว้ว่ามีพระภิกษุ 7 รูปจะเดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้าในระหว่างทางได้เข้าพักในถ้ำแห่งหนึ่งแต่พอถึงช่วงกลางดึกก็มีหินใหญ่ก้อนหนึ่งกลิ้งมาปิดที่ปากถ้ำพระภิกษุ 7 รูปจึงถูกขังอยู่ในถ้ำโดยไม่ได้ฉันอาหารฉันเป็นเวลา 7 วัน พอถึงวันที่ 7 หินใหญ่ที่ปิดปากถ้ำก็เคลื่อนตัวออกมาเองราวปาฏิหาริย์ ภิกษุกลุ่มนี้ก็ตั้งใจว่า เมื่อเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วก็จะทูลถามว่าเป็นวิบากกรรมชั่วอะไรที่ทำให้พวกท่านต้องถูกขังอยู่ในถ้ำนานถึง 7 พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลายครั้งหนึ่งเด็กเลี้ยงโค 7 คนเห็นเหี้ยตัวหนึ่งเดินเข้าไปในช่องจอมปลวกจึงช่วยกันปิดทางออกทั้ง 7 ช่องของจอมปลวกด้วยกิ่งไม้ และก้อนดินเหนียวหลังจากปิดช่องทางไม่ให้เหี้ยออกพวกเด็กก็ต้อนโคไปเลี้ยง ณ ที่อื่น หลังจากนั้นอีก7 วัน เมื่อต้อนโคกลับมาที่เดิมจึงนึกขึ้นมาได้ และได้ไปช่วยกันเปิดช่องจอมปลวกให้เหี้ยนั้นออกมา ก็เพราะวิบากกรรมครั้งนั้นทำให้ภิกษุทั้ง 7 รูปถูกขังอยู่ในถ้ำนานถึง 7 วันโดยไม่ได้รับอาหารแบบนี้ ในช่วง 14 ชาติสุดท้าย” นี้คือตัวอย่างของวิบากกรรมครับ
Advertisement
Advertisement
เครดิตภาพจาก https://pixabay.com/images/id-2004540/
3. กัมมัสสกตาสัทธา คือ เชื่อว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง อันนี้เห็นได้ชัดครับบางคนเกิดมามีฐานะดี ร่ำรวย ครอบครัวอบอุ่น บางคนเกิดมาพิการ ยากจน อดมื้อกินมื้อเหล่านี้แหละครับกรรมจัดสรรทั้งสิ้น เคยได้ยินไหมครับ เช่น คนที่ชอบการฆ่าสัตว์ (ปาณาติบาต) กรรมนั้นเมื่อให้ผลย่อมทำให้ตกนรกหรือไปอบายภูมิ และเมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ทำให้บุคคลนั้นมีอายุสั้น มีโรคมาก เป็นต้น

เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)
4. ตถาคตโพธิสัทธา คือ เชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าหมายถึง เชื่อว่าพระพุทธเจ้านั้นเป็นผู้ตรัสรู้จริง ๆ มาถึงตรงนี้ท่านทราบหรือไม่ครับว่า คุณของพระพุทธเจ้านั้นมีกี่อย่าง....ขอบคุณสำหรับคำตอบที่ท้วมท้นครับ...(อิอิ..) เฉลยเลยครับ คุณของพระพุทธเจ้ามี 3 ประการ ได้แก่ 1. พระปัญญาคุณ พระคุณคือพระปัญญา 2. พระวิสุทธิคุณ พระคุณคือความบริสุทธิ์ 3. พระมหากรุณาคุณ พระคุณคือความกรุณาที่พระพุทธองค์มีแก่สัตว์โลกครับเมื่อเชื่อในพระพุทธเจ้าจึงเป็นเหตุที่เชื่อในการตรัสรู้ของพระองค์

เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)
เห็นหรือยังครับเหล่านี้หละคือ สิ่งที่พุทธศาสนิกชนทุกคนควรใส่ใจ และดำรงตนเป็นชาวพุทธในสายเลือดไม่ใช่เหมือนที่เขาพูดกัน เล่น ๆ ว่า “เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้าน” สำหรับวันนี้หวังว่าท่านผู้ว่าคงจะได้ข้อคิดไม่มากก็น้อยหละครับ..สำหรับวันนี้ธรรมะสวัสดีครับ
ความคิดเห็น






