อื่นๆ
คิดสร้างสรรค์ สิ่งดี ๆ มันดีแน่นอน

คนที่ทำงานอะไรก็ตามและต้องการที่จะทำให้ตัวเองเป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนอื่นนั้น คนคนนั้นจะต้องเอาใจใส่ในหน้าที่การงานอยู่ตลอดเวลา แล้วความจริงจะปรากฏให้เห็นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ว่าคนคนนั้นเป็นคนเอาการเอางานอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำไปเพื่อตบตาผู้อื่นให้ตัวเองดูดี
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
ยกตัวอย่างคนงานคนหนึ่งในโรงงานทอผ้าที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าแผนก เนื่องด้วยหลังจากที่เขาออกจากเวรแล้วเขายังต้องรออยู่จนกว่าคนที่มารับเวรต่อจะมาถึง จากนั้นเมื่อคนที่จะรับเวรต่อจากเขามาถึงแล้ว เขากก็จะเล่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้คนนั้นฟังและเมื่อคนที่มารับเวรต่อจากเขาเข้าใจแล้ว เขาถึงจะกลับบ้านไป สิ่งที่เขาทำนี้เองที่ทำให้เขาเป็นที่สนใจของเจ้าของโรงงาน เพราะการกระทำของเขานั้นช่วยทำให้โรงงานดำเนินงานไปได้อย่างเรียบร้อย แม้มีปัญหาก็สามารถที่จะแก้ไขได้มัน เพราะทุกคนทั่วโรงงานรู็ว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงงานนั้นคืออะไร โดยรู้มาจากคนงานคนนั้น
Advertisement
Advertisement
บุคคลที่มีความน่าสนใจในสายตาของคนอื่นนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และกล้าที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมาอย่างมั่นใจและมีความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย
จากที่ยกตัวอย่างมาจึงพอสรุปได้ว่า บุคคลที่มีความน่าสนใจในสายตาของคนอื่นนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และกล้าที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมาอย่างมั่นใจ และมีวามเชื่อมั่นในตัวเองด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่จะทำให้ผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเจ้านายรู้สึกสนใจ และเกิดขึ้นในสายตาของผู้อื่นด้วยเช่นกันค่ะ
“ผู้ที่ไม่ยอมฝ่าฝืนกฏเพื่อเห็นแก่ผู้วางกฏนั้น เป็นคนที่น่าสงสาร”
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
คำกล่าวนี้หมายถึง ถ้าใครก็ตามที่ต้องการความก้าวหน้าหรือความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าใครคนนั้นไม่เคยคิดที่จะใช้สามัญสำนึกของตนเองทำลายกฏที่วางไว้อย่างเฉียบขาดของผู้บังคับบัญชา พวกเขาก็ยังคงเป็นบุคคลธรรมดาในสายตาของหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรโดดเด่น และความก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็คงไม่ไปถึงไหน แต่ในทางตรงกันข้ามถ้า คนคนนั้นทำการแหกกฏที่ตั้งขึ้นมาจากผู้บังคับบัญชาหรือคนทั่วไปทันที เนื่องจากไม่มีใครทำได้อย่างเขาและแน่นอนการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้น นั่นคือคนคนนั้นจะได้รับการยอมรับในความกล้าและความสามารถที่มีอยู่ในตัวเขาจากผู้อื่น บุคคลเหล่านี้จึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วจากการคิดนอกกรอบหรือแหกกฏเกณฑ์ที่เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาตั้งไว้เสมอ
Advertisement
Advertisement
“พนักงานทั่วไปยอมปฏิบัติตามกฏเพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะให้เกิดความไม่ปลอดภัยในหน้าที่การงานถ้าหากว่าเขาต้องฝ่าฝืนกฏเกณฑ์ของบริษัทที่ตั้งไว”
ในความจริงนั้นการเชื่อฟัง การปฏิบัติตามระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่กฏทุกข้อย่อมมีข้อยกเว้น การที่พนักงานทั่วไปยอมปฏิบัติตามกฏก็เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะให้เกิดความไม่ปลอดภัยในหน้าที่การงานของพวกเขา ถ้าหากว่าเขาต้องฝ่าฝืนกฏเกณฑ์ของบริษัทที่ตั้งไว้ ดังนั้นพนักงานเหล่านี้จึงไม่สมารถที่จะเจริญห้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเองได้ ทำให้พนักงานผู้น้อยเหล่านี้รับคำสั่งจากเจ้านายไปทำอย่างโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลเท่าไหร่ และเมื่อความเสียหายเกิดขึ้นพนักงานผู้น้อยก็เกิดความกลัวและกังวลว่าตัวเขานั้นจะมีโอกาสทำงานในหน้าที่ของเขาต่อไปหรือไม่ เพราะเขาอาจจะถูกไล่ออกจากงานได้เนื่องจากงานที่เขาได้รับมอบหมายมานั้น เขาทำผิดพลาดโดยที่ไม่พิจารณาก่อนว่าเขาสามารถที่จะทำได้หรือไม่ แต่รับงานนั้นมาทำด้วยความเกรงใจเจ้านาย กลัวเจ้านายจะไม่พอใจเป็นต้น
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
“มันเป็นหน้าที่ของแต่ละคนที่จะทำตัวเองให้เป็นที่สนใจของผู้อื่นหรือเจ้านายของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แต่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ในภายหลัง”
คนที่ประสบความสำเร็จมากมายได้วางหลักการในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งการงานที่สูงกว่าของตัวเองไว้อย่างสมบูรณ์โดยอาศัยหลักการที่ว่า มันเป็นหน้าที่ของแต่ละคนอย่างแท้จริงที่จะทำตัวเองให้เป็นที่สนใจของผู้อื่นหรือเจ้านายของตัวเองอย่างเงียบ ๆ แต่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ในภายหลัง ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะต้องหาความรู้ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องการ เพื่อใช้ในการเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเอง
บางคนใช้วิธีการสร้างความสนใจในสายตาผู้อื่นโดยการโฆษณาตัวเองในทางที่ผิด ซึ่งสิ่งนั้นก็คือการแสดงออกถึงการเป็นผู้อวดฉลาดมากกว่าเป็นผู้ที่จะได้รับความชื่นชมจากผู้อื่นอย่างจริงใจนั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้วางแผนอย่างรอบคอบเพื่อที่จะสร้างความมีชื่อเสียงของตัวเอง แต่ต้องการแสดงออกถึงสิ่งที่ไม่น่าประทับใจ บางประการที่คิดว่าคนอื่นจะประทับใจในการกระทำของเขาและเพื่อดึงดูดใจผู้อื่นด้วยเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ผิดอย่างมาก
“การทำตัวเองให้สง่าภาคภูมิอันเป็นคุณสมบัติที่คนเรามักจะพบในตัวบุคคลที่ปะสบความสำเร็จ”
ในการที่จะสร้างชื่อเสียงของเราให้เด่นขึ้นมาได้นั้นนั่นก็คือ การทำตัวเองให้สง่าภาคภูมิ อันเป็นคุณสมบัติที่คนเรามักจะพบในตัวบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
คนเราทุกคนนั้นถือกันว่า ความภาคภูมิใจในตัวเองเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นลักษณะประจำตัวของเราซึ่งแสดงออกให้เห็นว่า เราเข้าใจคุณค่าแห่งตัวตนที่แท้จริงของเรา
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เรียกว่าความภาคภูมิใจของเรายังบอกให้ผู้อื่นรู้ถึงสิทธิของเราอีกด้วย และเราพร้อมเสมอที่จะปกป้องมันเอาไว้และเมื่อถึงคราวจำเป็น มันก็จะเป็นเครื่องมือที่เราสามารถใช้สำหรับสร้างเกียรติและชื่อเสียงของเราอีกด้วย
“บุคคลที่มีความสามารถสูงมีคุณลักษณะสองประการผสมผสานกันอยู่นั่นคือ ความภาคภูมิใจและความมีเสน่ห์ในตัวเอง”
บุคคลที่มีความสามารถสูงนั้น จะมีคุณลักษณะสองประการผสมผสานกันอยู่ นั่นคือ ความภาคภูมิใจและความมีเสน่ห์ในตัวเอง ความภาคภูมิใจที่แท้จริงนั้น ไม่ได้ประสบความสำเร็จเพราะเราพยายามบังคับตัวเองให้วางท่าสง่า เคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่จะกระทำลงไปนั้นเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้ว จะต้องตัดสินใจได้ในทันที แม้ว่าจะเป็นการทำลายกฏหรือระเบียบที่วางไว้
สรุปก็คือ การที่คุณให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษในหน้าที่การงานที่ทำอยู่ในภาวะที่ต้องการการตัดสินใจอันสำคัญ ถ้าท่านมั่นใจว่าสิ่งที่จะกระทำลงไปนั้น กระทำลงไปเพื่อพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้ว คุณจะต้องตัดสินใจได้ในทันที แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำลายกฏหรือระเบียบที่วางไว้
การที่คุณจะก้าวเข้าไปรับตำแหน่งใดก็ตาม สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือ เตรียมตัวด้วยการศึกษาหาความรู้ในหน้าที่นั้น ๆ ไว้
คุณจะต้องรักษาความสง่าภาคภูมิของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การทำตนให้เป็นที่รักใคร่ของบุคคลทั่วไปค่ะ
ขอบคุณภาพปกจาก freepik.com
ความคิดเห็น






