อื่นๆ
คืนหลงป่า

ออฟกับเขียวพากันออกมาหาของป่าที่ในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง พวกเขาไม่ค่อยชำนาญทางในป่านี้เท่าไรนัก จึงทำให้พวกเขาหลงทางเดินวนไปวนมาอยู่ในป่า หาทางออกไม่ได้ เวลาผ่านไปจนเย็นพวกเขาพยายามหาวิธีที่จะออกไปจากป่าให้ได้ ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ ขณะที่พวกเขากำลังนั่งพักอยู่ใต้โคนต้นไม้ เขาก็เงากลุ่มชายสามคนเดินอยู่ไกลๆ ตรงป่าอีกฝั่งหนึ่ง ออฟกับเขียวพยายามตะโกนเรียก แต่กลุ่มชายทั้งสามก็ไม่ได้ยิน ออฟกับเขียวจึงพากันวิ่งตามชายสามคนนั้นไปเพราะหวังว่าจะให้ทั้งสามคนช่วยพาออกไป

Advertisement
Advertisement
ออฟกับเขียวพยายามวิ่งตามชายทั้งสามคนนั้นให้ทัน แต่ดูเหมือนคนพวกนั้นชำนาญทางและเดินเร็วมาก จนทำให้ออฟกับเขียววิ่งตามแทบไม่ทัน จนทั้งสามเกือบจะลับสายตา อีกทั้งฟ้าก็มืดแล้วทำให้ออฟกับเขียวยิ่งมองทางลำบาก พวกเขาวิ่งล้มไปอย่างทุลักทุเล และพวกเขาก็คลาดกับชายสามคนนั้นจนได้ พวกเขาจึงนั่งพักกันอยู่ริมโขดหินใต้ต้นไม้ใหญ่
ออฟได้บอกกับเขียวว่า “มึงว่าพวกเรายิ่งวิ่งเข้ามาลึกกว่าเดิมรึป่าววะ กูรู้สึกว่าต้นไม้มันใหญ่ขึ้น เถาวัลย์มากขึ้น เหมือนเราจะหลงหนักกว่าเก่านะ”
เขียวได้ตอบไปว่า “นั่นสิ กูก็คิดเหมือนกัน สงสัยคืนนี้เราต้องนอนในป่ากันก่อน กูว่าพวกเราไปหาฟื้นมาก่อไฟกันดีกว่า”
Advertisement
Advertisement
จากนั้นทั้งสองก็พอกันเก็บฟื้นมาก่อไฟ ให้ความอุ่นและป้องกันสัตว์ป่ามารบกวน ระหว่างนั้นเขียวก็ได้พูดขึ้นมาว่า “แต่ก็แปลกนะว่า ทำไมคนพวกนั้นเดินกันเร็วจัง ทั้งที่พวกเราวิ่งตามแท้ๆ ยังไม่ทันเลย”
ออฟก็พูดตอบมาว่า “พวกเขาอาจชำนาญทางจึงรีบเดิน เพราะมันค่ำแล้ว”
เขียวจึงพูดว่า “แสดงว่าต้องมีหมู่บ้านอยู่แถวๆ นี้แหล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่เดินเข้าป่ามาลึกขนาดนี้”
ออฟจึงได้ตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราลองแกะรอยดูเผื่อจะเจอหมู่บ้านและให้เขาช่วยเหลือ”

Advertisement
Advertisement
ระหว่างที่พวกเขากำลังนอนหลับกันอยู่นั้น ออฟก็ได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน เขาจึงปลุกเขียวให้ตื่นมาช่วยกันฟัง เขียวก็พูดขึ้นมาว่า “เออใช่ เสียงคนจริงๆ ด้วย” แล้วพวกเขาก็พยายามฟังว่าเสียงมาจากทางไหน และติดสินใจเดินตามเสียงนั้นไป พวกเขาเดินตามเสียงมาเรื่อยๆ ก็เห็นเหมือนคนกำลังถือไฟฉาย เดินอยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขาอยู่นัก พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับตะโกนเรียก แต่ก็เหมือนคนเหล่านั้นจะไม่ได้ยินเสียงที่ออฟกับเขียวตะโกนเรียกเลย ออฟกับเขียววิ่งตามจนเหนื่อย แต่ก็วิ่งตามคนเหล่านั้นไม่ทัน พวกเขารู้สึกแปลกใจมาก และพยายามมองหาว่าพวกคนเหล่านั้นเดินหายไปไหนแล้ว ขณะนั้นเขียวก็ได้มองไปเห็นกองไฟไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่นัก เขาจึงแน่ใจมีคนอยู่ที่กองไฟนั่น และพากันวิ่งไปที่กองไฟนั้นทันที ตอนแรกก่อนที่พวกเขาจะวิ่งไปถึงกองไฟ พวกเราเห็นชายสามคนนั่งอยู่รอบกองไฟ แต่เมื่อพวกเขาวิ่งไปถึงปรากฏว่ากองไฟที่พวกเขาเห็นเป็นเพียงแค่เศษขี้เถ้า และมีโครงกระดูกสามโครงกองอยู่รอบกองไฟ ทำให้พวกเขาตกใจกลัว รีบพากันวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที ด้วยความมืดจนทำให้พวกเขาจับทิศไม่ได้ว่า พวกเขากำลังวิ่งกันไปทางไหน พวกเขาได้หยุดพัก ออฟได้พูดว่า “อย่าบอกนะว่าคนที่เราวิ่งตามกันตั้งแต่เมื่อเย็น เป็นผี”
เขียวก็ได้พูดว่า “ใช่แน่ๆ มิน่าทำไมพวกเราวิ่งตามไม่ทันสักที”
ออฟจึงถามต่อว่า “แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ เดินแบบไม่รู้ทิศแบบนี้ จะทำให้หลงเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิมนะ”
ที่มาภาพประกอบจาก https://pixabay.com/th/photos
พวกเขาทั้งสองก็ยืนมองหน้ากันเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขียวจึงได้ยกมือไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาให้ช่วยพาพวกเขาออกไปจากป่านี้ ในตอนนั้นเขียวได้ยินเสียงน้ำไหล พวกเขาจึงพากันเดินมาตามเสียงธารน้ำ จนพวกเขาพบธารน้ำอยู่ไม่ไกลนักและเห็นบ้านไม้เก่าๆ อยู่สองสามหลัง พวกเขาจึงรีบวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือ เขาไปเคาะประตูที่บ้านหลังหนึ่ง มีชายแก่เดินออกมา และพูดว่า “พวกเอ็งมาจากไหนกัน ดึกๆ ป่านนี้”
ออฟได้ตอบว่า “พวกเราหลงป่ามาครับ จะมาขอพักสักคืน พรุ่งนี้เราก็จะออกเดินทางต่อ”
ชายแก่ก็ตอบว่า “ได้ถ้าอย่างงั้นพวกเอ็งนอนที่บ้านข้าก่อนแล้วกัน แล้วพรุ่งนี้ให้พวกเอ็งเดินตามธารน้ำไปครึ่งวันก็จะถึงหมู่บ้าน”
ออฟกับเขียวดีใจมารีบขอบคุณชายแก และพากันขึ้นบ้านไปนอน เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พวกเขาก็ต้องตกใจ เพราะที่พวกเขานอนอยู่ ไม่มีบ้านอยู่สักหลัง มีเพียงแค่ใบให้ปูรองให้พวกเขานอน และคิดว่าคงเป็นเจ้าป่าเจ้าเขามาช่วยพวกเขาไว้และบอกทางออกให้พวกเขา ออฟกับเขียวจึงรีบออกเดินทาง ไปตามธารน้ำตามทีชายแก่บอกเมื่อคืนทันทีและพวกเขาก็ออกจากป่าได้ในที่สุด ซึ่งการหลงป่าของพวกเขาในครั้งนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่พวกเขาไม่มีวันลืม
ความคิดเห็น






