อื่นๆ
คุณกำลังสร้างระเบิดนิวเคลียร์ในใจตัวเองอยู่หรือเปล่า?

ความเครียดกับแรงระเบิดเป็นสิ่งที่คล้ายกันจริงหรือ?
ในขณะที่ระเบิดนิวเคลียร์คร่าชีวิตคนไปหลายหมื่นคน แล้วระเบิดอารมณ์สามารถคร่าคนๆนึงได้เหมือนกันไหม?
.
ปราศจากเสียงดังกึกก้อง ปราศจากเสียงร้องขอความช่วยเหลือหรือเสียงความวุ่นวาย
ในใจที่ว่างเปล่าของคนๆหนึ่ง เกิดระเบิดที่รุนแรงมากเกินรับไหว
ณ เวลานั้น ท่ามกลางความเงียบที่ขึ้นชื่อว่าดังที่สุด เค้าคนนั้นได้ไปจากเราเสียแล้ว
ถ้าจะให้อธิบายเส้นแบ่งของระเบิดจริงกับระเบิดใจง่ายๆ คงต้องเกริ่นถึงหลักการทำงานของระเบิดจริงซะก่อน
ในที่นี้จะพูดถึง ระเบิดนิวเคลียร์แบบ Fission - Implosion ที่ใช้ใน Fat Man
ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีจากเหตุการณ์อันน่าสลดที่ เมืองนางาซางิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2

หลักการทำงานของระเบิดนิวเคลียร์แบบฟิชชัน คือการทำให้มวลใต้วิกฤต (Subcritical mass) กลายเป็นมวลเหนือวิกฤต (Supercritical mass)
Advertisement
Advertisement
- มวลใต้วิกฤต คือ ปริมาณวัสดุฟิสไซล์ในรูปทรงหนึ่งๆที่มีความหนาแน่นค่าหนึ่ง ในวัสดุล้อมรอบอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาฟิชชันอย่างต่อเนื่องได้ ปฏิกิริยาฟิชชันที่เหนี่ยวนำให้เกิดขึ้นจะลดลงจนหมดไป
- มวลเหนือวิกฤต จะสามารถทำให้ปฏิกิริยาฟิชชันเกิดทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ได้
เมื่อคนเรารับเรื่องต่างๆมากมายเข้ามาในชีวิต ทุกสิ่งล้วนมีผลต่อจิตใจ
คล้ายกับว่าเรื่องราวทุกเรื่องล้วนมีสารเคมีที่พร้อมจะทำปฏิกิริยากับสารตั้งต้นในใจเราทั้งนั้น
เรื่องราวมากมายให้ผลผลิตที่ดี แต่อีกมากมายเช่นกันที่กลับทำฟิชชันกับสารตั้งต้นแล้วกลายเป็นว่า
สารเหล่านั้นแปรสภาพเป็นมวลเหนือวิกฤตทวีคูณอยู่ในหัวใจโดยไม่รู้ตัว
แล้วยังไงต่อ แค่มีมลสารมากมายสะสมแล้วมันจะบู้มออกมาข้างนอกได้ยังไง?

เทคนิค Implosion โดยวัสดุฟิสไซล์ที่ทำจากยูเรเนียมหรือพลูโตเนียมที่มีองค์ประกอบทางไอโซโทปที่เหมาะสมและอยู่ในสภาวะมวลใต้วิกฤตจะถูก ล้อมรอบด้วยระเบิดแบบธรรมดาแรงสูงที่จะทำหน้าที่อัดวัสดุฟิสไซล์ให้มีความหนาแน่นสูงมากจนกลายเป็นมวลเหนือวิกฤตได้ โดยจะต้องใช้แรงอัดมากกว่า 10 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว
Advertisement
Advertisement
"10ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้วมันเยอะมากแค่ไหนกันนะ?" เป็นคำถามที่ทุกคนคงมีอยู่ในใจ
มันคงเป็นเรื่องที่คนเราจินตนาการไม่ออก..
สมมติถ้าร่างกายทางกายภาพโดนแรงดันแบบนั้นเต็มๆ คงไม่มีชีวิตเหลือรอดมานั่งสงสัยอยู่แบบนี้แน่นอน
แต่เชื่อหรือไม่ว่า หัวใจคนเรามันแข็งแรงกว่าแรงดันนั้นอีก
แรงอัดมหาศาลดูจิ๊บจ๊อยไปเลยเมื่อเทียบกับแรงกดดันที่เราได้รับในแต่ละวัน โดยเฉพาะแรงบนบ่าที่คนเราต้องแบกรับไว้
อย่างที่ใครเค้าบอกแหล่ะว่าสิ่งที่เข้มแข็งที่สุดบนโลกใบนี้ไม่ใช่ไฮเปอร์ไดมอนด์ซักหน่อย แต่คือหัวใจของเราต่างหาก
หลังจากเกิดปฏิกิริยาฟิชชันต่อเนื่องที่แกนกลาง ทุกอย่างจะถูกกักอยู่ภายในวัสดุความหนาแน่นสูงที่เรียกว่า Tamper ในระยะเวลาเสี้ยววินาทีก่อนเกิดการระเบิดออก ซึ่งโดยปกติตัว Tamper จะทำจากยูเรเนียม-238 ซึ่งตัว มันจะร้อนขึ้นและจะถูกดันออกด้วยแกนกลาง
Advertisement
Advertisement
โดยตัว Tamper จะทำการหน่วงไม่ให้แกนกลางระเบิดออกมาและทำหน้าที่สะท้อนนิวตรอนกลับเข้าไปยังแกนกลางด้วยส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาฟิชชันมากขึ้น และจะหน่วงให้เกิดปฏิกิริยาฟิชชันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่ทุกอย่างจะระเบิดออกจากกัน
แข็งแรงดั่งหินผา แต่กลับเปราะบาง
น่าจะเป็นคำอธิบายจิตใจของคนได้ดีที่สุด
รู้หรือไม่ว่า Tamper นี่แหล่ะคือดาบสองคม
ขีดจำกัดทางอารมณ์ของคนเราสามารถขยายและหดได้ตามใจชอบ เด้งดึ๋งสะท้อนความรุนแรงกลับไป ไม่ให้เพ่นพ่านแสดงออกให้อื่นได้เห็น
ใช่ เราถูกฝึกมาแบบนี้ อดทนอดกลั้น เก็บความรู้สึกไว้ อย่าให้ใครเห็นความอ่อนแอ
ทำให้ไม่ทันได้รู้ตัวว่าทุกสิ่งอย่างที่สะท้อนกลับไปได้แล้วนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่กลับรวมตัวแล้วรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม
เมื่อถึงจุดแตกหักเมื่อใด ก้อนกรวดก้อนเดียวก็สามารถทำให้หินทั้งผาถล่มแหลกย่อยยับไม่มีชิ้นดี

ตามข้อมูลการออกแบบ Fat Man ต้นกำเนิดนิวตรอนประกอบด้วยPolonium (Po) และ Beryllium (Be) ซึ่งแยกกันอยู่โดยมีแผ่นฟอยด์อะลูมินัมกั้นซึ่งต้นกำเนิดนิวตรอนนี้จะอยู่ตรงกลางของพลูโตเนียมทรงกลม และแผ่นฟอยด์นั้นจะฉีกขาดเมื่อมวลใต้วิกฤตถูกแรงระเบิดบีบอัดให้เป็นมวลเหนือวิกฤต ในการออกแบบระเบิดนิวเคลียร์แบบ Implosion ให้มีแรงระเบิดมากที่สุด ส่วนหนึ่งคือต้องออกแบบให้มีการปลดปล่อยนิวตรอนเมื่อมวลเหนือวิกฤติถูกบีบอัดให้มีความหนาแน่นสูงที่สุด
เมื่อความหนาแน่นของฟิชชั่นเรามากถึงปริมาณหนึ่งๆ ก็จะเกินขีดจำกัดทางอารมณ์
แผ่นฟอยด์ความอดทนจะฉีกขาด ณ เวลานั้น ระเบิดได้ถูกปลดปล่อยออกมา
ระเบิดใจลูกนี้ส่งผลต่อชีวิตของเจ้าของหัวใจ 2 แบบ
ถ้าโชคดี: ในที่สุด ผลิตผลฟิชชั่นก็หมดหายไปจากใจเสียที ได้เวลากอบกู้ความเสียหายแล้วเริ่มต้นใหม่
กับหัวใจที่ว่างเปล่าดวงนี้ เราจะตั้งต้นสร้างแต่ผลิตผลที่ดีให้กับมัน
หรือถ้าโชคร้าย: ความเสียหายบางอย่างมันมากเกินจะกอบกู้ ยิ่งไปกว่านั้นแรงระเบิดกระทบไปถึงส่วนอื่นๆ
เค้ากลับมายืนหยัดเป็นคนเข้มแข็งไม่ได้อีกแล้ว กลายเป็นแค่คนบ้าคนหนึ่งที่อาจจะไม่สนใจโลกอีกต่อไปหรือหวาดระแวงกับทุกอย่างที่เข้ามา
สุดท้ายพื้นที่แห่งนี้จะโดนล็อคกุญแจปิดกั้นสารตั้งต้นจากทุกเรื่องราวของชีวิต
ราวกับว่าหัวใจของเขาไม่สามารถทำปฏิกิริยาอะไรได้อีกต่อไป
จิตใจของเค้ากลายเป็นแค่ก๊าซเฉื่อยที่ล่องลอย
แล้วคุณล่ะ สุขภาพใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ทุกวันนี้คุณสร้างผลิตผลที่ดีให้กับตัวเองหรือกำลังสร้างฟิชชั่นไว้ข้างในกันแน่
ในอนาคตข้างหน้า เราไม่สามารถควบคุมสารเคมีที่เข้ามาในชีวิตเราได้ แต่เราเปลี่ยนสารตั้งต้นในใจเราได้
ถ้าบางเรื่องมันหนักหนาเกินไปก็ปล่อยออกมาบ้าง อย่าเก็บสะสมไว้ในใจเลย
เราไม่จำเป็นต้องแสดงความเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา
การยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง... คือความเข้มแข็งที่แท้จริง
ขอขอบคุณ
อาจารย์ดุลยพงศ์ วงศ์แสวง
ภาควิชานิวเคลียร์และรังสี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับข้อมูลทางเทคโนโลยีนิวเคลียร์
( เครดิตภาพ :ภาพปก โดยผู้เขียน / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 )
ความคิดเห็น






