คุณเป็นอย่างไร เมื่อวันที่ฝนตก

    โลกใบใหญ่ของเรา  ได้หมุนรอบตัวเอง หมุนรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนผ่านอยู่ตลอดเวลา มีทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน ประเทศไทยของเราตั้งอยู่ในจุดที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้เรามีแค่สองฤดูที่เห็นได้ชัดคือ ฤดูฝน และ ฤดูร้อน ส่วนฤดูหนาวจะมีให้เห็นให้รู้สึกได้ก็บริเวณ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางแห่งเท่านั้น 

     บทความนี้ผู้เขียนจะกล่าวถึง ฤดูฝน สิ่งที่แสดงความเป็นฤดูฝนที่ชัดเจนที่สุดคือ หยดน้ำที่ตกมาจากฟากฟ้า จะมากจะน้อย จะหนักจะเบา ก็อยู่ที่ภูมิศาสตร์ และภูมิอากาศในขณะนั้น และเมื่อฝนตกลงมาแล้ว ได้มีผลกระทบต่อ อารมณ์ ความรู้สึก และสภาพแวดล้อม รอบตัวเราอย่างไร ลองอ่านกันดูน่ะครับ

ความรู้สึก เมื่อฝนตกลง ความรู้สึกแรกที่ได้รับ หยดน้ำที่มากระทบลงบนตัวเรา จากเบาๆจนหนักขึ้น ร่างกายเราก็จะวิ่งไปหาที่หลบฝนเพื่อไม่ให้ร่างกายเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน สำหรับคนที่อยู่ในบ้านหรือตัวอาคาร ก็จะไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น รู้สึกแค่มองเห็น อ๋อ ! นั้นฝนตกอีกแล้ว แล้วก็ทำสิ่งที่ตะเองทำอยู่ต่อไป ส่วนพวกที่ชอบท่องเที่ยวในป่า ก็จะได้รับความรับรู้ถึงเสียงฝนกระทบผ้าใบกลบเสียงอื่น ๆ ในป่าทั้งหมด ช่างเป็นเสียงที่ได้ยินครั้งแรก จะรำคาญ พอฟังไปสักพัก จะเป็นเสียงที่ไพเราะที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ เคยเป็นไหม เวลาจะนอนแล้วเปิดเสียงฝนตกฟัง นั้นแหละ ไพเราะแบบนั้นเลย และจะมีอีกประเภทหนึ่ง ประเภทนี้น่าสงสารที่ พวกเค้าจะเดินตากฝน ไม่ยินดียินร้าย ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง บางคนก็แค่ไม่มีร่ม แต่บางคนอาจจะพบเจออะไรที่หนักหนาสาหัส จนไม่ยินดียินร้ายไม่สนใจว่าจะเปียกปอนขนาดไหน ปล่อยให้ฝนที่ตกชำระล้างร่างกาย ช่วยบรรเทาจิตใจที่หมองเศร้าของตน แล้วคุณล่ะเคยพบเจอแบบไหนกันมาบ้างครับ

     สภาพเเวดล้อม และแล้ว ฝนตกลงมาค่อย ๆ ซาลงแล้วก็หยุดลงในที่สุด มองไปรอบ ๆ ก็จะเห็นร่องรอยของฝนที่ผ่านไป น้ำเจิ่งนองไปทั่วพื้นที่ ถ้าในเมืองบางจุดก็จะท่วมขัง เป็นมวลน้ำรอการระบาย พื้นที่ป่า ต้นไม้ ใบหญ้า ดูชุ่มชื่น หญ้าเขียวขจี เริ่มมีแสงแดดอ่อน ดูแล้วสดใส ทำให้รู้สึกดียิ่งนัก คนที่หลบฝนแล้วหดหู่ก็จะออกจากจุดนั้น มุ่งหน้าไปสู่จุดหมายของตัวเองต่อไป คนที่นั่งมองสายฝนก็ตื่นจากภวังค์ ไปทำกิจธุระของตนต่อ คนที่อยู่ในป่าก็ตื่นนอนจากฝันหวาน ไปชื่นชมธรรมชาติรอบตัว  ส่วนคนที่เศร้าหมอง ก็ได้เริ่มต้นใหม่ และหลังจากนี้ เขาจะแข็งแกร่งกว่าเดิม

เมื่อวันที่ฝนตก ของทุกคนล่ะเป็นอย่างไร ชีวิตของคนเราเมื่อเจอกับปัญหาก็เหมือนวันที่ฝนตก

บางคนไม่ได้เตรียมตัวจะเจอกับปัญหาก็ต้องวิ่งหลบ ตั้งหลัก รับสภาพกับปัญหา รอให้ปัญหาผ่านไป ได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์แล้วก้าวต่อไป  

ส่วนคนที่ไม่เจอกับปัญหาโดยตรง ก็มองปัญหาด้วยความสนใจ เหมือนคนที่เคยผ่านปัญหาเหล่านั้นมาแล้ว หวนคิดไปถึงวันที่เจอปัญหาแล้วผ่านมาได้  มองดูว่าคนที่กำลังเผชิญอยู่จะผ่านไปได้ไหม 

และบางคนก็เตรียมตัวที่จะเจอปัญหา เมื่อได้เจอก็ตั้งหลัก เผชิญหน้า แล้วก็รอให้ผ่านไป  เพราะได้เตรียมตัว เตรียมวิธีแก้ปัญหาเหล่านั้นไว้ เมื่อปัญหา ผ่านไป เค้าก็แค่ออกมาชื่นชมตัวเอง ว่าแก้ปัญหาไปได้อีกครั้ง

ส่วนคนบางคน เจอปัญหาซ้ำซ้อน จนทำได้แค่อดทน อดทน ให้ผ่านไป ค่อย ๆ ซึมซับและเรียนรู้ในปัญหา จนในที่สุดก็แก้ปัญหาได้ แล้วกลายเป็นคนใหม่ที่มีประสบการณ์และแข็งแกร่งกว่าเดิม

สุดท้ายนี่ แค่จะบอกทุกคนว่า ทุกปัญหา มีทางออก มีวิธีแก้ที่แตกต่างกัน ขอให้ทุกคนใช้สติปัญญาที่มี แก้ปัญหา ใช้ความพยายาม ความอดทน แล้วก็ทุกคนก็จะผ่านไปได้ เหมือนที่หลาย ๆ คนบอก ฟ้าหลังฝน งดงามเสมอ

ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay

ภาพปก โดย เจ้าของบทความ

ภาพประกอบ 

ภาพที่ 1 โดย 12019 จาก pixabay

ภาพที่ 2 โดย Horacio30 จาก pixabay

ภาพที่ 3 โดย Alexanderphatp จาก pixabay

ภาพที่ 4 โดย  YourDSLRdotcom จาก pixabay

ภาพที่ 5 โดย เจ้าของบทความ

ภาพที่ 6 โดย เจ้าของบทความ

ภาพที่ 7 โดย kareni จาก pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !