จงเชื่อมั่นในเส้นทางวิ่ง ไม่น้อยกว่าที่เชื่อมั่นในพลังขาของตน

การลงมือทำสิ่งใดอย่างเต็มที่ให้ได้ผลดีดังที่คาดหวังนั้น "ความเชื่อมั่น" คือแรงผลักดันที่สำคัญประการหนึ่งที่จะช่วยให้ขับเคลื่อนไปสู่การบรรลุเป้าหมายได้

แต่คงเป็นที่น่าเสียดาย หากมีสถานการณ์ใดที่ลดทอนความเชื่อมั่นลง ทำให้เราไม่กล้าทุ่มเทอย่างเต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น

ถ้าเป็นการขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ก็อาจจะปลุกพลังในตัวตนขึ้นมาได้ เช่น หาแรงบันดาลใจ หรือพัฒนาศัพยภาพตัวเองให้เก่งขึ้น  แต่ถ้าเป็นการขาดความเชื่อมั่นในสิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยภายนอกที่เราไม่อาจควบคุมหรือกำหนดได้ ก็คงไม่ง่ายนักในการเรียกความเชื่อมั่นนั้นกลับมา

หลายคนเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง ว่าหากลงมือทำจริง ๆ แล้ว เราทำได้ !! แต่ไม่กล้าลงมือทำเต็มที่ เพราะขาดความเชื่อมั่นในพื้นที่ปฏิบัติการ ว่าหากทำไปแล้วจะเกิดผลมากน้อยเพียงใด

เหมือนพ่อค้าที่รู้ว่าตนมีสินค้าคุณภาพ แต่ไม่ทราบว่าตลาดจะรองรับได้มากแค่ไหน...เหมือนนักวิ่งที่รู้ดีว่าตนเองมีพลังพอที่จะวิ่งไปได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเส้นทางวิ่งข้างหน้าจะสวยงาม ปลอดภัย และควรค่าแก่การวิ่งไปหรือเปล่า...เหมือนคนขับรถที่มั่นใจในรถยนต์ของตน แต่ไม่กล้าขับไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะไม่รู้ว่าจะเจอทางตันหรือการจราจรติดขัดหรือไม่ เพียงใด...

ความกังวลแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ แต่มันก็รบกวนความเชื่อมั่นที่มี ทำให้รู้สึกได้ว่า  ความตั้งใจเกิดขึ้นไม่เต็มที่เท่าที่ควร

แต่ก็ยังตกลงใจที่จะลงมือทำ...

ซึ่งหลังจากที่ได้ลงมาสัมผัสกับบรรยากาศในสนามนี้และเพื่อนร่วมปฏิบัติการ ทำให้เมฆหมอกครึ้มแห่งความเคลือบแคลงที่ปกคลุมความเชื่อมั่นอยู่เริ่มค่อย ๆ  คลายตัว ด้วยความจริงในด้านต่าง ๆ ที่ปรากฎตัว

ความกังวลเรื่องมาตรฐานการพิจารณา ระยะเวลา และข้อจำกัดต่างๆ ถูกละลายไปด้วยบรรยากาศความเป็นกันเองของกองบรรณาธิการและทีมงานที่เกี่ยวข้อง  ในการประสานงานและให้คำแนะนำ ความรวดเร็วในการพิจารณา แจ้งผล และโอนเงินซึ่งอยู่ในระดับที่เป็นที่น่าพึงพอใจ  อีกทั้งผลงานที่ได้รับการพิจารณาเผยแพร่  ทั้งของผมและนักเขียนท่านอื่น ๆ ที่ทำให้เห็นได้ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนมืออาชีพที่ฝีมือเก่งกาจ ขอเพียงมีความตั้งใจและทำตามกติกา ที่ก็ไม่ได้มีความจุกจิกหรือยิบย่อยเกินไป ผลงานที่ส่งก็มีโอกาสผ่านการพิจารณาไม่ยากอย่างที่คิด

ความกังวลในเรื่องข้อจำกัดผลงานที่ส่งเข้าการพิจารณาก็แทบจะไม่เหลืออยู่ เมื่อมองเห็นความหลากหลายของผลงานที่ได้รับการอนุมัติเผยแพร่ และยิ่งเห็นตัวอย่างเพื่อน (พี่) นักเขียนบางท่านที่ตั้งใจส่งผลงานเข้ารับการพิจารณาเป็นจำนวนหลายเรื่อง และประสบความสำเร็จในการได้รับอนุมัติเผยแพร่ อย่างพี่คนหนึ่งส่งผลงานในสัปดาห์แรกก็ทำรายได้ถึง 1,500 บาท ซึ่งทำให้ผมรู้สึกทึ่ง และถือเป็นแรงบันดาลใจอีกคนหนึ่ง

                                                              ( ภาพจากโพสต์ในกลุ่ม True ID In - Trend Creator )

แม้แต่ข้อเคลือบแคลงเรื่องความยาวนานของช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้โลดแล่นบนสนามนี้  ซึ่งตอนแรกคาดการณ์เอาเองว่าอาจจะเป็นระยะเวลาไม่นานนัก  แต่เมื่อประเมินจากหลาย ๆ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งผลงานเข้าพิจารณาของที่นี่ ก็ทำให้เริ่มเชื่อว่าน่าจะเป็นกิจกรรมที่คงอยู่นานกว่าที่สันนิษฐานไว้ตอนแรก 

อย่างเมื่อไม่กี่วันก่อน  ทรูไอดีอินเทรนด์ประกาศผลการคัดเลือกนักเขียนเข้าร่วม Workshop ซึ่งผมแอบเข้าไปส่องดูรายละเอียดของกิจกรรม (ด้วยความรู้สึกพลอยตื่นเต้นราวกับตัวเองผ่านการคัดเลือกด้วย อิอิ) แล้วเห็นเนื้อหาระบุสิทธิพิเศษของผู้ที่ผ่านการ Workshop ครั้งนี้ ว่าจะได้รับการการันตีคุณภาพของบทความและได้รับค่าตอบแทนอัตราพิเศษเรื่องละ 300 บาท (จากอัตราปกติเรื่องละ 100 บาท) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งนั่นก็บ่งบอกว่า  ระยะเวลาที่เปิดรับบทความยังอีกนาน อย่างน้อยก็ไม่ปิดรับก่อน 3 เดือนนี้แน่ ฮ่า!

                                                           (ภาพจากเว็บไซต์ True ID)

เมื่อม่านหมอกแห่งความเคลือบแคลงและกังวลจางลง  แสงแห่งความเชื่อมั่น ขวัญและกำลังใจก็ฉายเข้ามาอีกครั้ง  ผมกลับมามีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเพื่อเข้ารับการพิจารณาจากทรูไอดีอินเทรนด์  และรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นตามระดับความเชื่อมั่นที่กลับคืนมา  นั่นเองทำให้ผมตระหนักถึงความจริงเกี่ยวกับความเชื่อมั่น ที่ว่า นอกจากจะเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว ก็ควรต้องเชื่อมั่นในเส้นทางที่เลือกจะก้าวไปด้วย

แต่ที่สำคัญที่สุด เมื่อมีความเชื่อมั่นแล้ว ต้องก้าวออกไปด้วยนะ เพราะความสำเร็จคงไม่เป็นฝ่ายวิ่งเข้ามาหาเราแน่!!

ขอบคุณภาพปกบทความ โดย composita จาก Pixabay