อื่นๆ
จอมปลวก เจ้าที่

หากนิยาม คำว่า "จอมปลวก" ความหมายของมันคือ รังปลวกขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นกองดินสูงเป็นจอมขึ้นไป แต่จะใครรู้บ้าง ว่าแท้จริงแล้วภายในมันซ่อนอะไรอยู่ นอกจากปลวกที่สร้างรังขึ้นมาเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของคุณแม่ และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นาน โดยส่วนตัวเป็นคนไม่เชื่ออะไรพวกนี้ แต่หลังจากที่เกิดเรื่องกับคุณแม่ขึ้น ทำให้คิดได้ว่า ของแบบนี้ยังมีอยู่จริง
พ่อและแม่มีอาชีพตัดกล้วยตามสวนส่งให้ฟาร์มช้าง เกือบทุกวันที่พ่อกับแม่ต้องตะเวนไปตามสวนต่าง ๆ เพื่อตัดกล้วยและเอามาชำแหละ มีอยู่วันหนึ่ง ทั้งสองคนได้เข้าไปตัดกล้วยในสวนที่เป็นป่าช้าฝังศพของคนคริสต์ แม่เล่าให้ฟังว่ามันวังเวง เงียบสงัด ทั้งที่เป็นกลางวันแสก ๆ และมีบ้านร้างหลังหนึ่ง แม่ได้ยกมือขึ้นไหว้ บอกเจ้าที่เจ้าทางว่า วันนี้ลูกมาตัดกล้วย ลูกมาทำมาหากิน ขอให้เจ้าที่เจ้าทางรับทราบ
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Pixabay
หลังจากนั้น 2 วัน ที่แม่ไปตัดกล้วยในป่าช้าฝังศพ แม่เริ่มมีอาการปวดขา ปวดสะบ้าหัวเข่า และน่องด้านหลังบวมมาก จากคนที่เดินได้กระชับ กลายเป็นคนที่ต้องเดิน ขากระเผลก และนอนไม่หลับเนื่องจากอาการปวดต่าง ๆ สังเกตได้เลยว่าแม่เดินไม่เหมือนเดิม และไม่สามารถเดินเร็วแบบคนทั่วไปได้อีก การทำงานทุกอย่างของแม่ช้าลง แม่ก็ได้แต่คิดว่า อาการที่เป็นเกิดจากการทำงานหนัก แม่ได้ไปซื้อยาคลายกล้ามเนื้อมาทานตามคำสั่งของเภสัชกร เภสัชบอกกับแม่ว่า คุณป้า อาการแบบนี้เกิดจากอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ต่อไปนี้คุณป้าอย่าทำงานหนัก ให้หยุดยาวไปเลย
ภาพโดย Pixabay
แม่ได้ทำตามคำสั่งของเภสัชกรอย่างเคร่งครัด และไม่ได้ทำงานหนัก ปล่อยให้พ่อเป็นคนไปทำแทน จนเวลาผ่านไปเป็นเดือนอาการต่าง ๆ ก็ยังไม่ดีขึ้น จนแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และได้ยามาทาน และได้ทำกายภาพบำบัด คุณหมอยังบอกกับแม่เหมือนที่เภสัชกรวินิจฉัย ว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบเกิดจากการทำงานหนัก จนเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ นานเกือบสองเดือน อาการของแม่ก็ยังไม่หายแต่จะทุเลาลงเพราะได้ยาจากโรงพยาบาลมาทานควบคู่กันไป จนแม่ถอดใจ และคิดว่าจะเข้ามาพบหมอกระดูกเฉพาะทางที่ศิริราช พวกเราลูก ๆ ก็เห็นด้วย
Advertisement
Advertisement
แม่เริ่มพักอยู่บ้านนานจึงตามพ่อออกไปที่สวน และเจอชาวสวนที่ตัดกล้วยท่านหนึ่ง เห็นอาการของแม่ แม่จึงเล่าให้คนสวนท่านนั้นฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แม่ไม่ได้คิดถึงเรื่องไสยศาสตร์เลย แม่แค่คิดว่าทำงานหนัก กล้ามเนื้ออักเสบเท่านั้น ชาวสวนท่านนั้นแนะนำแม่ให้ไปนวดจับเส้น แนะนำหมอนวดท่านหนึ่งให้แม่มา หลังจากวันนั้นพ่อจึงพาแม่ไปตามคำที่ชาวสวนท่านนั้นแนะนำ ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว
ทันทีที่ไปถึงบ้านคนนวด ต้องบอกก่อนเลยว่า คนนวดท่านนี้เหมือนจะมีองค์ แต่ไม่เชิงจะดูดวง หรือ ทำนายอะไร อาชีพของเขาคือ นวด จับเส้นเท่านั้น ไม่มีพิธี ไม่มีเข้าทรง ไม่มีบูชาอะไรทั้งนั้น "อาการนี้โดนของมา เป็นจอมปลวกเจ้าที่" เป็นคำพูดที่หมอนวดเป็นคนพูดกับแม่ขณะที่กำลังนวดแม่อยู่ พ่อกับแม่ได้ฟังก็ถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าสมัยนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่ หลังจากที่นวดไปและพูดคุยกันไป คนนวดถามแม่ว่า ให้คิดให้ดีว่าไปตัดกล้วยที่สวนไหนมาบ้างที่มีจอมปลวก แม่คิดขึ้นมาได้เลยว่าน่าจะเป็นสวนที่เป็นป่าช้าฝังศพของคนคริสต์ เพราะเป็นสวนแห่งเดียวที่แม่มีความรู้สึกวังเวงที่สุด คนนวดแนะนำให้แม่นำน้ำเปล่า พวงมาลัย และไปเดินตามหาจอมปลวกเจ้าที่ให้เจอ และขอขมาท่านหากเราได้มารบกวน ให้ไปวันพระเจ้าที่จะรับรู้ได้ทันที และไปก่อนตะวันตกดิน หากได้ทำพิธีนี้แล้ว อาการที่เป็นอยู่จะหายทันที หมอนวดย้ำแล้วย้ำอีก ว่าจะหายทันที
Advertisement
Advertisement
ภาพโดย Pixabay
โชคดีที่วันนั้นเป็นวันพระพอดี พ่อและแม่ได้เตรียม น้ำเปล่าและพวงมาลัย เพื่อไปขอขมาจอมปลวกเจ้าที่ ทั้งสองคนไปถึงที่สวนป่าช้านั้นประมาณ 14.00 น. พ่อและแม่ช่วยกันเดินตามหากองจอมปลวก หาแล้ว หาเล่า จนคิดว่าไม่เจอแล้ว เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง "แม่มึง แม่มึง มาดูอะไรนี่" สิ่งที่พ่อเรียกแม่ไปดูคือกองจอมปลวกขนาดไม่ได้สูงมาก หลบอยู่ที่หลังต้นกล้วยที่พ่อและแม่ไปตัด หากไม่เดินตั้งใจหา จะไม่มีทางเห็นแน่นอน แม่รีบทำพิธีตามที่หมอนวดแนะนำ เปิดขวดน้ำ หาที่แขวนพวงมาลัย และทำพิธีขอขมาหากทั้งสองได้มาทำอะไรให้เจ้าที่เจ้าทางไม่พอใจ จนเวลา 16.00 น. พ่อและแม่ก็กลับถึงบ้านด้วยความรู้สึกโล่งใจ
หลังจากนั้นเพียงแค่วันเดียว อาการปวดขา ปวดสะบ้าหัวเข่าของแม่ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าตกใจ อาการน่องบวมของแม่ก็ไม่บวมเหมือนตอนแรกที่เป็น แม่นอนหลับได้สนิท หลังจากที่พยายามทำมาทุกอย่าง ไปหาหมอ จนเราคิดว่าทางเลือกสุดท้ายคือหมอกระดูกเฉพาะทาง ตอนนี้แม่หายเป็นปรกติแล้ว อาจมีปวดขา ปวดเข่าบ้างตามประสาคนแก่ที่ทำงานหนัก แต่แม่สามารถเดินได้กระฉับกระเฉงเหมือนเดิม และไม่ทรมานเหมือนที่ผ่านมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทั้งที่พ่อกับแม่ไปด้วยกัน แต่ทำไมแม่มีอาการแค่คนเดียว สิ่งนี้ทำให้เชื่อว่า "ลมเพลมพัด" และ "เจ้าที่เจ้าทาง" ยังมีอยู่จริง
ความคิดเห็น






