เพลง
จีมิน BTS ปล่อยเพลงใหม่ Set Me Free Pt.2 เพลงแห่งการปลดปล่อยและเป็นอิสระ

ทยอยมีผลงานโซโล่เดี่ยวกันออกมาเรื่อย ๆ เลยค่ะ สำหรับหนุ่ม ๆ ไอดอลระดับโลกอย่าง BTS และล่าสุดก็ถึงคิวของพัคจีมินหรือลูกเจี๊ยบของเหล่า Army ที่ในที่สุดก็ได้ปล่อย Pre- release Track พร้อม MV สุดเร่าร้อน ออกมาเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเพลงนี้มีชื่อว่า 'Set Me Free Pt.2' โดยจะบรรจุอยู่ในอัลบั้มเต็มที่มีชื่อว่า FACE ความรู้สึกหลังดู MV ขอบอกเลยว่าจีมินควรไว้ชีวิต Army สักนิดเถอะค่ะ ความตัวพ่อ ตัวบิดา ตัวฟาร์เธอร์นั้ เสียงร้อง ท่าเต้น แฟชั่น สายตา OMG เรื่องราวเยอะไปหมด เรามาดูกันค่ะว่าความเดือดของนายปาร์คเค้าจะไปสุดตรงไหน
สังเกตไหมคะว่าเพลงนี้ใช้ชื่อว่า Set Me Free Pt.2 แต่ไหนล่ะ Pt.1?
ย้อนกลับไปในปี 2020 SUGA หรือ Agust D เพื่อนร่วมวง BTS ได้ออกมิกซ์เทปที่มีชื่อเพลงว่า Set Me Free มาก่อน โดยเนื้อหาในเพลงจะเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในอดีต แต่ Set Me Free Pt.2 ของจีมินจะเล่าถึงการก้าวข้ามความรู้สึกต่าง ๆ เพื่อไปเดินข้างหน้า โดยจีมินเล่าว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจให้ทั้งสองเพลงเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกัน แต่มีความคิดว่าคงจะดีถ้าเพลงนี้ได้เป็นภาคต่อหรือเรื่องราวหลังจาก Set Me Free ของ Agust D
Advertisement
Advertisement
เนื้อหาของเพลง-คำร้อง-ทำนอง
เนื้อหาของเพลงนี้บอกเล่าถึงการหลุดพ้นจากเขาวงกตแห่งความรู้สึกในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเจ็บปวด ความว่างเปล่า รวมไปถึงช่วงเวลาที่ถูกเย้ยหยันและเกลียดชัง 'Set Me Free' คือ ช่วงเวลาแห่งการถูกปลดปล่อยสู่อิสระ ทว่าคนที่จะปลดปล่อยตัวเขาได้ดีที่สุด นั่นก็คือตัวเขาเอง
เนื้อเพลงมีการใช้คำที่ตรงไปตรงมาและดุดัน แม้บุคลิกของจีมินจะออกไปทางอ่อนโยน แต่คำที่ใช้สื่อสารในเพลงมีความตรงไปตรงมาอย่างมาก ทำให้รู้สึกได้ว่ามาจากข้างในของเขาที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน จากความเจ็บปวดก็นำไปสู่การกล้าที่จะก้าวข้ามคนที่เกลียดชัง (..Hey fool just get out of my way shut up f*** off..) โดยมีท่อนจำและนับว่าเป็นธีมหลักของเพลงคือ Set me free ที่มีการร้องซ้ำไปมาด้วยช่องเสียงที่จดจำได้ง่ายกว่าท่อนอื่น ๆ ติดหูได้ไม่ยากแม้ฟังครั้งแรก
Advertisement
Advertisement
สำหรับทำนองและจังหวะของ Set Me Free Pt.2 นั้น สร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนคลับด้อมสีม่วงไม่น้อยเลยค่ะ เมื่อเพลงนี้มาในฮิปฮอป แบบที่เราแทบไม่เคยเห็นจีมินในเวอร์ชั่นนี้มาก่อน ช่องเสียงที่ใช้ร้องเต็มไปด้วยความหลากหลาย บางท่อนก็ยังไม่เคยเห็นจากเพลงของ BTS มีการสลับเสียงสูง-ต่ำไปมาอย่างรวดเร็ว (ใครจะร้อง cover ตามก็เหน่อยนะคะ) มีการใช้ออโต้จูนและเพิ่มเสียงจากนักร้องประสานเสียงในบางท่อนด้วย ถ้าใครติดตาม BTS หลังจากฟังเพลงนี้แล้วก็อาจจะรู้สึกคุ้น ๆ ว่าเพลงนี้มันมีความคล้ายกับเพลงอะไรสักเพลงใช่ไหมละคะ และใช่ค่ะ Vibe และซาวนด์ดนตรีของเพลงนี้มีความคล้ายกับเพลง ON ที่อยู่ในอัลบั้ม MAP OF THE SOUL: 7 ให้ความรู้สึกฮึกเหิม ปลุกใจและปลดปล่อยตัวเองจากบางสิ่งบางอย่างคล้าย ๆ กัน อาร์มี่บางท่านก็บอกว่ายังรู้สึกถึงกลิ่นอายของเพลง Black Swan ในเรื่องของการใช้เสียงแนวออโต้จูนอีกด้วย
Advertisement
Advertisement
ท่าเต้นและ Performance
อีกหนึ่งความไฟลุกของเพลงนี้ก็คือ ท่าเต้นและ Performance นี่ล่ะค่ะ มีการใช้แดนเซอร์จำนวนมาก ให้ความรู้สึกว่าเพลงเน้นย้ำในเรื่องของการสื่อสารความรู้สึกที่ปลดปล่อยสู่อิสระมากขึ้น ส่วนของท่าเต้นจีมินนั้น มีความแข็งแรงและชัดเจนในเรื่องของการจัดระเบียบร่างกาย ใช้ทุกส่วนของร่างกายสื่อสารออกมาได้อย่างพอดีตาม Mood ของเพลง สายตาสัมผัสได้ว่าสื่อถึงความแข็งกร้าว ดุดัน บางช่วงมีต้องส่งความรู้สึกกับทีมแดนเซอร์ก็ทำออกมาได้อย่างสมูท ในช่วงท้ายมีการยกตัวจีมินขึ้น เสมือนการปลดปล่อยและมีจังหวะปล่อยลงสู่พื้น เสมือนการสิ้นสุดอะไรบางอย่าง ปิดท้ายด้วยจีมินคนใหม่ที่ลุกขึ้นมา เสมือนการปลดปล่อยสำเร็จ กลายเป็นจีมินอีกคนที่มาพร้อมกับอิสระภาพอย่างแท้จริง
Music Video - Fashion Look
MV Set Me Free Pt.2 ให้ฟีลคล้าย Performance Video เลยค่ะ แต่พอกลับไปดูซ้ำ OMG เค้าแฝงสัญญะไว้ไม่น้อยเลยค่ะ เริ่มจากจีมินที่เดินออกมาจากหมู่แดนเซอร์จำนวนมาก ให้ความรู้สึกว่ากำลังเดินออกมาจากสิ่งที่กักขังเขาในแง่ของความรู้สึกตลอดมา ต่อมามีการแปรแถวคล้ายเกลียวพายุ (คล้ายกับรูปเลขหนึ่งไทยค่ะ) นั่นอาจหมายถึงเขาวงกตของความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน การทำสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากนั้นมีการเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วของทั้งจีมินและแดนเซอร์ เหมือนกำลังออกจากความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่ถาโถมเรื่อยมา เข้าสู่ครึ่งหลังบอกเลยว่าอาร์มี่สู่ขิตกันเป็นแถบ ๆ เลยค่ะ คุณเค้าเล่นถอดเสื้อขนาดนี้ สังเกตไหมละคะว่ามีตัวอักษรอยู่บนตัวจีมินด้วย ประโยคเหล่านี้มาจากบทกวีภาษาเยอรมนีของคุณ Rainer Maria Rilke ในปี 1899 ความหมายคือ "ฉันใช้ชีวิตในแวดวงที่กำลังรุ่งเรือง รอบตัวฉันดังก้องไปทั่วทุกสรรพสิ่งสุดท้ายแล้ว บางทีฉันอาจจะไม่เคยสิ้นสุด แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันจะพยายามต่อไป" จังหวะของเพลงมีความดึดันขึ้นในช่วงหลัง การเล่าเรื่องก็ดุดันขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ การดับไฟเป็นช็อต ๆ เพื่อเข้าสู่พาร์ทนี้ ช่วยดึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เมื่อไฟเปิดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้รู้สึกว่าจีมินไม่สนอะไรแล้ว จะความเกลียดชังหรือความเจ็บปวดไหน ๆ ก็หยุดเค้าไม่ได้ ปิดจบด้วยการยกตัวจีมินขึ้นสู่การปลดปล่อยอย่างแท้จริง เมื่อปล่อยลงสู่พื้นก็เหมือนกับการจบความรู้สึกทุกสิ่ง กลายเป็นจีมินคนใหม่ในชุดโทนสว่างขึ้นมาแทนที่ การลึกขึ้นมานี้ มองในอีกแง่หนึ่งคือการส่งต่อ Mood โทนสว่างนำไปสู่เพลงต่อไปก็ได้เช่นกันค่ะ
หนึ่งในสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ลุคทั้งสามของจีมินใน MV นี้
เมนหลักของลุคใน MV คือ All Black สุดแสนจะกร้าวใจ เสื้อหนังตัวนอกที่เหมือนเกิดมาเพื่อจีมิน เสื้อกล้ามตัวในที่มีการแต่งให้เว้าด้านขวาเหนือช่วงเอว เผยให้เห็นรอยสัก NEVER MIND ท่อนล่างสวมกางเกงขายาว แต่งกระเป๋าข้างและซิปเพิ่มความเท่บวกดุดันไปในตัว รองเท้าสวมเป็นบูทหุ้มข้อ เสริมส้นเล็กน้อย ส่วนลุคที่สองในช่วงครึ่งหลังของ MV ก็คือลุคที่ถอดเสื้อเผยให้เห็นบทกวีบนร่างกายนั่นเองค่ะ ปิดท้ายด้วยลุคพ่อหนุ่มโทนสว่างในช่วงท้ายของ MV จีมินสวมชุดทั้งท่อนบนล่างเป็นสีขาว เสื้อแนวถักไหมพรม เว้าช่วงใต้ท้ายทอย เผยให้เห็นรอยสักพระจันทร์เสี้ยว อาร์มี่คนไหนบ่นอยากเห็นรอยสักของจีมิน MV ก็ได้เห็นแล้วนะคะ
ถ้าถามว่าเพลงนี้ประสบความสำเร็จในเรื่องของการจดจำหรือติดหูในทันทีหรือไม่นั้น เราว่าอาจมีเพลงที่ติดหูกว่านี้ในซิงเกิ้ลต่อ ๆ ไปค่ะ เหตุผลเพราะว่าเพลงนี้เป็น Pre-release Track ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นการโหมโรง เพิ่มความน่าติดตามไปยังเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม FACE แต่ไม่ถึงขั้นว่าเพลงนี้แย่อะไรเลยค่ะ ออกไปทางประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ เป็นเพลงที่สามารถฟังได้เรื่อย ๆ แม้ว่าสิ่งแรกที่นึกถึงอาจเป็นในของเรื่อง Performance มากกว่า
สถิติของ Set Me Free Pt. 2
ที่บอกว่าเพลงนี้ประสบความสำเร็จไม่เกินจริงเลยค่ะ สถิติไม่เคยโกหกใครและด้านล่างนี้คือสิ่งที่จีมิน แห่ง BTS ทำได้ (รวบรวมเมื่อ 19 มีนาคม 2023)
- ยอดวิวบน Youtube ทะลุ 1 ล้านใน 14 นาทีหลังจากปล่อยเพลง
- ขึ้นอันดับ 1 บน iTunes ใน 110 ประเทศทั่วโลก โดยใช้เวลา 10 ชั่วโมงหลังจากปล่อยเพลง ทุบสถิติขึ้น #1 รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
- Top Artist Global อันดับที่ 69 บน Spotify ทุบสถิติตัวเองที่เคยทำได้
- Daily Top Song บน Spotify Thailand อันดับที่ 1 (19 มีนาคม 2023)
**ลำดับบางอย่างมีการเปลี่ยนแปลงรายวันนะคะ**
ก่อน 6 หนุ่มจะเข้ากรมไปรับใช้ชาติตามพี่ใหญ่อย่างคิมซอกจิน เค้าก็ขยันปล่อยผลงานออกมาเรื่อย ๆ ไม่มีพื้นที่ให้อาร์มี่ได้เหงาเลยค่ะ คิมนัมจุน(RM) กับอัลบั้ม INDIGO, SUGA ที่กำลังจะมีเวิลด์ทัวร์ พร้อมการทำรายการ SUCHWITA, J-hope กับอัลบั้ม Jack in the Box, จีมินกับอัลบั้ม FACE, V กับการร่วมรายการเปิดร้านอาหาร Jinny's Kitchen และหนุ่มมังเน่ทองคำ จอนจองกุกที่แม้จะยังไม่มีผลงานอย่างเป็นทางการ แต่ก็ขยันมาไลฟ์กับอาร์มี่ ซึ่งเป็นตำนานในทุกครั้งที่ไลฟ์ ทั้งเปิดมินิคอนเสิร์ตยันหว่างหรือนอนกรนให้อาร์มี่กว่า 14 ล้านคนฟัง ส่วนพี่จิน แม้จะเข้ากรมไปแล้ว แต่ก็ยังถ่ายคลิปไว้ล่วงหน้า เพื่อมาทักทายชาวอาร์มี่ในทุกเดือน
ไปค่ะเราไปฟัง Set Me Free Pt.2 กัน
ช่องทางรับฟัง Set Me Free Pt.2 - JIMIN
ภาพปก ภาพ1ภาพ2,3 (พื้นหลัง) จาก IG : bts.bighitofficial
ภาพประกอบ1(คลิปวีดีโอ) จาก Youtube : HYBE LABELS
ภาพประกอบ2(คลิปวีดีโอ) จาก Youtube : BANGTANTV
เกาะเทรนด์เพลงใหม่ เพลงฮิต คุยได้ไม่รู้จบ ที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้
ความคิดเห็น






