อื่นๆ
“ฉันเป็นของเธอ เธอเป็นของฉัน เราเป็นของกันและกัน-จริงหรือ?”

เรียนตามตรงผมไม่ได้ตั้งใจจะเขียนบทความเรื่องนี้ จนกระทั่งเพิ่งมานึกออกตอนอาบน้ำ หลายคนมักเกิดไอเดียใหม่ ๆ เมื่อสมองโล่ง เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่ากลัวว่าน้ำจะเยอะเกินไป
เมื่อมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้สมองในการขับเคลื่อนชีวิต และใช้หัวใจในการรับรู้ความรู้สึก (สุข-ทุกข์) แม้ว่าจะมีคนค้าน ว่า "สมอง" ต่างหาก ที่เป็นอวัยวะที่บอกว่าเจ็บ ปวด เศร้า เสียใจ ฯลฯ ...
ยามแรกรัก น้ำต้มผักยังหวาน
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า “ยามแรกรัก น้ำต้มผักยังหวาน” แถมอีกคำที่คุ้น ๆ คือ “เราเป็นของกันและกัน เธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ จริง ๆ แล้วการแสดงความเป็นเจ้าของ ผมว่ามันก็เรื่องสมมติหรือไม่? เพราะขนาดตัวเราเองยังกะเกณฑ์อะไรไม่ได้มาก นับประสาอะไรกับชีวิตคนอื่น ที่ไม่มีหลักประกันว่าจะไม่เป็นอื่น (ใช่ป่ะ?)
Advertisement
Advertisement
เราเป็นของกันและกัน
แต่ในทางกลับกัน ความรัก มันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะไม่ใช่แค่เงินไปใจมาก็จบ แม้บางท่านจะเถียงว่ามีบางคนความรักก็ซื้อได้ ใช่ครับ! บางคน ไม่ใช่ทุกคน ดังนั้น จึงไม่ใช่สูตรตายตัวที่ทุกความรักจะซื้อได้ด้วยเงินเสมอไป มิฉะนั้น คนรวยย่อมเข้าถึงความรักได้ง่ายกว่าคนจน หรือคนจนนี่แทบไม่มีสิทธิ์เลยหรือ? ส่วนตัวผมคิดว่าไม่ใช่ แต่ผมมองว่า “ความรวย-จน”เป็นเพียงสิ่งชักนำให้ความรักทำงานเท่านั้น ดังนั้น เจ้าชายผู้สูงศักดิ์ กับนางเองผู้ต่ำต้อย เห็นทีจะมีแต่ในละคร เพราะมองอย่างผิวเผินแค่วิถีชีวิตก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน จะเอาเวลาว่างช่วงไหนไปเจอกัน (?) เมื่อความรักบังเกิด การแสดงความเป็นเจ้าของย่อมเกิด (ไม่แปลก) แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก แม้พวกเราจะชินก็ตาม แท้จริงแล้วความสัมพันธ์ที่ดีมันย่อมผูกด้วย "ความซื่อสัตย์" โดยดูจาก สถานการณ์ที่คิดจะเป็นอื่น แต่ไม่เป็นอื่นนี่แหล่ะ มิใช่ว่าไม่เคยมีประวัติเจ้าชู้ = ซื่อสัตย์ ถ้าคนมันจะมีคนอื่นก็ได้แต่ต้องปล่อยหรือไม่ครับ เพราะคนจะไปรั้งอย่างไรก็เอาไม่อยู่ ถามจริง 'ถ้ากอดกันแน่นแต่ใจไปไหนแล้ว' อุ่นหรือครับ? สู้ถ้าเขาจะไป ทำได้ดีที่สุด คือ ปล่อยไป แล้วทำตัวเองให้มีค่าขึ้นจนเขาต้องนึกเสียดายที่ทิ้งเราไปดีกว่า ส่วนตัวนะครับ ถ้าจะต้องเลิกกันผมถือคติว่า จากกันด้วยสถานะที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ไม่เช่นนั้นจะเลิกทำไม (ถูกไหม?) ก่อนจะจบผมขอถามอีกครั้งว่า "ถ้าเราเป็นของกันและกันจริง" อะไรคือหลักประกันว่าจะรักกันไปตลอดรอดฝั่ง ระหว่าง "คำพูด" หรือ "การกระทำ"
Advertisement
Advertisement
ดังนั้น "ฉันเป็นของเธอ เธอเป็นของฉัน" ใคร ๆ ก็พูดได้ แต่ที่สำคัญ คือ การกระทำ! ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราจะไม่นอกกายนอกใจ ผ่านการกระทำไม่ใช่คำพูด
เงิน กับ ความรัก
ส่วนตัวผมว่าเรา ๆ ท่าน ๆ ไม่ผิด หากจะชินว่าคนรักเป็นของตัวเอง อาจจะเป็นเพราะสื่อหรือสิ่งแวดล้อมหล่อหลอมชุดความคิด / เชื่อ ดังกล่าวขึ้นมา
ไม่ยึดติด = สบายใจ
แต่ในหนทางพระพุทธศาสนา เราเชื่อกันว่า “ไม่มีอะไรเป็นของเราจริง ๆ" เพราะท้ายที่สุดเมื่อความตายมาเยือน ทรัพย์สมบัติ ความรักใด ๆ เราก็ยึดถือไปไม่ได้ เห็นจากการรดน้ำศพ ที่ศพมักจะคลายมือออกไม่ใช่กำมือให้รดน้ำ เมื่อใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง เราคงไม่มีความจำเป็นต้องยึดมั่นถือมั่นต่อไป เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้ผมไม่ได้พยายามบอกผู้อ่านว่าให้ครองโสด ไม่ใช่นะครับ ... แต่ผมแค่อยากจะเตือนคนที่กำลังมีความรักว่า อย่าพยายามไปคิดว่าคนรักเป็นของตัวเราเอง เพราะถึงคราวต้องจากกัน เราเองจะเจ็บเองเพราะมัวแต้ไปยึดโยงความเป็นเจ้าของในกันและกันไว้ แต่ความเป็นจริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะบทคนจะไป เอาช้างมาฉุดหรือแม้เราจะก้มลงไปกราบอย่างไร คงจะรั้งไว้ไม่ได้ เพราะเหตุผลง่าย ๆ ของการจากลา คือ “หมดรัก” ไม่ใช่สูญสิ้นความเป็นเจ้าของ
Advertisement
Advertisement
ดังนั้น เมื่อมีความรัก โปรดเตือนตัวเองว่า “คนข้าง ๆ” ไม่ใช่ของเราตลอดไป ถึงคราวใดที่ต้องจากกัน ก็จำต้องจาก ไม่มีหลัก กฎเกณฑ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดรั้งเอาไว้ได้ เพราะแท้จริงแล้ว ความรักมันไม่ใช่ทรัพย์สินของใครทั้งสิ้น ไม่จากเป็น (วันนี้) ก็จากตาย (วันหน้า) ดังนั้น เฝ้าถามตัวเองว่าสรุปแล้ว หัวใจเรายังเจ็บทุกครั้งเพราะเรามองความรักเป็นความสัมพันธ์ หรือทรัพย์สินกันแน่ แต่ผมยืนยันตรงนี้ในฐานะนักกฎหมาย เมื่อใดก็ตามที่ต้องสูญเสียคนเรารัก เราย่อมไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์ในตัวเขากลับมาได้ เพราะการที่เราจะรักใครนั้นไม่ใช่เอาเงินแลกใจ หรือใจแลกใจ แต่มันคือการยอมลดอิสรภาพ/เสรีภาพของกันและกัน เพื่อนำเสรีภาพดังกล่าวมาแชร์ร่วมกัน เมื่อวันหนึ่งที่เสรีภาพของเขาถูกนำไปให้กับคนอื่น ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตาม ปล่อยไปเถอะครับ คิดเสียว่าหมดกรรม เพราะถ้าได้เขา/เธอกลับมาแค่กาย แต่ใจไม่ได้กลับมา เรียกคืนเพื่ออะไร?
ท้ายนี้ผมฝากไว้ห้คิด 4 ประการ คือ
- 1. ทุกความผิดหวังจะทำให้เราโตขึ้น 1 ขั้นเสมอ
- 2. เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง (หาใช่หมูกระทะไม่)
- 3. ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ชีวิตเราต้องเดินต่อไป เพราะคนที่ใช่อาจรอเราอยู่เมื่อเวลามันใช่ Trust me! I am a lawyer!
- 4. ถ้าเปรียบความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ คือ การกอด คุณกอดคนรักแน่นไปหรือเปล่า?
กอดแน่นไปหรือเปล่า?
ขอบพระคุณ
ความคิดเห็น






