อื่นๆ

"ชีวิตอันผกผันจากพนักงานประจำ" สู่อาชีพฟรีแลนซ์

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"ชีวิตอันผกผันจากพนักงานประจำ" สู่อาชีพฟรีแลนซ์

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน คุณเคยประสบปัญหาจากที่เคยนั่งทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศ มีเงินเดือน ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่แล้ววันหนึ่งคุณโดนให้ออกจากงานเหมือนผู้เขียนไหมคะ วันนี้ผู้เขียนมาเล่าเรื่องราวประสบการณ์การทำงานของตัวผู้เขียนเองที่ผกผันและเปลี่ยนแปลงในแบบที่ไม่ทันตั้งตัว เมื่อย้อนเวลาไปประมาณ 4 ปีที่แล้ว ที่ผู้เขียนได้เรียนจบมาใหม่ ๆ ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนพอเรียนจบมาก็ได้งานทำเลย แถมอยู่ใกล้บ้านอีกด้วย และที่สำคัญเงินเดือนที่ได้รับในเเต่ละเดือนประมาณ 15,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเดือนที่มากพอสมควรที่จะสามารถเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ให้สุขสบายได้

พนักงานประจำ

ขอบคุณภาพปกจาก : freepik.com URL https://bit.ly/2PMTEou

แต่แล้วพอผู้เขียนได้ทำงานที่บริษัทแห่งนี้ไปประมาณ 3 ปี ผู้เขียนถูกปลดจากการเป็นพนักงานและบริษัทบังคับให้ผู้เขียนลาออก อันเนื่องมาจากพิษเศรษฐกิจและบริษัทไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และจะมีการปิดกิจการลง ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนแอบน้ำตาร่วงเหมือนกัน เพราะแต่ก่อนเคยมีงานประจำทำ อยากได้อะไรก็ซื้อ แต่พอตกงานทำให้ผู้เขียนขาดรายได้และรู้สึกเครียดอยู่เหมือนกัน แต่โชคยังดีที่คุณพ่อคุณแม่ของผู้เขียนคอยให้กำลังใจและให้ผู้เขียนอยู่บ้านและทำงานกับแม่ไปก่อน เนื่องจากแม่ของผู้เขียนเองทำงานเกี่ยวกับเขียนลายเบญจรงค์ ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็มีทักษะในการเขียนลายเบญจรงค์มาบ้างเลยช่วยคุณแม่ทำงานด้านนี้ไปก่อนสักพัก

Advertisement

Advertisement

พอหลังจากที่ผู้เขียนตกงานมาได้ประมาณ 6 เดือน ผู้เขียนได้พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับงานฟรีแลนด์ต่าง ๆ จนได้มาเจองานที่บริษัทแห่งหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับสื่อการเรียนการสอน ผู้เขียนเลยลองติดต่อไปที่บริษัทและรับงานมาทำดู ซึ่งทางบริษัทได้ให้ค่าตอบแทนเป็นรายชิ้นประมาณชิ้นละ 7,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นเงินที่มากพอสมควรในขณะที่ผู้เขียนกำลังตกงาน แล้วผู้เขียนก็ทำงานกับบริษัทนี้ไปเรื่อย ๆ บางเดือนก็ทำได้หนึ่งชิ้นบ้างสองชิ้นบ้างก็พอได้ใช้จ่ายในครอบครัวบ้าง

ชิ้นงานภาพจาก : กิตติยา สิงห์จันทร์ (ผู้เขียน)

เมื่อปี 2562 เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงของผู้เขียนมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะปี 62 เป็นปีที่ผู้เขียนได้เสียคุณพ่อไป โดยโรคหัวใจวาย จนทำให้ผู้เขียนต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวในการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เพราะตอนที่คุณพ่ออยู่นั้นผู้เขียนไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก เพราะมีคุณพ่อคอยจัดการในเรื่องเงินที่ใช้จ่ายในครอบครัวอยู่เสมอ พอผู้เขียนได้เสียคุณพ่อไป จึงทำให้ผู้เขียนพยายามหางานที่เป็นฟรีเเลนซฺ์ทำให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวีดีโอ การทำกราฟิก การวาดภาพ ขายของออนไลน์ รวมไปถึงการรับเขียนบทความด้วย เพื่อที่จะหาเงินมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผู้เขียนเองก็ไม่ได้ให้คุณแม่เขียนเบญจรงค์แล้ว เนื่องจากท่านมีอาการแพ้สีที่ใช้ทำเบญจรงค์เลยทำให้ต้องเลิกรับงานมาเขียนที่บ้าน

Advertisement

Advertisement

งานตัดต่อวีดีโอภาพจาก : กิตติยา สิงห์จันทร์ (ผู้เขียน)

ซึ่งผู้เขียนก็อยากฝากถึงคุณผู้อ่านไว้เตือนใจสักนิดว่าการที่เรามีงานประจำทำนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรมีงานเดียวงานหลักเสมอไป เพราะคนเราจะล้มเมื่อไหร่ก็ได้ จะโดนปลดออกจากงานวันไหนยังไม่รู้เลย ดังนั้นเราควรหาอาชีพเสริมที่สามารถทำควบคู่กับงานประจำได้เพราะเมื่อเวลาเราโดนให้ออกจากงานเราก็ยังมีอีกอาชีพหนึ่งทำอยู่ 


ขอบคุณภาพปกจาก : freepik.com URL  https://bit.ly/2VHGi0p

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์