ตัวอะไรอยู่ในวัด

        เรื่องนี้เกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีเมื่อต้นปี 60 ที่ผ่านมา  ในช่วงเทศกาลปีใหม่  หลายคนได้กลับบ้านไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัด  ส่วนฉันไม่ได้หยุด  ต้องทำงานช่วงเทศกาลเหมือนเช่นทุกปี  แต่ก็แอบเสียดายอยู่ลึกๆที่ไม่ได้กลับบ้านช่วงเทศกาลเหมือนคนอื่นเขา  ครั้นจะลาออกไปหางานใหม่ทำก็ไม่แน่ใจว่าจะหางานที่ผลตอบแทนดีเหมือนตอนนี้ได้รึเปล่า  และอีกอย่างสมัยนี้งานก็หายากมาก 

        ฉันเช่าหอพักอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก  ระยะทางจากหอพักไปถึงที่ทำงานก็ราวๆ 5 กิโลเมตร  ทางที่ฉันขับไปทำงานมีสองทาง ทางเส้นแรกเป็นถนนคอนกรีตตลอดทั้งเส้นทางและต้องขับผ่านหน้าเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่ง  เส้นทางที่สองระยะทางใกล้กว่าทางเส้นแรก  แต่เปลี่ยวกว่าและต้องขับผ่านสุสานจีน  แต่โดยรวมแล้วทั้งสองเส้นทางจะใช้เวลาเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ประมาณ 10 นาทีก็ถึงที่ทำงาน  ช่วงเวลางานของฉันจะแบ่งออกเป็น 2 กะ คือ กะเช้าเริ่มเข้างานตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงห้าโมงเย็น ถ้ามีโอทีก็จะเลิกงานสองทุ่ม  และกะดึกเริ่มเข้างานตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงแปดโมงเช้า กะดึกไม่ค่อยมีโอทีเหมือนกะเช้า  ทำให้ฉันมีเวลาพักผ่อนได้มากพอสมควร  และการเดินทางไปทำงานของฉันก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้

         ฉันเห็นดังนั้นจึงรีบบิดคันเร่งเพื่อออกจากบริเวณเขตวัดให้เร็วที่สุด  หมาดำตัวนั้นวิ่งไล่ฉัน  มันวิ่งเร็วมากจนเกือบจะถึงตัวฉันอยู่แล้ว  ฉันกลัวมากร้องออกมาสุดเสียงแล้วรีบเร่งเครื่องออกแรงบิดคันเร่งเต็มที่โดยไม่สนใจกับคลื่นของลูกระนาดจนรถมอเตอร์ไซต์เกือบล้ม  ยังดีที่ทรงตัวอยู่ได้ทุกครั้ง  มันวิ่งไล่ตามจนกระทั่งพ้นเขตบริเวณวัด  แล้วมันก็หยุดวิ่งไล่ตาม  ฉันมองมันกระจกเห็นมันภาพค่อยๆ จางหายไป  จนกระทั่งฉันขับมอเตอร์ไซต์มาถึงหอพัก

        คืนนั้นกว่าจะนอนหลับได้ก็ดึกมากแล้ว  ฉันไม่กล้าข่มตานอนหลับเลย  ครั้นจะโทรหาเพื่อนก็เกรงใจเพราะดึกแล้ว  ได้แต่นอนสวดมนต์ภาวนาจนม่อยหลับไป  และฝันว่ามีหมาดำตัวเดิมที่วิ่งไล่ฉันเมื่อตอนขับรถกลับหอพักมันวิ่งไล่จะกัดฉันอีกแล้ว  แต่มันก็กัดไม่ได้เพราะฉันถือไม้คอยตีมันอยู่  กระทั่งฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้า   ฉันตื่นขึ้นและโทรไปเล่าเหตุการณ์และความฝันให้แม่ฟัง  แม่บอกว่ามันเป็นปอบ  และแนะนำให้ฉันห้อยพระติดตัวไปด้วย  วันหยุดก็ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขา

        และนี่ก็เป็นเรื่องราวอันน่ากลัวของฉันที่นำมาแบ่งปันให้อ่านกันค่ะ 

ขอบคุณภาพหน้าปกจาก pexels.com ภาพโดย Trey Gibson