อื่นๆ
ตุ๊กตาไล่ฝน...เรื่องเล่าภายใต้ความน่ากลัว และการเสียสละ???
Hahauesama ogenki desuka เพลงที่หลาย ๆ คนจะต้องเคยฟังและร้องตามได้พร้อมกับภาพตุ๊กตาที่แขวนไว้พร้อมกับบรรยากาศฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไป คงจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนที่ดูอิกคิวซังจะต้องนึกถึง เพราะตุ๊กตาที่แขวนไว้นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่โดดเด่น แล้วที่มาที่ไปของตุ๊กตานี้มีที่มาจากอะไร
ตุ๊กตาที่เป็นเพียงผ้าสีขาวผูกเชือกไว้ที่ริมหน้าต่างในยามที่ท้องฟ้ามั่วหมองไปด้วยเมฆฝนทันใดท้องฟ้ากลับสว่างสดใส สำหรับคนที่เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นหรือภาพยนต์หลาย ๆ เรื่อง ก็คงจะเคยเห็นฉากดังกล่าว แล้วเข้าทำไปเพื่ออะไรกัน… คำตอบก็คือ เพื่อของให้ตลอดทั้งวันหรือวันรุ่งขึ้นไม่มีฝนตกตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น(สุดดาร์ก) และการเสียสละสุดแสนเศร้าการเสียสละของทางจีน ??? ก็พอที่จะเข้าใจได้ว่าทั้งสองประเทศรวมไปถึงเอเชียแถวบ้านเราต่างก็มีรากฐานทางวัฒนธรรมที่มีความคล้ายกันอยู่แล้วในบ้างเรื่อง แล้วที่มาตุ๊กตาไล่ฝนของทั้งสองประเทศมีที่มาอย่างไร ลองมาดูทางฝั่งของญี่ปุ่นกันก่อนกับที่มาสุดแสนจะดาร์กกันก่อน
Advertisement
Advertisement
เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงสมัยก่อนมีพระสงฆ์อยู่รูปหนึ่งที่ว่ามีความสามารถมากซึ่งรวมไปถึงการไล่ฝน ซึ่งในตอนนั้นได้มีฝนตกหนักมาก ทางเจ้าเมือง ( ไดเมียว ) ในขณะนั้นจึงได้นิมนต์พระสงฆ์องค์ดังกล่าวมาให้ช่วยสวดมนต์พิธีหยุดเพื่อฝน แต่ว่าไม่ว่าพระสงฆ์จะทำเช่นไรฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจึงทำให้ทางเจ้าเมืองนั้นโกรธมากจึ้งสั่งให้ตัดหัวออกมาคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาวผูกแขวนด้วยเชือกไว้ แต่การกระทำเช่นนั้นกลับทำให้ฝนหยุดตก นี้จึงเป็นที่มาของทางฝั่งญี่ปุ่น
แล้วที่มาของตุ๊กตาไล่ฝนทางฝั่งจีนเองก็มีที่มาจาก ในอดีตพญามังกรได้บันดาลให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนังทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองโดยที่ไม่ว่าชาวบ้านจะทำพิธีของให้ฝนหยุดตกอย่างไรฝนก็ไม่หยุด แต่ทว่าได้มีหญิงสาวผู้หนึ่งที่ได้ยินเสียงจากสวรรค์ที่ได้บอกกับนางว่า ถ้านางยอมสละชีวิตตัวเองก็จะทำให้ฝนหยุดตกได้ โดยในตอนนั้นได้มีการคาดการว่าถ้าฝนยังไม่หยุดตกก็จะเกิดภัยพิบัติใหญ่น้ำจะท่วมทำให้ทั้งเมืองจมอยู่ใต้น้ำแน่นอน นั้นจึงทำให้หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะสละชีวิตตัวเองต่อพญามังกรเพื่อให้ฝนนั้นหยุดตก โดยนางนั้นได้สั่งเสียต่อคนอื่น ๆ โดยได้บอกว่า เมื่อใดที่เกิดฝนตกหนักอีกให้ตัดกระดาษเป็นรูปของนางแล้วแขวนไว้ที่ชายคาของบ้านเพื่อให้เป็นการขับไล่ฝน ซึ่งตำนานนี้เป็นที่มาของ เซ่าฉิงเหนียงที่แปลว่าหญิงสาวผู้ปัดกวาดเมฆฝน
Advertisement
Advertisement
ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งสองตำนานเรื่องเล่านี้ต่างก็มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ การไล่ฝนนั้นเอง ถึงแม้ว่าจะมีเค้าโครงเรื่องเล่าที่มีความต่างกันแต่สิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างทั้งสองเรื่องราวเข้าด้วยกันก็คือ ความศรัทธา ในบางสิ่ง ทางญี่ปุ่นก็ศรัทธาในพระสงฆ์ที่มาทำพิธีไล่ฝน ( ที่ถึงแม้ว่าจะต้องโดนตัดคอก็ตาม ) ส่วนทางจีนก็ศรัทธาในเรื่องของพญามังกร เสียงที่มาจากสวรรค์ ( ที่บอกให้ตัวเองต้องตาย ) แต่ถึงอย่างไรด้วยความเชื่อเหล่านี่ที่สืบทอดต่อกันมามันก็เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนเราในเรื่องเหนือธรรมที่มีมาแต่ก่อนโบราณโดยอาจจะเป็นกลอุบายสั่งสอนเด็ก ๆ เพื่อให้ไม่ต้องออกมาเล่นฝนจนทำให้ป่วยก็ได้
ในส่วนของคนไทยเราก็มีความเชื่อเรื่องเกี่ยวกับการปักตะไคร้เพื่อไล่ฝนอยู่ด้วย...
ภาพทั้งหมดเป็นผลงานของนักเขียน Black legend
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น
