อื่นๆ

ทำงานช้า... ได้ผลเกินคาด​

317
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ทำงานช้า... ได้ผลเกินคาด​

ภาพหน้าปก​โดย​ hamonazaryan1 จาก​ Pixabay.com​


งานในปัจจุบั​นนั้นเป็นเช่นไรในความคิด​ของเราครับ... เราอาจจะรู้สึกมันหนักมันเหนื่อย​หน่ายที่จะทำ​ รู้สึกว่าเรากดดันบีบคั้นเสมอ​ ๆ​ และเราทำงานอย่างไม่มีความสุข​เลย... ความจริงที่ต้องยอมรับคือสังคมปัจจุบัน​ถูกหล่อหลอม​มาจากสังคมยุคก่อนที่เน้นไปที่เรื่องระบบเศรษฐกิจ​ การค้า​ การแข่งขัน​กันทำกำไรมากกว่า​จะเน้นคุณภาพ​ชีวิตของคนในสังคมครับ

เรียกว่าระหว่างคนทำงานที่มีความสุข​กับคนทำงานที่ให้ได้ผลผลิต​เยอะ​ ๆ​ คนยุคก่อนจะเลือกอันไหน... ผมมั่นใจว่าคุณ​ทราบคำตอบ​ดีนะครับ​ โดยเฉพาะ​คนที่กำลังสัมผัส​ในรูปแบบ​ Fast​ Work​ อยู่ประจำ

ในขณะที่​เราหลายคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงานที่ไร้ความสุข​ต้องเอาแต่เร่งรีบ​ ก็ยังมีคนทำงานอีกกลุ่มหนึ่งที่แม้จะไม่ได้รู้สึกดีกับงานแบบเต็มร้อยแต่ก็ยังทำเพื่เพื่อ​หวังว่าจะมีอนาค​ตที่ดี​ ทำงานมาก​ ๆ​ หาเงินเยอะ​ ๆ​ เพื่อหวังจะได้ก่อร่างสร้างตัว​ แล้วก็หักโหมทำงานแบบไม่ดูแลตัวเอง​ แบบผู้บริหาร​มากมาย​ที่มีตำแหน่ง​สูงสมดังใจหมายแต่แล้วก็ต้องมาแลกด้วยสุขภาพ​ครับ

Advertisement

Advertisement

นั่นคือเร่งทำงาน​ หาเงินจนลืมดูแลตัวเอง​ แล้วสุดท้ายเงินทุกบาททุสตางค์​ก็เข้าโรงพยาบาล​หมด... 

Moneyภาพโดย​ Tumisu จาก Pixabay.com​


คนทำงานสไตล์​ Fast​ Work จึงมีอยู่​ 2​ ลักษณะ​ครับคือ​ ถ้าไม่ทำงานอย่างเร่งรีบ​ด้วยความรู้สึก​ทุกข์​และเบื่อหน่าย​ ก็จะทำงานแบบเร่งรีบ​ด้วยความเต็มใจแต่สุดท้าย​ก็เสียหายถึงสุขภาพ​อีกด้วย

และอาจจะเสียหายไปถึงด้านอื่น​ ๆ​ ของชีวิต​ เช่น​ ห่างเหิน​กับครอบครัว​มีช่องว่างกับคนรัก... ครอบครัว​ หรือคนรอบข้าง​ แบบนี้แล้วการทำงานแบบชีวิตเร่งด่วนจึงไม่ใช่อะไรที่จะนำมาซึ่งความสุข​ที่แท้จริงได้เลยครับ

ถ้าเช่นนั้น​เราควรจะทำอย่างไร... เลิกทำงานไปเลยดีไหม... แน่นอนครับถ้าทำแบบนั้นปัญหา​ต่อมาคือ​ เราจะขาดรายได้​ แล้วเช่นนั้นเราควรทำเช่นไร... ผมขอเสนอวิธีทำงานแบบ​ Slow​ Work ให้คุณ​ลองพิจารณา​กันครับ​ ยังจำคำกล่าวว่า​ "หากเราได้ทำงานที่เรารัก​ เราชอบ​ จะเท่ากับเราไม่ต้องทำงานอีกเลยตลอดชีวิต"  คำคมนี้มีความหมาย​ว่าถ้าหากเราได้ทำงานที่เราอยากทำ​ เราชื่นชอบ​ และเราหลงรักมันอย่างแท้จริงแล้ว​ เราจะสนุกกับการทำงาน​ ความสนุกและบรรยากาศ​แห่งความกระตือรือร้น​จะอบอวล​ไปตลอดเวลาทำงานครับ​

Advertisement

Advertisement

คำแนะนำแรก​คือ​ ให้คุณ​ได้ลองค้นหาตัวเองให้เจอ​ ค้นให้พบว่าชอบงานอะไร​ อยากทำงานแบบไหน​ อะไรคืองานที่หากคุณ​ได้ทำแล้วจะมีความสุข​และอยากทำมันทั้งวัน​ อย่างเช่น​ ถ้าคุณ​ชอบหนังสือ​หรือทำงานเขียน​ แน่นอนว่าการได้ทำงานเกี่ยวกับหนังสือและการเขียน​จะทำให้คุณ​รู้สึก​อิ่มเอม​ คุณยินดีที่จะสร้างสรรค์​งานเขียนออกมาเรื่อย​ ๆ​ ตามอารมณ์​และความคิดจะอำนวย

แต่ถ้าคุณ​ชอบทำอาหารก็ควรไปเป็นเชฟทำอาหาร​ แล้วคุณ​จะสนุกกับการปรุงอาหารหลากชนิด​ รวมไปถึง​การออกแบบเมนู​อาหารใหม่​ ๆ​ ด้วยตนเองและชอบที่จะให้มีคนมากินอาหารฝีมือเรา​ ถ้าคุณ​ชอบตัวเลข​ คุณย่อมเหมาะกับงานบัญชี​งานที่ต้องใช้ความละเอียดและการคำนวณ หรือถ้าคุณ​ชอบช่วยเหลือ​เป็นที่ปรึกษา​ให้คนอื่นคุณก็จะสนุกกับการทำงานในสายจิตวิทยา​ อย่างนี้เป็นต้นครับ

คำแนะนำอย่างที่สองคือ​ เมื่อได้ทำงานที่ตนรักชีวิตก็ดีขึ้น​ การทำงานแบบที่ตนรักจึงเป็นจุดเริ่มต้น​ที่สำคัญ​ของชีวิต​ครับ​ คุณจะอยากทำงานไปเรื่อย​ ๆ​ แบบไร้ความเครีีย​ด​ ความกดดัน​ ซึ่งในระยะแรกของการพยายามเริ่มต้นสิ่งที่รักนั้น​ เราอาจต้องใช้เวลา​ ต้องอดทนต้องพิสูจน์​ตัวเองพอสมควร​ แต่เมื่อผ่านทุกอย่าง​ไปได้คุณจะรูู้สึ​กภูมิใจ​ในตนเองและนั่นจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตแสนสุขกับการทำงานที่เรารักไปได้อีกนานเลยล่ะครับ​

Advertisement

Advertisement

Workภาพโดย​ FotografieLink จาก​ Pixabay.com​


อย่ากลัวที่จะตามหาว่าตัวเองชอบงานอะไร​ และเมื่อค้นพบแล้วก็เดินหน้านำพาตัวเองเข้าสู่​งานนั้น​ ๆ​ แต่มีข้อแม้แนะนำเล็กน้อยว่า เราต้องเลือกบริษัท​ที่จะไปทำงานให้ดีนะครับ​ แม้จะเป็นงานที่เรารักแต่ควรเลือกบริษัท​ที่มีประวัติ​และมีความมั่นคง​ เนื่องจากมีคนมากมาย​ไปสมัครทำงานที่รักมนบริษัท​แต่ไม่ได้รักในงานนั้น​เลย​ ทำให้เขาเหล่านั้น​ต้องกลับสู่วังวนทำงานเร่งด่วน​อีกครั้ง​ ซึ่งหากไม่รีบนำพาตัวเองอแกจากที่นั่นให้ทัน​ เราก็อาจเปลี่ยนความรู้สึก​เป็นเกลียดงานที่เรารักไปเลยก็ได้ครับ

เมื่อได้ทำงานที่เรารักนั้นจงทำมันในแบบ​ Slow​ Work​ ไม่ได้หมายความว่าให้ทำช้าแต่หมายความ​ว่าทำอย่างใส่ใจรายละเอียด​ ทำอย่างตั้งใจให้ผลงายแต่ละชิ้นออกมาดีครับ​ และต้องไม่ลืมที่จะค่อย​ ๆ​ พัฒนา​ตัวเอง​ให้มีความยอดเยี่ยม​มากขึ้น​ ซึ่งความท้าทาย​และสิ่งใหม่​ ๆ​ เพื่อเพิ่มรสชาตของการทำงานของเราได้เป็น​อย่างดี

แต่สำหรับ​คนที่ยังไม่เจองานที่ตนรัก​ หรือเจอแล้วแต่ยังไม่สามารถ​หาที่ทำงานได้จึงทำให้จำต้องทำงานเดิมล่ะ​ จะมีทางออกให้มีความรู้สึก​ดีต่อการทำงานมากขึ้นบ้างไหม... ไม่ต่องห่วงครับ​ ผมมีคำแนะนำให้กับคนทำงานทุกลักษณะ​อยู่แล้ว

เมื่อเราจำต้องทำงานเดิมที่ไม่ได้ชื่นชอบนัก​ เราก็สามารถปรับเปลี่ยน​ระบบการทำงานที่เร่งรีบกดดันให้มันช้าลงครับ​ ใช่ครับ​ เราทำได้! แม้เราจะไม่อาจเปลี่ยนระบบงานของทั้งบริษัท​ได้​ แต่เราก็สามารถเปลี่ยนรูปแบบ​การทำงานที่เราเป็นคนทำได้​ โดยถือหลักสำคัญ​ว่า​ "เราคือนายของงาน" 

กล่าวคือเราจะไม่มัวแต่ไปกดดัน​ ตื่นเต้นหรือเร่งรีบเพราะตัวงานอีกต่อไปครับ​ แต่เราจะหันมาคุมสถานการณ์​ คุมให้ระดับความเร็ว​ในการทำงานของเราเป็นไปอย่างพอเหมาะ​กับตัวเราเอง​ เราต้องประเมินตัวเองว่างานแต่ละชิ้นนั้นเราจะสามารถทำสำเร็จ​ได้ในเวลาเท่าใด​ และทำเสร็จ​ที่ว่านี้ก็ต้องออกมาอย่างสมบูรณ์​ด้วยนะครับ

สำเร็จ​ภาพโดย​ jerrykimbrell10 จาก Pixabay.com​


ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วนะครับ​ เราจะต้องรู้จักคิดบวกไม่ว่ากับงานใด​ ไม่ว่าจะสถานการณ์​ไหน​ หากเจอปัญหา​ระหว่างการทำงานก็ให้มองว่านี่คือโอกาส​แห่งการฝึกทักษะ​การแก้ปัญหา​ หรือเราอาจสะสางงานจนทำให้ปัญหา​นั้นไม่เกิดอีกเลยก็ได้

เราคิดบวกได้เสมอครับ​ งานที่หนักก็คือโอกาส​ฝึกฝน​ หรือการทำงานไม่ทันเวลาก็เป็นบทเรียนให้เราย้อนมองไปว่าเราขี้เกียจ​หรือไม่​ เราเลินเล่อ​เริ่มต้น​ทำงานช้าเกินไปหรือเปล่า​ จะเห็​นได้ว่าแทบทุกมุมในการทำงานนั้นเราสามา​รถใช้มันเป็นครูเพื่อสอนให้เราเก่งขึ้นได้​ มันอยู่ที่การรู้จักมองนั่นเองครับ

🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸🌸

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์