ทำงานอยู่บ้าน Work From Home อย่างไรให้สดใสในทุกวัน

เรื่อง เพิร์ลลิลล่า

ภาพปก kreatikar // Pixabay

            เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย  การ Lock Down 100%  จึงได้เริ่มขึ้นแล้วในวันที่ 20 กรกฏาคม 2564 นี้  บริษัทหลายแห่งได้มีการปรับตัวให้พนักงานทำงานอยู่บ้านกันมากขึ้น  ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่นักสำหรับคนไทย   เพราะเมื่อปีที่แล้ว (2563)  ก็ได้มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง  ซึ่งการทำงานอยู่บ้านหรือ Work From Home ก็ได้ถูกพูดถึงแล้วตั้งแต่ในครั้งนั้น

            แต่ถึงกระนั้น  การ Work From Home  ก็ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายๆ คน   เพราะโควิด19 ในรอบนี้  กระทบกับคนทุกระดับชั้นเลยค่ะ  คนที่เมื่อปีที่แล้วไม่ได้ Work From Home  ก็ได้มาทำงานอยู่บ้านกันรอบนี้แหละ   หลายคนก็ยังปรับตัวกันไม่ได้

            แต่ในฐานะที่ผู้เขียนคร่ำหวอดในวงการ Work From Home  มานาน   เพราะทำงานอยู่บ้านมานานแล้วค่ะ  อยากจะบอกผู้อ่านว่า  มันดี๊ ดี  เราไม่ต้องมาเครียดตื่นแต่ตีสี่ตีห้าเพื่อไปทนรถติดบนถนนเป็นชั่วโมง  เลิกงานก็มีเวลาพักผ่อนอยู่บ้านเยอะขึ้น ลองแล้วจะติดใจนะ

            ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท  ที่ทำงานคงต้องมีเวลาเข้างานให้คุณ  ดังนั้นคุณควรมีตารางเวลาว่า เมื่อไหร่  กีโมง ที่คุณจะมานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มทำงาน

            แต่ถ้าคุณทำงานฟรีแลนซ์  งานส่วนตัวอื่นๆ ที่ไม่มีใครมาฟิกการทำงานของคุณ  คุณก็ควรตั้งเป้าการทำงานเอาไว้แต่ละวัน  ว่าวันนี้จะทำงานอะไร กี่ชั่วโมง  จะทำงานให้เสร็จระดับไหน  เพื่อให้เรามีเป้าหมายในการทำงานในแต่ละวัน

ภาพประกอบ geralt // Pixabay

            3.ทำความเข้าใจกับคนรอบข้างไว้แต่เนิ่นๆ   เมื่อรู้แน่ว่าเราจะต้องทำงานที่บ้าน Work From Home แน่นอนแล้ว  ให้เคลียร์กับคนที่บ้านไว้ค่ะ  บอกให้รู้ว่าเราจะต้องทำงาน  เราต้องการอะไรบ้าง  อย่างเช่นผู้เขียน  เมื่อวันที่ตัดสินใจว่าจะทำงานที่บ้าน  ก็ได้บอกคุณนายแม่ไว้เลยค่ะ  ว่าผู้เขียนต้องการความเงียบเวลาทำงาน  ได้โปรดอย่าเพิ่งรบกวน  อย่าเรียกไปล้างจาน ให้ข้าวแมว ตอนทำงานนะ   ซึ่งคุณนายแม่ก็เข้าใจค่ะ

            ดังนั้น  ถ้าคุณมีญาติ มีลูก แม่ หรือใครอยู่ที่บ้าน  บอกกับเขาให้เข้าใจก่อนนะคะ  ว่าเราทำงานอะไรยังไง   เขาจะได้ไม่เป็นห่วง  แล้วก็ไม่เผลอรบกวนเราโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ

            4.ตั้งเวลาพักสำหรับตัวเอง   ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท   ปกติคุณจะต้องพักเที่ยงทุกวันอยู่แล้วหนึ่งชั่วโมง  มีพักเบรคกาแฟอีก 15 นาทีสองครั้งในหนึ่งวัน   อย่าเสียมันไปนะคะ  ให้ตั้งเวลาพักเอาไว้สำหรับให้ตัวเองได้รีแลกซ์จากงานด้วยค่ะ

            แต่กรณีของผู้เขียนที่ไม่ได้ทำงานประจำมานานแล้ว  ผู้เขียนตั้งเวลาพักไว้เลยว่า  นั่งทำงานไปนานที่สุดหนึ่งชั่วโมง  ต้องพักอย่างน้อยห้านาที  ไม่รวมเวลาทานข้าวนะ  เพิร์ลลิลล่ามีพักทานข้าวเป็นของตัวเองอีกรอบ

            เพราะเวลาพักสำคัญมาก   มันจะช่วยให้ระหว่างวัน คุณไม่เหนื่อยหรือเครียดเกินไป  ประสิทธิ์ภาพของงานก็จะดีขึ้นด้วย

            และที่สำคัญ  อย่าโกงเวลาพักของตัวเองนะ  ตั้งใจว่าจะพักสักชั่วโมง  ก็พักให้ครบนะ  ถ้ามีเหตุให้ต้องกลับมาทำงานก่อนเวลาพักเราหมด  ก็ทดเวลาช่วงอื่นพักให้ครบ  งานสำคัญ  ทำเยอะก็ได้เงินดี  แต่ถ้าเครียดเกินไปโรคภัยจะถามหา  ดังนั้น  ทำอะไรให้พอดีจะดีที่สุดค่ะ

ภาพประกอบ StockSnap // Pixabay

            5.ยืนเส้นยืดสายผ่อนคลายบ้าง  ลุกจากหน้าคอมออกมาเดินไปมาบ้าง  บิดซ้ายขวา  เคลื่อนไหวร่างกายออกกำลังกายบ้าง    เดินไปรดน้ำต้นไม้ในสวนบ้าง   เพราะคุณควรต้องออกกำลังกายให้เลือดหมุนเวียนได้เต็มที่  สุขภาพจะได้ดีไปพร้อมกับการทำงานที่มีประสิทธิ์ภาพด้วย

            เป็นไงคะ 5 Tips นี่เขียนจากประสบการณ์จริงของคนที่นั่งทำงานหน้าคอมที่บ้านมาหลายปีเลยนะ  หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านได้บ้างนะคะ  สุดท้ายนี้ขอให้การทำงานอยู่บ้าน Work From Home ของทุกๆ คน  ไม่น่าเบื่อ  และสนุกในทุกวันนะคะ

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !