อื่นๆ
ทำดีเพื่ออะไร

เมื่อชีวิตเข้าตาจน หลายคนก็หันหน้าพึ่งธรรมมะ หลายคนก็หันหน้าพึ่งธรรมมะ ๆ ที่ ธรรมมะนั้นอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา แต่ในยามปกติเรามักไม่ค่อยใส่ใจ ผมเคยมีเพื่อนคนหนึ่ง "เขาชอบพูดว่า เวลาคนเรามีสตางค์ ก็มักจะขาดสติ พอมีสติก็มักจะขาดสตางค์" ฟังดูตลก แต่พอเอามาคิดก็เข้าเค้าอยู่เหมือนกัน คนเราเวลาเข้าวัดตอนมีสตางค์กับไม่มีสตางค์ มันคนละฟีลเลยนะ ตอนมีสตางค์ เข้าไปทำบุญหน้าบาน รับเอาส่วนบุญ แต่ไม่ค่อยสนใจว่าธรรมมะสอนอะไร ตอนไม่มีสตางค์ หน้าแห้ง ตั้งใจฟัง เพราะต้องการหาทางออกให้ชีวิต
คนเราทำบุญ หลายคนใส่บาตร ทำบุญ ให้ทาน ลึก ๆ ก็หวังว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ ได้บุญ ได้อานิสงส์จากการทำบุญ แล้วถ้าไม่ได้อะไรเลย จะทำกันหรือเปล่า ลองคิดกันเองก็แล้วกัน สำหรับผมนั้น ผมคิดว่าได้นะ เพราะผมคิดว่าการที่คนเราทำความดีนั้น ไม่ได้ทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่ทำเพื่อให้ตัวเองดู เพื่อที่ว่าวันข้างหน้าในยามที่ตกต่ำ เรายังสามารถเคารพตัวเองได้ เราทำความดีเพื่อให้ตัวเองรักตัวเอง ยอมรับตัวเอง ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นยอมรับเรา แบบนี้จะได้อานิสงส์อย่างแน่นอน จับต้องได้ ในศาสนาคริสต์เองก็มีคำกล่าวว่า เวลาสวดมนต์ขอพรพระเจ้า ต้องเข้าไปสวดในห้องชั้นใน ปิดประตูมิดชิดอย่าให้ใครได้ยิน ก็เปรียบเสมือนปิดทองหลังพระ อย่าทำโชว์ใคร อย่าทำดีหรือทำว่าเคร่งครัดให้คนอื่นดู ทุกอย่างทำให้ตัวเองดูเท่านั้น พระเจ้าจึงจะอวยพร แต่สำหรับผม พระเจ้าก็คือจิตใต้สำนึกของเรานี่แหละ ถ้าเราทำดีให้ตัวเองดูเป็นประจำ พลังของจิตใต้สำนึกจะส่งผลในทางที่ดี 
เพราะฉะนั้นการทำบุญ การให้ทาน การทำความดี นั้น ต้องหมั่นทำให้ตัวเองดูอยู่เสมอ โดยเฉพาะในยามที่ไม่มีใครเห็น แล้ววันหนึ่งคุณจะได้สัมผัสกับจิตที่เข้มแข็งทรงพลังที่จะเหนี่ยวนำสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตคุณ
Advertisement
Advertisement

วิน (สายลมที่พัดผ่าน)
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น






